SIAMZONE.COM

สัปดาห์ก่อนไปดูรักสุดทีน ซึ่งก็ได้เขียนวิจารณ์ไปแล้ว มาสัปดาห์นี้ได้ดูรักเอาอยู่ ซึ่งก็ขอเขียนถึงหนังเรื่องนี้บ้างนะครับ รักเอาอยู่ คือหนังรักที่มีฉากหลังเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพ ซึ่งตัวพระเอก นางเอกได้มาเป็นจิตอาสา แล้วก็เริ่มต้นความสัมพันธ์กันแบบคู่กัด ก่อนที่จะกลายมาเป็นคู่รักกันในที่สุด แต่หนังก็พยายามจะบอกว่าคู่นี้เค้ารู้จักกันตั้งแต่ประถมแล้ว ประมาณว่าเนื้อคู่ หรือรักแรกนั่นแหละ ส่วนตัวผมยังไม่ค่อยอินเท่าไหร่นะกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะด้านตัดต่อภาพ ด้านอารมณ์ หรือความต่อเนื่อง และมุขแป้กบ่อย ซึ่งหนังเรื่องรักสุดทีน ทำได้ดีกว่าในด้านนี้ แต่ที่ต้องชมก็คือ หนังถ่ายตอนช่วงที่น้ำท่วม ทำให้ได้ภาพที่น่าเชื่อถือ ดูสมจริง (ก็ของจริงนี่นา) และถ่ายออกมาสวย และข้อคิดที่ตั้งใจจะมอบให้ผู้ชมได้อะไรกลับไปคิด ตรงนี้ทำได้ดี ก็อย่างที่บอก ถ้าหนังเรื่องนี้มุขไม่แป้กบ่อย และถ่ายทอดอารมณ์ต่อเนื่องไม่สะดุด ไม่กระโดดแบบนี้ รับรองนี่จะเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่เพอร์เฟ็ก!

รักเอาอยู่ ( สามดาว )

.........มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ถ้าใครก็ตามที่ได้มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ก็จะพบว่ามันเป็นความทุกข์ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของชีวิตที่พวกเราต้องมาร่วมทุกข์ด้วยกัน ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย ใครบ้างจะเคยคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตพวกเรา ยิ่งชาวเมืองหลวง หรือย่านปริมณฑลด้วยแล้ว ก่อนหน้านี้ถ้ามีใครบอกว่าจะมีน้ำท่วมสูงเป็นเมตรสองเมตร นานร่วมสองสามเดือน เราคงจะหัวร่องอหายกันกลิ้งว่ามันจะเป็นไปได้ไง น้ำไม่มีทางท่วมได้แบบนั้นหรอก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และเราก็ต่อสู้ฟันผ่าเหตุการณ์เลวร้ายมาด้วยกัน มันเป็นทั้งบทเรียนสอนใจ เป็นหน้าหนึ่งของชีวิต น้ำท่วมครั้งนี้จะมองว่าหนักหนาสาหัสก็มองได้ แต่ในความลำบากทุกข์ยาก ถ้าเรามองอีกด้านเราก็จะเห็นภาพที่งดงาม ภาพที่คนไทยที่เคยทะเลาะกันจะเป็นจะตาย คนที่เคยเกลียดชังกันแบบไม่เผาผี ทุกคนหันมาจับมือช่วยเหลือคนไทยร่วมชาติ กลับมารักกัน โอเค แม้ว่าภายหลังน้ำท่วมการกลับมาทะเลาะกันใหม่จะเกิดขึ้นก็ตาม แต่ช่วงเวลาระยะสั้น มันก็ทำให้เห็นว่าช่วงเวลาที่เลวร้าย ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่ความหวังน่าจะมืดมนที่สุด แต่ความรักที่พวกเรามีให้กัน มันก็ทำให้โลกนี้ ประเทศนี้ยังดูมีความหวัง และมีความงดงามหลงเหลือ

.........รักเอาอยู่ เล่าเรื่องราวของ หนุ่มสาวสองคู่ที่ได้มาพบเจอกันเนื่องจากได้ไปช่วยงานร่วมเป็นจิตอาสา ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งใครจะไปช่วยด้วยใจ หรือไปช่วยเพราะหวังอะไรบางอย่าง นั่นก็เป็นอีกเรื่องเนอะ ? ฝ่ายหนุ่มกะฝ่ายสาวก็เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์จากการที่ต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากัน แต่พอได้มาใช้เวลาร่วมกัน ได้เจอะเจอกันในสถานการณ์แปลกๆ ยิ่งตอนหลังด้วยเหตุผลหน้าที่การงานที่บังเอิญต้องมาทำงานร่วมกันออกพื้นที่ในช่วงน้ำท่วมด้วย ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวสนุกสนานกันเข้าไปอีก เล่าย่อๆแค่นี้นะครับ เพื่อไม่ให้สปอย อยากให้ไปดูในหนังกันเองดีกว่าเพราะหนังมีอะไรซ่อนอยู่เยอะมากครับ หนังเวอร์ชั่นรอบ screen test ที่ผมดูมาค่อนข้างยาวนะครับประมาณ 2 ช.ม.แต่ดูไม่น่าเบื่อเลย สนุกไปตลอด ด้วยการแสดงที่ไหลลื่นมากของ หนุ่มฟิล์ม กับนางเอกน้องก๊อปปี้ ที่ยิ่งดูยิ่งน่ารัก ทั้งคู่เล่นรับส่งกันได้แบบครื้นเครงมาก หนังตลกมากมาย ไม่น่าเชื่อว่าฟิล์มกล้าเล่นได้บ้าขนาดนี้ ตัวประกอบที่มาเสริมทั้งคู่พระนางรอง กับตัวสมทบก็มีหลายตัวที่เล่นได้ฮา และขโมยซีนมากๆ บทสนทนาก็เป็นกันเอง ดูธรรมชาติ ฟังแล้วไม่ตะขิดตะขวง ต้องบอกว่าหนังเล่าเรื่องได้ลงตัวมาก

.........ภาพของมหาอุทกภัยครั้งนี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ไม่เห็นแปลก ก็เห็นมาในภาพข่าวหมดแล้ว แต่อย่าลืมว่าภาพข่าวก็คือสิ่งที่ผู้สื่อข่าวพยายามนำเสนอออกมา มันมีความจริงบางส่วน ภาพยนตร์เค้าก็มีเทคนิคในการนำเสนอในแบบของเค้า การได้เห็นภาพประวัติศาสตร์น้ำท่วมกรุงเทพในโรงหนังเนี่ย มันก็เป็นฟีลที่เชื่อว่า คนส่วนใหญ่จะต้องร้องโอ้โฮ มันทั้งสวยและน่าเศร้าในคราวเดียวกันเลย ตากล้องหนังเรื่องนี้คือคุณจิ๊บ ทิวา เมยไธสง ตากล้องหัวกะทิมืออันดับต้นๆของบ้านเรา ฝีมือการถ่าย มุมกล้องอะไรนี่ไม่ต้องห่วงเลย ถ่ายเมืองหลวงจมน้ำออกมาได้งามงดสุดๆ หนังมาพร้อมกับเพลงประกอบเพราะสุดๆเอาไปรวมเป็นอัลบั้มได้ ดนตรีประกอบก็บิ๊วและเข้าอารมณ์มาก ผมชอบหนังเรื่องนี้มากด้วยเหตุผลหลายอย่าง นอกเหนือจากบทสนทนาที่จี๊ดมากๆ ฮามากแล้ว หนังยังกล้านำเสนอในแบบที่เราคาดไม่ถึง และกล้าหักอารมณ์แรงๆหลายฉาก มีการพลิกแนวหนัง หักมุมแบบน่าตะลึง ไคลแมกซ์ที่เหนือความคาดหมายสุดๆ บทเฉลยหนังก็มีชั้นเชิงไม่ได้มาคลี่คลายปมกันแบบปัญญาอ่อน นี่คือการเล่าเรื่องแบบฉลาดๆแต่ไม่อวดฉลาด เพราะสังเกตว่าคนทำหนังแฝงความอ่อนโยนและความถ่อมตัวอยู่ในทีมากๆ

.........โอกาสมักจะซ่อนอยู่ในทุกๆที่ เพียงแต่เรากล้าที่จะไขว่คว้ามันหรือเปล่า รวมไปถึงเราจะมองเห็นมันหรือเปล่าด้วย ความหวังและความรักก็เช่นเดียวกัน ในที่ๆไร้ซึ่งความหวังบางทีมันก็อาจจะมีแสงริบหรี่ๆอยู่ บางทีสถานที่หรือบุคคลที่มีแต่คนเกลียดชัง บางทีอาจจะมีความรักจากใครบางคนรอเค้าอยู่ก็เป็นได้ ผมไม่อาจคาดหวังและไม่อยากคาดหวังอะไร เพราะรู้ดีว่ากับเรื่องบางอย่างมันนอกเหนือการคาดเดาอยู่เสมอๆ แต่ก็แอบหวังนะว่าอยากให้คนเข้าไปดูหนังเรื่องนี้กันเยอะๆ แล้วลองคิดดูว่าสิ่งที่คนทำหนังเค้านำเสนอน่ะจริงหรือเปล่า ความรัก ความปรารถนาดีที่มีให้กันมันควรจะปฏิบัติออกมาหรือว่าเอาแต่พูด ? ถ้าคุณชอบดูหนังแนวๆที่ดูแล้วสุขใจ ฟีลกู๊ด อิ่มเอมใจ ซาบซึ้งสะเทือนใจก็อยากให้ไปลองชมหนังเรื่องนี้ดูครับ แล้วคุณจะรู้สึกมีความสุขเหมือนผมกับแฟนและเพื่อนๆอีกหลายคนที่ไปดูมาพร้อมกัน ทุกคนต่างบอกชอบหนังกันหมด คนพาไปก็ปลื้มใจที่ชวนคนอื่นเค้าไปดูแล้วเค้ารู้สึกดีไปพร้อมๆกับเรา เพราะงั้นถ้าคุณอยากให้ใครรู้สึกดีด้วย ก็ชวนเค้าไปดูหนังรักเอาอยู่ครับ แล้วจะรู้ว่าความรักมันดีเช่นนี้เอง 7 มีนาคมครับ หนังเข้าฉายทั่วประเทศ อยากเชิญชวนไปดูหนังรักดีๆเรื่องนี้ด้วยกัน

ป.ล. ฟังเพลงประกอบภาพยนตร์เพราะๆ เข้า url นี้ได้เลยครับ ( ก๊อปไปนะ )
https://www.facebook.com/pages/Sweet-Soundtrack-s-lover/259904340708159