เกร็ดน่ารู้จาก Frankenweenie
เกร็ดน่ารู้
- เป็นการร่วมงานภาพยนตร์ครั้งที่ 3 ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน และ วิโนนา ไรเดอร์ ผู้ให้เสียง เอลซา แวน เฮลซิง หลังจากเคยร่วมงานกันใน Beetle Juice (1988) และ Edward Scissorhands (1990)
- เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง ทิม เบอร์ตัน ในฐานะผู้กำกับ กับ แคตเธอรีน โอ'ฮารา ผู้พากย์เสียง ซูซาน แฟรงเกนสไตน์ หลังจากเคยร่วมงานกันใน Beetle Juice (1988)
- เป็นการนำ Frankenweenie (1984) ภาพยนตร์สั้นชื่อเดียวกันของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน กลับมาสร้างใหม่
- เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีนับตั้งแต่เรื่อง Big Fish (2003) ที่ ทิม เบอร์ตัน กำกับภาพยนตร์โดยไม่มี จอห์นนี เดปป์ แสดงนำ และเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ที่ไม่มี เฮเลนา บอนแฮม-คาร์เตอร์ แสดงนำ นับจากเรื่อง Sleepy Hollow (1999)
- เป็นเรื่องที่ 10 ที่ คริสโตเฟอร์ ลี รับบทเป็น แดรกคิวลา โดยผลงานก่อนหน้านั้น ได้แก่ Dracula (1958), Dracula: Prince of Darkness (1966), Dracula Has Risen from the Grave (1968), Nachts, wenn Dracula erwacht (1970), Taste the Blood of Dracula (1970), One More Time (1970), Dracula A.D. 1972 (1972), The Satanic Rites of Dracula (1973) และ Dracula and Son (1976)
- เป็นภาพยนตร์สต็อปโมชันเรื่องที่ 3 ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน ถัดจาก The Nightmare Before Christmas (1993) และ Corpse Bride (2005)
- ก่อนหน้านี้ ผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน ตั้งใจจะสร้างเรื่องราวของ Frankenweenie ให้เป็นภาพยนตร์สต็อปโมชันเต็มรูปแบบอยู่แล้ว แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด เขาจึงสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์สั้นที่ใช้คนแสดงในปี 1984
- ตัวละครหลายตัวได้ชื่อและแรงบันดาลใจจากตัวละครในภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิกยุค 30 เช่น คุณครูไรซ์ครูสกี ที่พากย์เสียงโดย มาร์ติน แลนเดา ได้ต้นแบบจาก วินเซนต์ ไพรซ์ จาก House of Wax (1953) ขณะที่ เอ็ดการ์ อี กอร์ ที่พากย์เสียงโดย แอตติคัส แชฟเฟอร์ นั้นได้ต้นแบบจาก ปีเตอร์ ลอร์ จาก M (1931)
- ภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดจากความชอบภาพยนตร์สยองขวัญและความรักสุนัขของผู้กำกับทิม เบอร์ตัน
- สปาร์กี สุนัขของ วิกเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ ที่พากย์เสียงโดย ชาร์ลี ทาแฮน เป็นสุนัขพันธุ์บุลเทอร์เรียร์
- สต็อปโมชันสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้มีความละเอียด 24 เฟรมต่อวินาที หมายความว่าแอนิเมเตอร์จะต้องหยุดและจัดตำแหน่งใหม่ให้กับหุ่น 24 ครั้งเพื่อให้ได้งานแอนิเมชันยาว 1 วินาที โดยเฉลี่ย 1 สัปดาห์ สร้างงานแอนิเมชันได้ 5 วินาที
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลา 2 ปีสำหรับการถ่ายทำในรูปแบบสต็อปโมชัน
- มีการสร้างหุ่นตัวละครขึ้นมาทั้งหมด 200 ตัว เป็นหุ่นของ วิกเตอร์ ที่พากย์เสียงโดย ชาร์ลี ทาแฮน 18 ตัว และเป็นหุ่นของ สปาร์กี 15 ตัว
- หุ่นตัวแรกที่ถูกออกแบบสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ สปาร์กี
- ส่วนศีรษะของหุ่น วิกเตอร์ ที่พากย์เสียงโดย ชาร์ลี ทาแฮน มีกลไกที่ซับซ้อนที่สุดในบรรดาตัวละครมนุษย์ ทำให้เขาสามารถขยับคิ้ว ริมฝีปาก แก้ม และขากรรไกรเพื่อแสดงอารมณ์ได้ ขณะที่ตัวละครอื่นๆ ขยับได้แค่คิ้วและริมฝีปาก
- มีการใช้ผมมนุษย์ในการสร้างวิกผมให้กับหุ่น ซึ่งผมแต่ละเส้นจะถูกเจาะใส่ลวดเข้าไป เพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหวเวลาที่หุ่นเดิน
- ในกองถ่ายจะมีโรงพยาบาลสำหรับดูแลหุ่นที่ฉีกขาดหรือสกปรกโดยช่างฝีมือกว่า 150 ชีวิต
- เรื่องราวเกิดขึ้นในนิวฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองสมมติในชนบทยุค 70 ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างทรานซิลวาเนีย ประเทศโรมาเนีย และเบอร์แบงก์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ป้ายหลุมศพของสุสานสัตว์เลี้ยงบนเนินเขาในภาพยนตร์ จะมีชื่อสัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิตไปแล้วของทีมงานจารึกอยู่
- อุปกรณ์ประกอบฉากขนาดเล็กหลายชิ้นใช้งานได้จริง เช่น มูลี่ในห้องเรียน ซึ่งทีมผู้สร้างสามารถใช้ควบคุมแสงสำหรับฉากในห้องเรียน หรือปรับมู่ลี่เพื่อให้เห็นทิวทัศน์ภายนอกก็ได้
- มีการสร้างฉากขนาดเล็กสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ประมาณ 200 ฉาก
- คาเรน โอ จากวง เยห์ เยห์ เยห์ ได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง Strange Love เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้จากอัลบั้ม Calypso (1956) ของ แฮร์รี เบลาฟอนเต ซึ่งถูกใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Beatle Juice (1988) ของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน ด้วย
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Lone Survivorเข้าฉายปี 2014 แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
- The School of Rockเข้าฉายปี 2004 แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
- มหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004 แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»