เกร็ดน่ารู้จาก Season of the Witch
เกร็ดน่ารู้
- บทภาพยนตร์เรื่องนี้ชนะการแข่งขันชิงรางวัล นิคอลล์ เฟลโลว์ชิป ที่จัดโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา
- บรากิ เอฟ. ชัต ได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ หลังจากถามถึงยุคสมัยที่เลวร้ายที่สุดกับคุณพ่อของเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ คุณพ่อของเขาตอบว่าน่าจะเป็นศตวรรษที่ 14 ซึ่งมีเชื้อกาฬโรคระบาด ทำให้ 3 ใน 4 ของประชากรในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเสียชีวิต ผู้คนมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นและเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ นิโคลัส เคจ ผู้รับบท บีห์เมน ได้กลับมาร่วมงานกับ โดมินิก ซีนา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกำกับเขามาแล้วใน Gone in Sixty Seconds (2000)
- ผู้สร้างคัดเลือกนักแสดงจนเสร็จสิ้นขณะเตรียมงานถ่ายทำในฮังการี หลังจากพิจารณานักแสดงหญิง 20-30 คนที่ต้องการแสดงบทหญิงสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด รวมถึง แคลร์ ฟอย ที่พวกเขาได้ชมการทดสอบหน้ากล้องของเธอผ่านทางอินเตอร์เน็ต พวกเขาก็ตัดสินใจเลือก แคลร์ มารับบทนี้
- ถ่ายทำฉากดินแดนกลางป่าของยุโรปสมัยศตวรรษที่ 14 ในออสเตรีย โดยเน้นสถานที่อย่างป่าผืนใหญ่ วัดวา และปราสาท สถานที่ถ่ายทำหลายแห่งอยู่ห่างไกลผู้คนมาก จนต้องขับรถออกจากถนนไปไกล 5 กิโลเมตรจนถึงจุดที่รถไม่สามารถขับต่อไปได้ แล้วต้องเดินเท้าผ่านเทือกเขาแอลป์สเข้าไปยังเขตที่หนาวสุดขั้ว นอกจากนี้ยังมีการสร้างฉากอื่นๆ เพิ่มเติมในโรงถ่ายที่ฮังการีด้วย
- ขณะถ่ายทำที่ โทเทส กีเบิร์จ หรือเทือกเขาคนตายในออสเตรียช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนั้น มีทั้งลมหนาว ฝน หิมะ และลูกเห็บ บางคืนมีอุณหภูมิต่ำถึง -18 องศาเซลเซียส แต่ นิโคลัส เคจ ผู้รับบท บีห์เมน และผู้กำกับ โดมินิก ซีนา กลับพอใจ เพราะอากาศช่วยให้มีอารมณ์ร่วมไปกับภาพยนตร์ ขณะที่ รอน เพิร์ลแมน ผู้รับบท เฟลสัน ไม่ชอบอากาศเช่นนั้นเลย เขาจึงรู้สึกขอบคุณแผนกเครื่องแต่งกาย ที่คอยนำผ้าห่มและช็อกโกแลตร้อนมาให้นักแสดงเสมอ
- ผู้สร้างตระเวนหาปราสาทเก่าแก่ทั่วยุโรป เพื่อค้นหาฉากที่พำนักของพระคาร์ดินัลแห่งมาร์เบิร์ก ก่อนจะตัดสินใจเลือกปราสาท คริวเซนสไตน์ ในประเทศออสเตรีย ปราสาทนี้มีพื้นเพตั้งแต่ปี 1115 มีหอคอยรายล้อม กำแพงหนา สะพานที่ดึงขึ้นลงได้ และประตูทางเข้าทำด้วยโลหะ ผู้ออกแบบงานสร้าง อูลี ฮานิสช์ ปรับแต่งปราสาทนี้ด้วยสถาปัตยกรรมโกธิกและโรมัน เพื่อสร้างความขัดแย้งของพระที่หมกมุ่นกับเรื่องทางโลก ส่วนพื้นที่ส่วนตัวของพระคาร์ดินัลนั้นตกแต่งด้วยแนวโกธิกสีทอง ดูทันสมัย ฟุ่มเฟือย และทรงอำนาจ
- ผู้ออกแบบงานสร้าง อูลี ฮานิสช์ ออกแบบฉากห้องสมุดในวัดโดยคำนึงถึงการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้น ฉากนี้จึงมีซอกมุมให้คนแอบซ่อนเป็นชั้นหนังสือจำนวนมาก ทำให้ต้องสร้างหนังสือกว่า 4,000 เล่มขึ้นมาด้วย หนังสือที่พระจัดทำในยุคนั้นจะเขียนด้วยมือและวาดรูปประกอบอย่างหรูหรา หากทำคนเดียวต้องใช้เวลาถึง 2 ปีต่อหนังสือ 1 เล่ม อูลี จำลองหนังสือโดยให้ทีมงาน 15 คนทำงานเกือบทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลา 1 เดือน หนังสือที่ผลิตทำจากหนังและกระดาษ บางส่วนทำจากไฟเบอร์กลาส ที่นำไปลงสีและทำให้เหมือนมีฝุ่นจับ
- ฉากที่ถ่ายทำยากคือฉากที่ทั้งม้า รถม้า นักแสดง และทีมงาน ต้องอยู่รวมกันบนเส้นทางที่สองฝั่งด้านข้างเป็นผาลึกถึง 50-60 เมตร อีกฉากคือฉากที่ม้าตัวใหญ่ที่ควบคุมยากชื่อ แอนดาลูเซียน ต้องลากรถม้าขนาด 1 ตันครึ่งหรือ 3,000 ปอนด์ไปตามภูมิประเทศที่ขรุขระ ผ่านป่าอันห่างไกลความเจริญ
- นิโคลัส เคจ ผู้รับบท บีห์เมน ซึ่งไม่เคยขี่ม้ามาก่อน ต้องใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ในประเทศอังกฤษ ฝึกขี่ม้ากับ คามิลลา นาเพราส์ และทีมของเธอที่ชื่อ เดอะ เดวิลส์ ฮอร์สเมน โดยเขาต้องฝึกเป็นเวลานาน 7 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานอย่างวิธีขึ้นม้า ขี่ม้ารอบเสา ขี่ม้าไปในป่าอย่างเงียบๆ ไปจนถึงควบม้าด้วยความเร็ว
- ครูฝึกสอนขี่ม้า คามิลลา นาเพราส์ เล่าว่า ม้าที่ นิโคลัส เคจ ผู้รับบท บีห์เมน ใช้ในเรื่องมีชื่อว่า ดอลลี เป็นม้าที่เฉลียวฉลาด ชอบทำเรื่องทะเล้น ส่วนม้าของ รอน เพิร์ลแมน ผู้รับบท เฟลสัน มีชื่อว่า เอล เกรโค มีนิสัยเรียบง่าย ชอบเดินเล่นไปเรื่อยๆ
- เกิดปัญหาขึ้นในฉากที่นักแสดงต้องมีบทพูดขณะที่รถม้าวิ่งไป เสียงล้อรถซึ่งผูกติดกับม้าถึง 6 ตัวนั้นดังเกินไปสำหรับเครื่องบันทึกเสียง ผู้กำกับ โดมินิก ซีนา เคยพยายามจะใช้รถไฟฟ้ามาดึงรถม้า แต่ก็ยังเงียบไม่พอ เขาจึงต้องใช้กว้านโยงรถม้าเข้ากับรถบรรทุกที่อยู่ห่างออกไป 200 หลา เพื่อดึงรถม้าให้ผ่านไปตามป่า
- ดาบที่ใช้ในภาพยนตร์อ้างอิงจากอาวุธที่ชาวยุโรปใช้ในยุคศตวรรษที่ 14 จริงๆ แผนกของประกอบฉากนำโดย โซลแทน ซัลไค ดัดแปลงดาบแต่ละเล่มเป็นพิเศษสำหรับตัวละครแต่ละตัว เช่น บีห์เมน ที่รับบทโดย นิโคลัส เคจ มีดาบยาวหรือดาบมือครึ่งที่แกะสลักอย่างงดงาม ส่วน เฟลสัน ที่รับบทโดย รอน เพิร์ลแมน ใช้ดาบสั้นกว่าเล็กน้อย มีคมดาบที่หนาและกว้าง ส่วน เคย์ ที่รับบทโดย โรเบิร์ต ชีแฮน ใช้ดาบที่เรียบง่าย เพราะยังเป็นมือใหม่หัดสู้
- ฉากฝูงหมาป่าโจมตีในป่าวอร์มวูด ถ่ายทำโดยมีผู้ฝึกสัตว์ป่า โซลแทน ฮอร์ไค คอยดูแล พวกเขาใช้หมาป่า 7 ตัว ที่มีอายุตั้งแต่ 4-15 ปี เข้าฉากถ่ายทำ 16 ฉาก สัตว์ของ โซลแทน แต่ละตัวมีทักษะในการแสดงแตกต่างกันไป บางตัวใช้เข้าฉากหอน บางตัวใช้เข้าฉากเฝ้าสังเกตการณ์หรือยืน และบางตัวใช้เข้าฉากคำรามขู่ ก่อนถ่ายทำฉากเหล่านี้ ทุกคนถูกห้ามไม่ให้นำอาหารมาที่กองถ่ายเป็นเวลานานหลายวัน เพื่อความปลอดภัย
advertisement
วันนี้ในอดีต
- ความสุขของกะทิเข้าฉายปี 2009 แสดง ภัสสร คงมีสุข, สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, จารุวรรณ ปัญโญภาส
- Quarantineเข้าฉายปี 2009 แสดง Jennifer Carpenter, Steve Harris, Jay Hernandez
- Bal Ganeshเข้าฉายปี 2009 แสดง Asha Bhonsale, Kailash Kher, Usha Mangeshkar
เกร็ดภาพยนตร์
- The Age of Adaline - แองเจลา แลนส์บูรี คือนักแสดงที่ถูกวางตัวให้รับบท เฟลมมิง เมื่อปี 2010 แต่ท้ายสุดแล้ว เอลเลน เบอร์สตีน คือผู้ที่ได้แสดงบทนี้ อ่านต่อ»
- Skin Trade - ดอล์ฟ ลันด์เกรน ผู้รับบท นิก เขียนบทเรื่องนี้ในปี 2006-2007 โดยตั้งใจว่าจะกำกับเอง แต่ภายหลังตัดสินใจมอบหน้าที่กำกับให้แก่ เอกชัย เอื้อครองธรรม โดย ดอล์ฟ จะได้ทำหน้าที่ควบคุมงานสร้างได้อย่างเต็มที่ อ่านต่อ»