เกร็ดน่ารู้จาก The Artist
เกร็ดน่ารู้
- ใข้สุนัขพันธุ์ แจ็ก รัสเซลล์ เทอร์เรีย ทั้งหมด 3 ตัวในการรับบทสุนัขในเรื่อง คือ อักกี แดช และ ดู๊ด โดยอักกีจะแสดงบ่อยที่สุด ซึ่งก่อนเข้าฉากแต่ละครั้ง ทั้ง 3 ตัวจะถูกแต่งให้มีลักษณะคล้ายกันก่อน เพื่อในกรณีหากต้องการสับเปลี่ยนระหว่างฉาก
- บ้านของ เพ็ปพี มิลเลอร์ แสดงโดย เบเรนิซ เบโจ คือ บ้านจริงๆ ของนักแสดงหญิงยุคขาวดำ แมรี พิกฟอร์ด และเตียงที่ จอร์จ วาเลนติน รับบทโดย ฌอง ดูจาร์แดง นอนอยู่ก็เป็นเตียงของ แมรี จริงๆ
- ในฉากที่ จอร์จ วาเลนติน แสดงโดย ฌอง ดูจาร์แดง ดูผลงานแสดงเก่าๆ ของตัวเองผ่านเครื่องฉายภาพ เรื่องที่ฉายอยู่มาจากภาพยนตร์ขาวดำยุคนั้นจริงๆ คือ The Mark of Zorro (1920) นำแสดงโดย ดักลาส แฟร์แบงก์ส แต่เมื่อถ่ายระยะใกล้จะเห็นเป็นหน้าของ จอร์จ แทน
- ถ่ายทำด้วยระบบที่มีอัตราส่วนแบบ 1.33:1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนในระบบเดียวกับที่ถ่ายทำภาพยนตร์ยุคขาวดำมาก่อนจริงๆ
- เป็นภาพยนตร์เงียบขาวดำเรื่องแรกที่เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์หลัก นับตั้งแต่เรื่อง Silent Movie (1976) ของผู้กำกับ เมล บรูก
- ผู้กำกับ มิเชล อาซานาวิเซียส ได้ใช้แนวเพลงรักของนักแต่งเพลง เบอร์นาร์ด เฮอร์แมนน์ ที่ประกอบในเรื่อง Vertigo (1958) ของ อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก มาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้
- ฉากเต้นในเรื่อง เหล่านักแสดงเต้นด้วยตนเองทั้งหมด
- ฉากเต้นสำคัญของเรื่อง สองนักแสดงนำ ฌอง ดูจาร์แดง ผู้รับบท จอร์จ วาเลนติน และ เบเรนิซ เบโจ ที่รับบท เพ็ปพี มิลเลอร์ ต้องซักซ้อมร่วมกันถึง 5 เดือน ซึ่งทั้งคู่ฝึกซ้อมในสตูดิโอเดียวกับที่ เดบบี เรย์โนลด์ส กับ จีน เคลลี สองนักแสดงนำจากภาพยนตร์ขาวดำ Singin' in the Rain (1952) เคยใช้ซ้อมสำหรับถ่ายทำเช่นเดียวกัน
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีการถ่ายระยะใกล้หรือระยะประชิด เพราะในยุคภาพยนตร์เงียบขาวดำจริงๆ ยังไม่มีเทคนิคนี้เกิดขึ้น
- นักแสดงนำ ฌอง ดูจาร์แดง เล่าว่าเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 35 วัน
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำแบบระบบสีก่อนจะแปลงให้เป็นแบบขาวดำในภายหลัง
- เป็นภาพยนตร์ที่ชนะรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเวทีออสการ์ประจำปี 2012 และจากงาน ฟิล์ม อินดี เพนเดนต์ สปิริต อวอร์ดส์ ประจำปี 2012 ในคราวเดียวกัน ซึ่งเรื่องก่อนหน้านี้ที่ทำได้คือ Platoon (1986)
- เป็นภาพยนตร์ขาวดำที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บนเวทีออสการ์ประจำปี 2012 ถัดจากเรื่อง The Apartment (1960) ของ บิลลี ไวล์เดอร์ และ Schindler's List (1993) ของ สตีเวน สปีลเบิร์ก
- ฌอง ดูจาร์แดง เป็นนักแสดงชาวฝรั่งเศสคนแรกที่ชนะรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ ประจำปี 2012
- นับเป็นภาพยนตร์เงียบเรื่องที่ 2 ที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ นับตั้งแต่เรื่อง Wings (1927)
- นับเป็นภาพยนตร์ขาวดำลำดับที่ 10 ที่ได้เข้าชิงในสาขากำกับภาพยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ ประจำปี 2012 นับตั้งแต่มีการยุบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสำหรับภาพยนตร์ขาวดำไปในปี 1967 โดยรายชื่อภาพยนตร์ขาวดำ 9 เรื่องก่อนหน้าที่เคยเข้าชิงรางวัลนี้มาก่อน ได้แก่ In Cold Blood (1967) The Last Picture Show (1971) Lenny (1974) Raging Bull (1981) Zelig (1983) Schindler's List (1993) The Man Who Wasn't There (2001) Good Night, and Good Luck. (2005) และ The White Ribbon (2009)
- เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของบริษัทภาพยนตร์ เดอะ ไวน์สตีน คัมปานี ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ โดยเรื่องแรกที่ชนะไปคือ The King Speech (2010)
- เป็นภาพยนตร์ขาวดำเรื่องแรกที่ชนะรางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ประจำปี 2012 นับตั้งแต่การมอบรางวัลให้ภาพยนตร์ขาวดำถูกยุบไปในปี 1967 โดยเรื่องสุดท้ายที่ได้รับรางวัลนี้คือ Who's Afraid of Virginia Woolf? (1966)
- เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเวทีออสการ์เรื่องแรกที่อำนวยการสร้างโดยประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ซึ่งเรื่องนี้ได้รับทุนสนับสนุนในการสร้างจากประเทศฝรั่งเศสและเบลเยียม
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Quantum of Solaceเข้าฉายปี 2008 แสดง Daniel Craig, Olga Kurylenko, Mathieu Amalric
- The Matrix Revolutionsเข้าฉายปี 2003 แสดง Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Laurence Fishburne
- สวย ซามูไรเข้าฉายปี 2009 แสดง โสภิตา ศรีบาลชื่น, แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์, เกศริน เอกธวัชกุล
เกร็ดภาพยนตร์
- The Hundred-Foot Journey - สร้างจากหนังสือชื่อ The Hundred-Foot Journey เขียนโดย ริชาร์ด ซี. มอเรส อ่านต่อ»
- The Hunger Games: Mockingjay - Part 1 - ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน นักแสดงผู้รับบท พลูตาร์ช เสียชีวิตก่อนการถ่ายทำจบลง 1 สัปดาห์ และเนื่องจากเขาได้ถ่ายทำฉากส่วนใหญ่ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยทั้งสองภาคแล้ว จึงไม่มีการหานักแสดงคนใหม่มารับบทพลูตาร์ช แต่ใช้วิธีการปรับบท ใช้มุมกล้อง และเทคนิคพิเศษเข้าช่วยการถ่ายทำให้สำเร็จแทน อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Weathering With You เมื่อเด็กหนุ่มมัธยมปลายจากเมืองเล็กๆ ในชนบท โมริชิมะ โฮดากะ (โคทาโร ไดโกะ) ได้ตัดสินใจออกเดินทางไปใช้ชีวิตในเมืองโตเกีย...อ่านต่อ»