SIAMZONE.COM

เรื่องแรก-โดนมาก เหมือนเคยเจอมากับตัว "เรื่องของเราสองคน" ทำไมต้องประกาศให้คนอื่นรู้ในโลกไซเบอร์ ยิ่งตอนเค้าเศร้าขึ้นสเตตัสแล้วเพื่อนเค้าตามน้ำเข้ามาด่า โอ้โห นี่ตูเลวมากเลยสิเนี่ย มันเป็นเรื่องเล็กๆที่ใหญ่มาก
เรื่องสอง-ก็โอเค ทั่วๆไป
เรื่องสาม-เคมีไม่เข้าครับ พระเอกหน้าโคตรหล่อ นางเอกหน้าแก่ ผู้ชายคนไหนแสดงก็หนักครับอินกับบทยากเหลือเกิน ถ้าใช้ผู้หญิงแก่ที่หน้าสาวๆสวยๆหน่อย น่าจะทำให้ผมอินได้มากกว่านี้(และน่าจะทำให้นิชคุณเล่นได้ดีกว่านี้ด้วย)

หนังสนุกมาก ชอบมากเลย

บอกเลยว่าค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อย
เรื่องแรก-โอเคอาจเขาก็ชีวิตวัยรุ่นดี แต่ดำเนินเร่ืองน่าเบื่อไปหน่อย รู้สึกว่าจะหลับ ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ ผิดหวังมาก ปันปันน่ารักเล่นสมบทบาทดี นอกนั้นเฉยๆ
เรื่องสอง-เป็นเรื่องที่ชอบที่สุด ฮา ซึ้ง ได้หลายอารมณ์ในเรื่องเดียว อยากให้ทำเรื่องนี้เป็นหนังเดี่ยวๆเลยอยากดูเต็มๆ
เรื่องสาม-ชอบเนื้อเรื่องมาก ให้แรงบันดาลใจดี สู่ขวัญแสดงดีมากกกก ตอนเสียใจก็เศร้าไปด้วยเลยโดยเฉพาะตอนพูดกับสามีที่เสียไปแล้วตอนคุยโทรศัพท์ น้ำตาซึม แต่ผิดหวังนิชคุณเล่นแข็งมากกกกกกกกก ไม่เป็นธรรมชาติ บทเหมือนยัดๆอัดๆๆๆๆกันมากเกินโผล่มาทีไรคนกรี๊ดตลอด ควรฝึกมากกว่านี้ก่อนที่จะมาเล่นหนังเพราะว่าเล่นไม่เป็นธรรมชาติเลยดูแล้วไม่อิน เคมีไม่เค้ากัน ประทับใจสู่ขวัญ

ไม่ได้เก่งเรื่องวิจารณ์หนังค่ะเป้นแค่คหสต.(:

ระดับความถูกใจอยู่ในระดับกลางๆ เต็ม 10 ให้ไปเลย 7.2 คะแนน มีบางจุดที่ดูแล้วขัดๆ ไปบ้าง แต่ก็เป็นหนังอารมณ์ดีตามสไตล์ของค่าย ไม่ได้เป็นหนังรักจ๋าแต่ยังมีข้อคิดดีๆ หลายๆ ข้อ และแน่นอนว่าความเป็นจีทีเอช จุดที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือนักแสดง ไม่ใช่เฉพาะนักแสดงหลักทั้ง 7 คนเท่านั้น นักแสดงที่เคยร่วมงานกับจีทีเอชก็ร่วมมาเล่นในเรื่องนี้ เรียกได้ว่าหลายๆ คนที่โผล่เข้ามาในฉากแม้ว่าจะแค่แว๊บเดียวแต่ก็ขโมยซีนเรียกเสียงหัวเราะได้เต็มๆ ถ้าให้ตามระดับความชอบส่วนตัว ชอบตอน 14 มากที่สุด ภาพสวยมาก sound ประกอบเจ๋งสมกับเป็นงานของพี่กอล์ฟ ตามมาด้วยตอน 21/28 ชอบพอๆกับตอน 42.195 ตอน 21/28 ชอบการเล่าเรื่องที่เล่าแบบสลับไปสลับมา ให้เห็นความต่างของความคิดใน 2 วัย ส่วนตอน 42.195 ดรามาปรัชญาสุดๆ เล่าเรื่องแปลกด้วยเสียงพากษ์ดูแล้วดึงไปเครียดตลอดแต่ก็มีแอบฮาบ้าง ตอนแรกดูแล้วไม่อินเรื่องวิ่งมาราธอน แต่ตอนใกล้ๆ จบมีความคิดนึงแว๊บเข้ามาว่าน่าลองไปวิ่งบ้างจัง (อยากไปตามหาปีศาจ กม. ที่35) น่าจะเป็นตอนที่จุดประกายให้ใครหลายๆ คนได้

เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ GTH และตั้งใจดูโรงทุกเรื่อง เรื่องนี้ก็ไปดูโรงที่พาราก้อนมา โดยรวมแล้วบอกได้ว่า "เฉยๆ" ไม่ได้ชอบแบบประทับใจอย่าง "รถไฟฟ้า" หรืออมยิ้มสุดสุดแบบ "แฟนฉัน" ซึ่งดูหนัง GTH มาตลอด 7 ปี จับจุดหนึ่งได้ว่าหนังที่ทำเป็นตอนๆจะสนุกสู้แบบเรื่องเดียวจบไม่ได้นะครับ อย่าง "4 หรือ 5 แพร่ง" ก็สนุกเป็นเรื่องๆนะ ส่วนตัวให้ 7/10 ครับ

หนังธรรมดาทั่วไป ความประทับใจเทียบกับเรื่องอื่นๆของGTH ไม่ได้เลย+มาเข้าพร้อมกับช่วงแบทแมนอีก รายได้ไม่น่าจะเท่าไหร่นะ

หนังสนุก หนังดี มีคุณภาพมากครับ แนะนำให้ไปดู ดีทั้งสามตอนเลยครับ

พูดในฐานะแฟนคลับ GTH พยายามจะทำใจชอบ พยายามจะทำใจว่ามันจะสนุก แต่เรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ นิชคุณเล่นแข็งมากๆ ไม่รู้ผู้กำกับปล่อยผ่านมาได้ไง เนื้อเรื่องเป็นอะไรที่ไร้สาระสิ้นดี ข้อคิดที่ว่าน่าจะใด้ก็น้อยกว่าระดับ GTH เคยทำมาก สรุป คือ น่า ผิด หวัง

สำหรับผมแล้วหนังไม่ได้จะสร้างความประทับใจอะไรเลย
นอกจากนั่งกลอกตาไปสองสามสี่ห้ารอบ ว่าเมื่อไรจะจบ
อย่างกับว่าภาพยนตร์ฉลองครบรอบ 7 ปี ไม่ได้สมกับคำโปรยต่างๆนานา ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือโดนใจ กับ 7 ปีที่ว่าเลย
ก็มีแต่ดารานักแสดงยกมาทั้งค่ายมาเดินมาโผล่ให้เห็นเซอร์ไพรส์กันทั้งเรื่อง แล้วไงอ่ะ?
มาพูดถึงตัวหนังแต่ละตอน เริ่มที่ตอนแรก 14 Like เป็นตอนที่ชอบน้อยที่สุด ซึ่งไม่เข้าใจว่าตัวผู้กำกับจะยัดเยียดโชว์พาวมุมกล้องอะไรนักหนา ตัดยัดๆมารวมกันจนดูแล้วปวดหัวและรำคาญยิ่งนัก แทบอยากเฮเมื่อตอนนี้จบ
มาต่อด้วยตอนที่สอง 21/28 เหมือนจะสนุก (แต่ก็ดีที่สุดในสามตอน) แต่ก็งั้นๆ ดูแล้วก็ไม่ได้อินอะไรเลย ชอบแค่ซาวน์ดดนตรีประกอบตอนท้ายที่มีพลังแค่นั้นแหละ
และตอนสุดท้าย 42.195 นักแสดงเล่นแข็งมาก คำพูดก็ดูยัดเยียดมากเกินไป ความสัมพันธ์ตัวละครเคมีเข้าไม่ถึง นิชคุณมาเล่นก็ไม่ได้พิเศษไรเลย

สรุปคือ งั้นๆ ค่อนข้างเบื่อ ดีนะที่ดูฟรีรอบพิเศษ ดีวีดีออกก็คิดว่าจะไม่ซื้อ ส่วนตัวหนังอาทิตย์นี้ ถ้าไม่มีอะไรจะดู แนะนำให้เสียเงินดูแบทแมนซัก 6-7-8 รอบยังสบายใจกว่า ไม่แปลกใจถ้าหนังเรื่องนี้จะถึง 100ล้านup ถ้าค่ายจะออกมาฉลองกันยกใหญ่ ช่วยพิจารณาด้วยว่ามันเป็นเพียงแค่หนังตลาด ไม่ใช่หนังคุณภาพ 4/10

หนังฉลองครบรอบ 7 ปี ของค่ายจีทีเอชเรื่องนี้ มีสามตอน สามผู้กำกับ ทุกตอนต่างก็มีของดีอยู่ในตัว นี่เป็นหนังไทยคุณภาพที่เขียนบทได้ดี และมีจังหวะที่แม่นยำในการตรึงคนดู ซึ่งผมจะขอรีวิวเป็นตอนๆไปเลยแล้วกัน

14 กำกับโดย กอล์ฟ ปวีณ ภูริจิตปัญญา จาก "4 แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย" และ "5 แพร่ง ตอน หลาวชะโอน" ในตอนนี้จะเล่าเรื่องของ "ป่วน" (เก้า จิรายุ ละอองมณี) เด็กหนุ่มที่ชื่นชอบโลกของโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะคอยอัพเดท แบ่งปันอยู่เสมอ จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น เพราะแฟนสาวที่เพิ่งคบกันที่ชื่อ "มิ้ลล์" (ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์) จะไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้ วิดีโอที่ป่วนทำให้เธอ หรือว่าอูคูเลเล่ที่เธอเล่นและร้องให้ป่วนนั้น เธอแค่อยากให้เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องของเขากับเธอ แต่ป่วนก็ดันเอาไปโพสในยูทูป จนยอดวิวเกินหลักหมื่น เรื่องราวก็เริ่มจะเลยเถิด เธอก็เลยโมโหป่วน ในตอนนี้เป็นตอนที่เล่นกับการตัดต่อภาพครับ และเอฟเฟคเสียงประกอบก็ดูเข้ากันดีกับภาพ น้องปันปันดูน่ารักมากๆ แสดงได้ขึ้นกล้องทุกฉาก แง่คิดจากตอนนี้ก็จะได้ในเรื่องของการทำอะไรก็ตาม ควรจะอยู่ในความพอดี มีขอบเขต ปรึกษากัน และให้เกียรติกัน ใครที่เล่น YouTube, Facebook ก็จะรู้ดีว่าสื่อนี้มันเร็วแค่ไหน ถ้าใช้ไปในทางที่ไม่เหมาะ ก็อาจกลายเป็นดาบสองคมได้เหมือนกัน

21/28 กำกับโดย ปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม จาก "รถไฟฟ้า มาหานะเธอ" ในตอนนี้จะเป็นเรื่องของคู่รักที่แสดงหนังด้วยกัน แล้วเกิดพบรักกัน จนเป็นแฟนกัน และเลิกรากันในที่สุด โดยที่ฝ่ายชาย (ซันนี่ สุวรรณ เมธานนท์) ได้มาทำงานที่สยามโอเชียลเวิล์ด คอยดูแลปลา และทำการแสดงอยู่ในตู้ ขณะที่ฝ่ายหญิง (คริส หอหวัง) ยังคงเป็นดารา แต่อยู่ในช่วงขาลง ไม่โด่งดังเหมือนแต่ก่อน ได้กลับมาง้อฝ่ายซายถึงที่ทำงาน และชักชวนให้เค้ากลับไปแสดงหนังด้วยกันอีกครั้ง แต่ฝ่ายชายก็ยังยืนกรานปฎิเสธ เค้าทั้งคู่จะกลับมาสมหวังหรือไม่? ต้องไปชมเอง ในตอนนี้มีการปล่อยมุกตลกเรียกเสียงฮา อยู่หลายฉากหลายตอน การแสดงของคริส กับ ซันนี่หายห่วง ค่อนข้างลงตัว ในตอนนี้ได้แง่คิด ตรงที่ว่าคนที่รักกัน อยู่ด้วยกัน ควรจะดูแลเอาใจใส่กัน แม้จะมีปากเสียง ก็ให้อยู่ในขอบเขต ควรมีเหตุผล ไม่ขาดสติ ลดทิฐิ และคุยกันด้วยดี

42.195 กำกับโดย พี่เก้ง จิระ มะลิกุล จาก "มหาลัยเหมืองแร่" เรื่องราวของนักวิ่งมาราธอนหนุ่ม (นิชคุณ หรเวชกุล) ที่ตั้งใจจะพิชิตเส้นชัยให้ได้ เขาได้ดึงหญิงสาวคนหนึ่ง (สู่ขวัญ บูลกุล ) เข้ามาร่วมด้วย คอยให้คำแนะนำเธอ จนกลายมาเป็นความสนิทสนม หญิงสาวรู้สึกผิด เพราะว่าเธอเพิ่งจะเสียสามีไปจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ไหนจะอายุที่ห่างกันอีก จึงตัดสินใจเลิกวิ่ง ที่สุดแล้วทั้งคู่จะใจตรงกันหรือไม่นั้น และจะพิชิตเส้นชัยไหวกันหรือเปล่านั้น? ต้องไปพิสูจน์กันเอง แง่คิดที่ได้ คือ ความตั้งใจและอดทนในการทำอะไรก็ตาม ไม่ควรถอยกลางคัน เพราะอาจไม่ประสบผลสำเร็จ และถ้ารักกัน ใจตรงกัน เราจะแคร์เรื่องอายุกันมั้ย? ในตอนนี้การถ่ายภาพสวยมาก ใช้นักแสดงประกอบเยอะสุด ที่โดดเด่นหน่อยคือเสียงบรรยายประกอบของคุณ สุชาดี มณีวงศ์ หรือที่เราคุ้นหูกันจากรายการ "กระจกหกด้าน" เป็นสีสันที่ทำให้ลื่นไหล พี่เก้งยังคงแม่นในเรื่องการกำกับการแสดงที่ดี

สรุปแล้ว หนัง รัก 7 ปี ดี 7 หน ถือว่าจัดเต็มในแง่คุณภาพและการแสดง นักแสดงทุกคนทุ่มเทกับบทที่ได้รับอย่างเต็มที่ เก้า จิรายุ ต้องเรียนพิมสัมผัสเพื่อให้คล่อง ปันปัน ต้องฝึกเล่น อูคูเลเล่ให้เก่ง นิชคุณ กับ สู่ขวัญต้องฝึกวิ่งเป็นร้อยๆกิโล และที่หนักหน่อยก็คือ ซันนี่ ที่ต้องกิน
ให้อ้วน ให้น้ำหนักเพิ่ม จาก 64 กิโล ต้องเพิ่มให้อ้วนถึง 76-80 กิโลเลยทีเดียว แถมยังว่ายน้ำไม่เป็น ซึ่งต้องเรียนว่ายน้ำ-ดำน้ำเพิ่มอีก เรียกว่าเข้าคอร์สเพื่อบทบาทนี้จริงๆ
นี่คืออีกหนึ่งหนังไทยดีๆในช่วงนี้ที่ไม่ควรพลาด หลังจบมีรวมนักแสดงดังๆของค่ายนี้ มาโชว์เอ็มวีประกอบเพลงในช่วงเครดิตให้อมยิ้มกันอีกด้วย