SIAMZONE.COM

"สไปเดอร์แมนของมาร์ค เว็บบ์ มีองค์ประกอบที่ดี นี่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ไม่เลว"

ก็อย่างที่บอกองค์ประกอบโดยรวมของหนังเวอร์ชั่นใหม่นี้ ภายใต้การกำกับของมาร์ค เว็บบ์ ที่เคยกำกับเรื่อง (500) Days of Summer มาก่อน ออกมาไม่เลว หนังมีโทนที่จริงจังในชั่วโมงแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อแม่ของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ โดยโฟกัสไปที่พ่อของเค้า ซึ่งมีการทำงานแบบลับๆ และหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา โดยตัวปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เองเนี่ยแหละที่จะต้องคอยไขปริศนาจากสิ่งของต่างๆ ที่พ่อของเค้าทิ้งเบาะแสเอาไว้ อันนำไปสู่โครงการลับที่ไม่ต้องการให้ใครรู้?

แล้วก็โฟกัสต่อไปที่ลุงเบน กับ ป้าเมย์ ที่เลี้ยงดูปีเตอร์มาตั้งแต่ที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ในส่วนนี้นำเสนอออกมาในโทนดราม่า ใช้ของเดิมมาปรับแต่งให้มีความน่าสนใจในแบบมุมมองอีกมุมหนึ่ง แน่นอนว่าโทนน่ารักๆระหว่างปีเตอร์ พาร์ค์เกอร์ กับ เกว็น สเตซี่ แม้จะออกมาดูเคอะๆเขินๆกันในช่วงแรก แต่ก็ออกมาดูดี และหนังก็ไม่เสียเวลานาน ที่จะบอกว่าให้นางเอกรู้ว่า พาร์ค์เกอร์ก็คือชายในชุดสีแดงที่ออกตามไล่ล่าคนร้ายนั่นเอง

ฉากแอ็คชั่นจะมาในชั่วโมงหลัง หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ เคิร์ท คอนเนอร์ กลายร่างเป็นมนุษย์กิ้งก่า เค้าคือตัวร้ายที่น่าสงสารที่ถูกกดดัน คอนเนอร์คือ นักวิทยาศาสตร์ ที่กำลังศึกษาทดลองเรื่องของการสร้างยีนส์จาก DNA สัตว์เลื้อยคลาน เพื่อที่จะทำให้แขนขวาของตัวเองงอกขึ้นมา แต่ก็อย่างที่เห็น เกิดผิดพลาดจนกลายเป็นอสูรกายโดยจำเป็น แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีหัวใจความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่ จึงดูน่าเห็นใจ

ฉากแอ็คชั่นต่างๆทำได้ดีในระดับหนึ่ง เป็นอีกครั้งที่ภาพสามมิติเน้นไปที่ความลึกของภาพ ซึ่งไม่ต้องโยนสิ่งของใส่คนดูให้มากมายโดยไม่จำเป็น แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เหมาะแล้วกับบทสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นนี้ ยังอยากจะเห็นการแสดงของเค้าอีกในภาคต่อๆไป ส่วน เกว็น สเตซี่ ซึ่งรับบทโดย เอ็มม่า สโตน นางเอก Easy-A ยังคงพูดเร็วเหมือนเดิม และเสียงแหบๆของเธอที่เป็นเอกลักษณ์ก็ดูมีสเน่ห์ไปอีกแบบ

หลังเครดิตจบยังมีทิ้งท้าย ให้เอาไว้ได้ขบคิดต่อ และคงจะเชื่อมไปยังภาคต่ออีกเช่นเคย รอไม่นานหรอก อย่าเพิ่งรีบลุกออกจากที่นั่งซะก่อนล่ะ