SIAMZONE.COM

เนื้อเรื่องเกิดในช่วงยุค 1948-1951 ของอเมริกา โดยเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายผจญภัยท่องเที่ยวชื่อดัง แจ็ค เครูแอคเจ้าของนิยายอยากเขียนนิยายที่เกี่ยวกับมิตรภาพ ศึกษาชีวิตคนหนุ่มสาวผู้ "ปฎิเสธการทำงาน" และออกเที่ยวทั่วประเทศอเมริกา โดยได้ วอลเตอร์ ซัลเลส จาก The Motorcycle Diaries มารับหน้าที่กำกับ นี่เป็นหนังที่จะนำพาคนดูออกเดินทางไปพร้อมกับตัวละคร เป็นหนังแนว Coming of Age ที่ขายการแสดง โดยเฉพาะ 2 หนุ่มที่เป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง�

ซัล พาราไดซ์ (แซม ไรลีย์) นักเขียนหนุ่มไฟแรงที่รักการเดินทาง การได้พบเจอผู้คน สังคม บรรยากาศต่างถิ่นเป็นไอเดียที่เค้ามักจะหยิบมาใส่ในงานเขียนซึ่งเป็นแนว"กวีขบถ" อาวุธติดตัวของซัลก็คือ สมุดโน้ตเล่มเล็กๆ กับดินสอแท่งจิ๋วเอาไว้คอยจดบันทึกเรื่องราว หลังจากที่พ่อของเค้าเสียชีวิต ซัลอาศัยอยู่กับแม่สองคน แต่มักจะทิ้งให้แม่อยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะสนุกที่จะออกไปเผชิญโลก ออกไปเดินทางค้นหาอะไรใหม่ๆ เค้าชอบโบกรถ และไม่เกี่ยงงาน งานจับกัง กรรมกรได้ค่าแรงต่ำเอาหมด ชีวิตของซัลเริ่มออกรสชาติมากขึ้นเมื่อได้พบเพื่อนใหม่อย่าง ดีน มอริอาร์ตี้ (การ์เรตต์ เฮดลันด์ พระเอก Tron Legacy) ดีน เป็นคนที่ชอบเที่ยว ชอบผู้หญิง เค้าได้แนะนำ แมรีลู (คริสเตน สจ๊วต) ให้ซัลรู้จัก หากดูเผินๆดีนกับแมรีลู เหมือนจะเป็นแฟนกัน แต่เอาเข้าจริงก็เป็นแค่เพื่อนและคู่นอน (ห๊ะ!) เพราะดีนมีผู้หญิงที่คบกันอยู่แล้วชื่อ คามีลล์ (คริสเตน ดันสท์) ซึ่งดีนก็ได้แนะนำซัลให้รู้จักกับคาร์มีลล์อีกเช่นกัน ดีนบอกซัลว่าสองสาวไม่รู้หรอกว่า เค้ากำลังจับปลาสองมือ แต่ความจริงแล้วทั้งแมรีลูและคามีลล์อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เพราะทั้งคู่เป็นผู้หญิงที่ฉลาด โดยเฉพาะแมรีลู ที่ประกาศตัวว่าเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ ไม่ถือสาเรื่องนี้ (เหรอ) เพราะเธอก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วเป็นทหารเรือ (อ้าว?) อ่านมาถึงตรงนี้ ผมเดาว่าคุณผู้หญิงต้องคิดในใจว่า "อีนี่วันทองหลายใจจัง" อยู่แน่ๆ 555�

หนังเรื่องนี้แรงอยู่ครับ มีฉากเสพยาเกือบทั้งเรื่อง และมีฉากสวิงกิ้งของ ดีน ซัล แมรีลู ฉากเปลือยของคริสเตน สจ๊วตก็มี แต่อย่างที่บอกเมื่อตอนต้น ว่าหนังเน้นโฟกัสที่ 2 หนุ่ม ดีนกับซัล ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเป็นทั้งเพื่อนรักเหมือนพี่เหมือนน้องกัน สิ่งที่จะกระทบจิตใจก็คือ พฤติกรรมของดีน ชายหนุ่มที่คนดูจะทั้งรักทั้งเกลียด ดีนเป็นคนที่ไม่เอาอะไรเลย รักสนุกจนมากเกินไป และพฤติกรรมแย่ๆบางอย่างที่แม้แต่เพื่อนสนิทยังต้องส่ายหน้า (หนักกว่าชอบจิ๋กของ) ในขณะที่ซัลเป็นเหมือนไกด์ที่จะพาคนดู ออกเดินทางไปพบปะผู้คน รู้จักกับสมาชิกกลุ่มกวีขบถไปพร้อมกับเค้า น้ำเสียงบรรยายของเค้าโอเคเลย นอกจากนี้ก็ยังมีนักแสดงสบทบอีกมากมาย ทั้ง วิกโก้ มอร์เทนเซ่น เด่นในฉากโชว์ก้น (หา!) เอมี่ อดัมส์ เด่นในบทภรรยาวิกโก้ เป็นคนบ้าที่แอบแรงด้านคำพูด (เอ๊ะ?) และ ทอม สเตอร์ริดจ์ จาก Twilight ในบทเกย์่เพื่อนสนิทที่แอบชอบดีน และยังมีนักแสดงอีกหลายคน บลาๆ ส่วนตอนจบความสัมพันธ์ของตัวละครหลักทั้งสองจะลงเอยเช่นไรนั้น ใครจะเกิดใครจะดับ ก็ต้องไปชมกันเอง ไม่ยากเกินคาดเดา

On The Road เป็นหนัง Road Movie ที่มีพลอตหลักชัดเจน ขณะที่พลอตเสริมของกลุ่มกวีขบถคนอื่นๆก็มีทั้งส่วนที่เด่น และส่วนที่รู้สึกเฉยๆ ตัดสลับกันไป หนังที่มีตัวละครเยอะแบบนี้ จะให้เขียนบรรยายให้หมดดูจะไม่เข้าท่า เพราะเดี๋ยวจะยาว และจะเสียอรรถรสกันซะเปล่าๆ ถ้าสนใจอยากให้ไปชมเอง ส่วนใครที่ไม่ชอบหนังแนวดราม่าพูดคุยตลอดทั้งเรื่องก็ขอให้เลี่ยง เพราะหนังยาว 137 นาที ท่านอาจหลับได้ ส่วนตัวแล้วคิดว่าหนังเรื่องนี้ดูได้เพลินๆ เพราะอย่างน้อยๆนี่ก็เป็นหนังที่ขายการแสดงอีกเรื่องที่ดูจบแล้วสามารถนำกลับมาคิดต่อได้ แม้ว่าจะไม่ใช่หนังดี ถึงขั้นน่าประทับใจก็เหอะ แต่ด้านการแสดงอาจจะได้เข้าชิงรางวัลนะเออ! อย่างไรก็ตามนี่เป็นความเห็นส่วนตัว (วิจารณ์หนังตามใจฉัน) อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ชมด้วยตัวเอง