วิจารณ์ Ghost Rider: Spirit of Vengeance
-
iamคนติดหนัง (เลขที่ 155368) เมื่อ 6 ธ.ค. 56 10:23
โครตแย่อ่า อื่น ๆ ดีหมด แต่โกสต์ไรเดอร์ยังคงความเท่ห์เหมือนเดิมว่ะ
เอาว่านะมันไม่ได้แย่มากแค่ดูเอาเพลิน ๆ
ให้คะแนน 4/10 (โครตเว่อร์เกิ๊น) -
Watchmen_Since_1985 (เลขที่ 296622) เมื่อ 16 มิ.ย. 55 19:42
กะโหลก(กะลา)เพลิง
การกลัีบมาที่แสนป่วงของฮีโร่(หรอ) กระโหลกเพลิงในครั้งนี้คงเป็นผลมาจากลิขสิทธิ์ที่ใกล้จะหมดสิ้น หนังจึงถูกขับเคลื่อนออกมาให้ได้ชมกันอีกครั้ง หนังเปลี่ยนตัวผู้กำกับ(เผลอๆคงจะเป็นทีมงานด้วยล่ะมั้ง ไม่อยากหารายละเอียด เซ็ง!) เพราะหนังเปลี่ยนไปอย่างกับคนละเรื่องกับ Ghost Rider เมื่อปี 2005 จากผู้กำกับ(สุดจืดสนิท) Mark Steven Johnson เป็นสองพี่น้องบ้าระห่ำ Mark Neveldine , Brian Taylor ที่มีเครดิตจาก Gamer และตระกูล Crank คนคลั่ง ภาคแรกว่างั้นๆแล้ว เจอภาคสองเข้าไป เดี้ยง สนิท
หนังเล่าเรื่องราว(คล้ายๆว่าจะต่อจากภาคก่อนหน้า)ของ Johnny Blaze ที่ระหกระเห็จ ไปทั่ว ย้ายจากถิ่นหนึ่งไปถิ่นหนึ่ง จนได้รับภารกิจจากบาทหลวง(รึป่าว ไม่แน่ใจ)ตัวดำๆ(ใครก็ไม่รู้มารับบท ไม่อยากรู้จัก) ให้คุ้มครองลูกชายของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งบังเอิญได้ไปตกปากรับคำสัญญากับเจ้าปีศาจเอาไว้ โดยหากช่วยไว้ได้จะถอนคำสาปที่ต้องกลายร่างเป็นปีศาจกระโหลกเพลิงยามราตรีให้
เมื่อได้อ่านพล็อตหนังครั้งแรกชวนให้นึกถึง Terminator 2: Judgment Day ของลุง คาเมรอนเมื่อปี 1991 แต่เมื่อเอาเข้าจริงๆหนังเบาบางมาก เทียบไม่ติดฝุ่นควัน แทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากงานด้านภาพที่พยายาม(มากเกินไป)จะทำตัวให้ขบถฉีกแนวหนังด้วยมุมกล้องสุดมึน ฉากแอ็คชั่นที่(ผู้กำกับ)คาดว่าจะมันส์ระเบิด หลุดโลก แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับเป็นไปในทิศทางที่ไร้รสนิยม หนังไม่มีทังจุดพีค ดนตรีประกอบก็สุดยี้ ยิ่งNicolas Cage ที่ต้องมารับบทเป็นGhost Riderอีกครั้งยิ่งช่วยตอกย้ำให้เห็นว่านักแสดงรายนี้ จะกลับมาผงาดได้นั้นคงเป็นเรื่องเหนือจินตนาการขึ้นทุกที นักแสดงรายอื่นๆก็ไม่ได้ช่วยทำให้หนังดูดีขึ้นมาสักนิด เสียดายก็แต่หนังน่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้
ที่ไม่ชอบที่สุดคือการออกแบบฉากแอ็คชั่น คงคิดล่ะสิว่า การยิงกระสุนเข้าปากแล้วพ่นออกมาเนี่ยมันติสต์แตก หรือฉากเด็กซาตานอ้าปากปล่อยไฟรดหน้า Cage จะเป็นอะไรที่สุดเพี้ยน เวลาสู้กับตัวร้ายเล่นภาพมืดๆอย่างกะภาพโลโม ซีนตัวร้ายกินขนมปังขณะขับรถอยากรู้จริงๆว่าทำเพื่อ... - -' มันตลกหรอนั่น
ท้ายที่สุดแล้วต้องจับหนังไปเข้าลิสต์เดียวกันกับ The Darkest Hour ของปีนี้
2/10
*1 คะแนนสำหรับนักแสดงที่เป็นบาทหลวงผิวสี และอีก 1 คะแนน สำหรับ โลโก้ค่าย มาร์เวล เมื่อตอนต้นเรื่อง
*สิ่งที่น่าสนุกเมื่อหนังจบก็คือ มาลุ้นกันว่าท้ายสุดแล้ว หนังจะติดลิสต์ ราซซี่ หรือป่าว !? ??*** -
Top_Snatch (เลขที่ 85346) เมื่อ 16 มิ.ย. 55 11:42
เพิ่งดูดีวีดีครับ...
มาร์เวลสตูดิโอดูไม่ค่อยให้คุณค่ากับตัวละครตัวนี้ในเวอร์ชั่นจอเงินเท่าไร (ไม่เคยอ่านการ์ตูนครับ ตัดสินจากอคติไปก่อนแล้วกัน) ซ้ำยังลดคุณค่าของตัวโกสต์ไรเดอร์ลงไปอีก
ด้วยบุคลิกที่หลุกๆหลิกๆ ห่ามๆ เพี้ยนๆชอบกล เหมือนไฟบรรลัยกัลป์ละลายความน่าหวั่นหวาด-น่าเกรงขามจนหมดสิ้น ตีความน่าเชื่อถือแตกกระจุยกระจายเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ (เอ้อ ถ้าผมเป็นน้องแดนนี่ ที่เดิมทีจินตนาการว่าไรเดอร์ฉี่เป็นไฟออกจากมะเขือเผา อาจจะเป็นสำเร็จความเหงาพวยพุ่งเป็นสะเก็ดไฟก็ได้ แต่นี่ได้เรตพีจี-13 ขอแค่ฉี่แล้วกัน)
หมดกันมาด "ผู้พิพากษา" ตัดสินชะตาชีวิตผู้อื่น
ไรเดอร์จึงไม่ต่างจากคนเมาค้างไม่สร่างอยู่ตลอดเวลา (ดูจากอาการเพลียแดด ที่อาการคล้ายๆคนโคม่าวิ่ง/คลั่ง/ฆ่าจ้า)
ภาคแรกมะเร็งโกสต์ไรเดอร์ลุกลามจนกระชากสติสัมปชัญญะจนขาดกระเจิงอย่างง่ายดาย ภาคต่อนี้เลยต้องสู้กันอย่างอัดอั้น โดยสกัดกั้นประดุจดั่งการสะกดทวารอุจจาระยามท้องร่วง ความพยายามนี้น่านับถือทีเดียวครับ!
ไรเดอร์มาอยู่ในมือของผู้กำกับสองคนนี้ หนังทั้งเรื่องเลยสุกเอาเผากินไร้วิญญาณ (โดยที่นักธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังรู้เห็นเป็นใจแน่ๆเลย ^_^)
งานซีจียามไรเดอร์ออกอาละวาด ผมชอบช่วงเปิดตัวไรเดอร์ฉากแรกๆ (ดูหน้าก่อนใส่งานเทคนิคในฉากที่ถูกลบ หน้าน้าเคจตลกมาก ไม่รู้จะทำยึกยัก จ้องตานานๆไปทำไม) กับฉากท้ายๆเหมือนคุณ "ผู้มาเยือน" ส่วนกลางเรื่อง...เฮ้อ...ผู้สร้างคิดอะไรกันอยู่หนอ...
หนังเท่ๆ ประเภทวัยรุ่นดูได้ผู้ใหญ่ดูดี เนื้อหาแนวนี้ปั้นแต่งได้อีกเยอะ -
onelasttimes (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 17 เม.ย. 55 08:17
ภาคนี้ผมว่าก็ไม่ได้ดีไปกว่าภาคแรกเลย ติดแนวตลกนิดๆบทก็อ่อนไปสำหรับนักแสดงและเนื้อหาก็ไม่ได้มีอะไรให้ชวนลุ้นติดตามอย่างจริงๆ แต่ CG ก็โอเคอยู่ โดยรวมก็ไม่ได้พัฒนาไปกว่าเดิม ถือว่าดูเอาเพลินๆครับ
-
ผู้มาเยือน (เลขที่ 103026) เมื่อ 15 เม.ย. 55 22:54
ไม่ได้ดูแบบสามมิติ แต่ก็พอรู้เลยล่ะว่ามีฉากไหนบ้าง หนังเหมือนจะเน้นจุดนี้มากไปจนมันไม่สมดุล เรื่องนี้ผมอยากจะทำใจให้ชอบอยู่T T แต่โดยส่วนตัว ยังไม่ค่อยชอบ
รอมานานมากสำหรับเรื่องนี้ ผมขอชมเรื่องการปรับตัวไรเดอร์ให้สมจริงขึ้น
ชอบตรงจุดนี้ มีควันไฟออกสีดำ รถเวลาขับไม่ทำให้ถนนเสียหายแล้ว
หน้าดุโหดขึ้น แต่บทบาทต้องบอกว่าน้อยมาก ไม่เต็มอารมณ์
ถามว่าคนไปดูโกสต์ ไรเดอร์ อยากดูอะไร
ก็ต้องอยากดูโกสต์ ไรเดอร์น่ะสิครับ
เสียดายมาก ตัวหนังที่เบาไป กับตัวเอกที่แทบนับฉากออกได้ โดยรวมชอบฉากสุดท้ายสุดละ มันส์สุดละในเรื่อง ขึ้นชื่อว่า ไรเดอร์ อยากให้มีฉากสู้กันบนรถมอเตอร์ไซด์มากกว่านี้ คือต้องบอกว่า ดูแล้วรู้สึก "ไม่เต็มอิ่ม" ครับ -
FallsDownz (เลขที่ 244094) เมื่อ 2 มี.ค. 55 15:05
หนังภาคต่อของฮีโร่กระโหลกผีที่สงสัยว่าภาคแรกยังไม่เข็ดจึงนำเอามาทำต่อ
หวังจะเรียกกระแสซึ่งผลที่ออกมากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
Ghost Rider 2 เป็นเรื่องราวที่ต่อจากภาคแรกคือ เบลซ ผู้ซึ่งทำสัญญากับ
ซาตานเพื่อจะช่วยชีวิตพ่อของเขาแต่หาได้รู้ไม่ว่ามันคือแผนการของปีศาจ
มาพูดถึงเรื่องดีกันก่อนสำหรับภาคนี้เพราะมีน้อยเหลือเกินจะได้ร่ายยาวๆ
ข้อดีของภาคนี้คือ CG ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ สวยไปอีกแบบแต่บางคน
อาจจะไม่ชอบ อืมจบละอย่าแปลกใจครับมันมีแค่นี้จริงๆสำหรับข้อเสียเรามา
ร่ายยาวๆกันเลยดีกว่า ข้อเสียที่ชัดที่สุดของภาคนี้คือ บท เอาเป็นว่าคุณคิดว่า
ภาคแรกมันโดนด่าโดนยำแค่ไหนมันแย่แค่ไหน *10เข้าไปคือภาคนี้ บท
เรียกได้ว่าผลาญเละเทะจนเรียกได้ว่าแย่กว่าหนังเกรด B ซะอีกบางฉาก
ก็ไม่รู้จะใส่มาทำไม อีกเรื่องที่เป็นประเด็นใหญ่ๆของภาคนี้ก็คือ การออกแบบ
ฉากต่อสู้ ซึ่งอย่างที่บอกมันแย่กว่าภาคแรกเสียอีก นอกจากไม่เท่แล้ว
ยังดูปัญญาสุดๆ แถมง่ายหยั่งกะไม่ได้คิดมาเลย ทั้งๆที่ตัวละครนี้มีความ
สามารถที่ไม่ว่าอะไรจะออกมาก็ไม่แปลก แต่กลับจำกัดวงอยู่แค่โซ่อันเดียว
กับการใช้ที่ไม่เท่แถมพาเบื่ออีก พอหัวใจสำคัญเละไปแล้วที่เหลือก็เละตาม
ทั้ง เคจ ที่ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ถึงได้รับบทหนังที่เหมือนไม่ได้คิดยังไงไม่รู้
ที่เล่นได้แปลกๆ ไม่รู้เพราะว่าบทแย่รึเปล่า นอกจากนั้นตลอดทั้งเรื่อง
คุณจะแทบไม่รู้สึกถึงความมันส์เลยเรียกได้ว่าเล็กๆน้อยๆ แทบจะหลับ
เหตุมาจากฉากเปิดที่เฟล จากนั้นฉากจบก็ยังจะเฟลได้อีก
จริงๆแล้ว Ghost Rider เป็นหนังของ Marvel อีกเรื่องที่สามารถ
ยืดไปได้มากกว่านี้เยอะแต่พอภาคนี้ออกมาตอกย้ำความล้มเหลวของภาคแรก
ด้วยการแย่กว่าภาคแรกเรียกได้ว่าแทบจะปิดโลงตอกฝาแล้วโยนลงหุบเขา
เอเวอเรสกันเลยทีเดียว คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะทำต่ออีก
สรุปคือหนังเรื่องนี้ถ้าไม่ได้อยากดูจริงๆแนะนำให้หลีกเลี่ยงครับผมว่า
เอาเงินไปดูเรื่องอื่นจะดีซะกว่า ถ้าถามว่ามันแย่ขนาดทนดูไม่ได้เลยหรอ
ก็คงไม่แย่ถึงขนาดนั้นครับแต่มันเหมือนนั่งดูภาพนิ่งขาวดำซะมากกว่า -
heavenrim (เลขที่ 322019) เมื่อ 28 ก.พ. 55 10:33
เราว่าก็ดีนะ แต่ไม่สนุกเท่าภาคแรก ภาคนี้ติดฮาๆ ด้วย แต่ตัวโกสไรเดอร์ยังเท่เหมือนเดิม
-
revenant (เลขที่ 47663) เมื่อ 28 ก.พ. 55 00:54
ตัวอย่างมันน่าดูมาก แต่พอได้ดูจริงๆกลับพบว่ากากเสียยิ่งกว่ากาก
-
yurisnsdmyfev9 (ไม่ได้เป็นสมาชิก) เมื่อ 27 ก.พ. 55 13:58
มันต้องคนที่ชอบหนังเเนวฮาร์ดๆนะเเหละจะชอบสไตล์แบนนี้
ก้อถือว่าใช้ได้อ่ะน่ะ ตัวโกส์ทไรเดอร์จะร๊อคไปไหน ให้7/10 -
Glamorous:::me (เลขที่ 156524) เมื่อ 26 ก.พ. 55 13:55
สนุกดีออก -0-
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
ว๊ายบึ้ม..เชียร์กระหึ่มโลกเข้าฉายปี 2003 แสดง มณฑล ปริวัฒน์, วริษา ปฐมกุสมัย, สุเมธ แซ่ลี้
Dragon Warsเข้าฉายปี 2008 แสดง Jason Behr, Amanda Brooks, Robert Forster
Jumperเข้าฉายปี 2008 แสดง Hayden Christensen, Samuel L. Jackson, Diane Lane
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Antebellum
เรื่องราวของ เวโรนิกา เฮนลีย์ (จาแนล โมเน) นักเขียนสาวระดับสุดยอดหนังสือขายดี พบว่าตัวเองติดในอีกโลกความเป็นจริงอันน่าก...อ่านต่อ»