วิจารณ์ Seeking a Friend for the End of the World
-
Shifty_C
(เลขที่ 333350)
เมื่อ 9 ต.ค. 56 07:29
ไม่ได้ดูตั้งแต่แรกแต่เราว่าเราชอบเรื่องนี้นะ
บรรยากาศมันดูอุ่นๆดี แล้วมันก็ไม่งี่เง่าด้วย
ชอบเสียงนางเอกตอนหัวเราะ ขำเหมือนขำจริงๆ แสดงดีว่างั้นเหอะ
ชอบพระเอกด้วย ดูเป็นคนนิสัยดีมากก -
Watchmen_Since_1985
(เลขที่ 296622)
เมื่อ 21 มี.ค. 56 20:36
ดูสิยังขำกันอยู่ไหม?
ตลกร้ายอย่างมีสไตล์ อาจเป็นคำที่ใช้นิยามหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี คงมีคนดูสองประเภทที่จะกล่าวถึงหนังเรื่องน้คือถ้าไม่รักมากก็เกลียดมาก ใครที่ตามดูหนังเรื่องนี้จากเครดิตผู้กำกับ Lorene Scafaria หนังรักวัยรุ่นเรื่องก่อนหน้าอย่าง Nick and Norah's Infinite Playlist อาจรู้สึกแปลกเมื่อได้ชมผลงานถัดมาของเขา
Seeking a Friend for the End of the World เป็นหนังรักโลกแตกที่ออกมาต้อนรับปีโลก(ที่คาดว่าจะ)แตก ด้วยเรื่องราวของคนสองคนอาศัยอยู่ในห้องเช่าใกล้ๆกันแต่ไม่เคยทักทายรู้จักกัน จนต่างฝ่ายต่างช้ำรักและถึงเวลาที่กามเทพจะได้แผลงศร ในวันโลกแตก แค่เท่านี้ก็น่าจะดึงดูดคอหนังที่ชอบอะไรแบบติสๆได้เป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้กระทั่งผม
(สำหรับผม)Seeking a Friend for the End of the World ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังให้ความรู้สึกว่าหนังมันหนักกว่า โตกว่าภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าของ Scafaria ด้วยซ้ำไป โดยไสต์จะเป็นอะไรแบล็ดคอเมดี้ จิกกัด เสียดสี พฤติกรรมตัวละครที่บ้าๆบวมๆ รวมถึงหนังเล่าออกมาในโหมดหนัง Road Movie ซึ่งเป็นอะไรที่เข้าทางผมมาก ส่งผลให้ Seeking a Friend for the End of the World กลายเป็นหนึ่งความทรงจำดีๆของผมกับหนังปี 2012
อาจคิดว่าแปลกเมื่อจับตลกแห่งยุค Steve Carell มาคู่กับสาวสวยมากคุณภาพ Keira Knightley ในหนังรัก แต่เมื่อได้ดูแล้วจะรู้ว่า เป็นการจับคู่ที่ดีมากทีเดียว เคมีของทั้งคู่เข้ากันได้ดีมากกว่าคนวัยเดียวกันด้วยซ้ำ
หาก Nick and Norah's Infinite Playlist ทำให้คุณต้องมนต์ไปกับบทเพลงที่ประทับจิตแล้ว Seeking a Friend for the End of the World ก็ไม่ต่างกันซ้ำเพลงที่ถูกใช้ในหนังยังเป็นอะไรที่เข้าขั้นงานคลาสสิคเช่นเพลงป็อบ The Air That I Breathe ยุค 60ของศิลปินกลุ่มชาวอังกฤษ The Hollies หรือเพลง Dance Hall Days ของ Wang Chung ต่างก็มีที่ทางในหนังอย่างลงตัว ถูกใช้งานอย่างมีศิลปะ
Seeking a Friend for the End of the World ไม่ใช่หนังฟิลกู้ดหรือดราม่าจัดแต่หนังเลือกที่จะยืนคาบเส้น(แม้ว่าตอนจบจะทำผมน้ำตาไหลก็ตาม)แต่ก็นั่นล่ะคือสิ่งที่หนังต้องการบอกกับคนดูด้วยการปูทางมาตั้งแต่ต้น ทั้งหนังยังให้บทเรียนดีๆกับคนดู พวกเราต่างเป็นผู้รอดชีวิตจากปี 2012 แล้วเวลาที่เราได้ในตอนนี้ เราควรทำอะไรให้มากกว่าที่เป็นอยู่ดีไหม อย่างน้อยวันหนึ่งจะได้ไม่นั่งบ่นกับตัวเองว่า "รู้แบบนี้ วันนั้นฉันทำไปก็ดี" -
Bigtum
(เลขที่ 310619)
เมื่อ 7 ก.ค. 55 00:33
โลกจะดับเรามารักกันก่อน
หนังดราม่าคอมเมดี้ของผู้กำกับหญิง�Lorene Scafaria เรื่องนี้สนุกครบสูตรครับ! ตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจว่าเคมีของสองคนนี้จะเข้ากันได้ ระหว่างเคียร่า ไนท์ลี่ย์ กับ สตีฟ คาร์เรล แต่หนังได้การแสดงที่ยอดเยี่ยมก็เลยทำให้ความสนุกดูลื่นไหล สตีฟ คาร์เรล ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเค้าก็แสดงดราม่าได้ดีจนกลบภาพติดตลกไปได้เหมือนกัน�
ด็อดจ์ (สตีฟ คาร์เรล) ชายหนุ่มที่ทำงานบริษัทประกัน ดวงตกถึงขีดสุด เค้าต้องอยู่ตัวคนเดียว เพราะภรรยาเกิดสติแตกหนีออกจากบ้านไป ในวันที่อุกกาบาตกำลังจะพุ่งเข้าชนโลก ขณะที่เพื่อนๆต่างก็ใช้ชีวิตแบบสุดขั้ว ปาร์ตี้แบบหลุดโลก แต่เค้าเลือกที่จะอยู่คนเดียวแบบเงียบๆ ระหว่างเกิดจราจล ด็อดจ์ตัดสินใจพุ่งเป้าไปที่การเดินทาง เพื่อออกตามหาแฟนสาวของเขา (คนละคนกับภรรยาที่หนีไป) ซึ่งเธอคนนี้ คือรักแรกสมัยเรียนไฮสคูล โดยได้พ่วง เพนนี (เคียร่า ไนท์ลี่ย์) สาวเพื่อนบ้าน ที่ไม่เคยคุยกันเลย เธอพลาดเที่ยวบินรอบสุดท้าย อดกลับไปหาพ่อกับแม่ เลยต้องร่วมออกเดินทางไปกับด็อดจ์ในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ชุนมุลวุ่นวาย แล้วมิตรภาพและสิ่งดีๆก็เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางของช่วงวาระสุดท้ายของโลกใบนี้ ขอบอกว่ามีซึ้ง!
Seeking a Friend for the End of the World โลกกำลังจะดับแต่ความรักกำลังนับหนึ่ง เป็นหนังโร้ดมูฟวี่ครับ ซึ่งมีทั้งตลกร้าย มีทั้งคำเสียดสีที่แฝงอยู่ในคำพูด มีเซอร์ไพรส์ มีเพลงประกอบเพราะๆฟังแล้วอิ่มเอม เป็นอีกครั้งที่หยิบเอาเหตุการณ์หายนะมานำเสนอเป็นหนังฟีลกู๊ดดูง่าย พร้อมคำโปรยเดิร์นๆ คือ
ขอแค่พบคนที่ "ใช่" ก็ช่างหัวหายนะใดๆในจักรวาล ...แล้วถ้าเป็นเราล่ะ? จะใช้ชีวิตที่เหลือทำอะไร อืม ก็น่าคิดนะ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
เกร็ดภาพยนตร์
- Paddington - นิโคล คิดแมน เรียนวิธีขว้างมีดเพื่อรับบท มิลลิเซนต์ โดยเฉพาะ แต่สุดท้ายฉากขว้างมีดก็ถูกตัดออก อ่านต่อ»
- Fast & Furious 7 - ต้องพักการถ่ายทำเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2013 เพราะ พอล วอล์กเกอร์ ผู้รับบท ไบรอัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2013 เดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดฉายวันที่ 11 กรกฎาคม 2014 แต่ต้องเลื่อนฉายเป็นเดือนเมษายนปี 2015 ผู้กำกับ เจมส์ วาน และ ผู้บริหารค่ายยูนิเวอร์แซลต้องประชุมปรับบทและหาทางถ่ายทำต่อ โดยยังคงให้เกียรติ พอล ผู้ล่วงลับ ที่ถ่ายทำส่วนของตัวเองไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วก่อนเกิดอุบัติเหตุ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
รัก ล้น ใจ แจน (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) พนักงานบริษัทที่แบ่งเบาภาระทางบ้านด้วยการพาน้องมาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ และส่งเสียน้องเรียน...อ่านต่อ»