วิจารณ์ Space Battleship Yamato

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 10 ก.ค. 54 09:51

    เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมมีเป้าหมายว่าต้องไปดูในโรงให้ได้ แต่หลังจากที่ได้ยินว่าในโรงมีหลายฉากโดนตัด แถมโรงหนังประจำที่ผมไปดูดันไม่มีฉายอีก ก็เลยไม่ได้ไปดูเลย เลยรอแต่แผ่น


    วิจารณ์

    เมื่อดูจบแล้วผมคิดได้คำเดียวครับ

    ทำไมมันไม่มีบลูเรย์เสียง + ซับไทยขายในไทยฟะ!!

    มันเป็นเรื่องที่ผมเห็นแล้วอยากเก็บบลูเรย์มากๆ เพราะทั้งภาพ เนื้อหา เสียง ทุกอย่าง มันสุดยอดมากๆ และจะอยากบอกว่า หนังระดับนี้ ยังเหนือกว่าหนังฮอลลีวู้ดหลายเรื่องเสียอีก

    ในเรื่องนั้นผมไม่เคยดูเรื่องยามาโตะเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก่อน แต่ก็มีพื้นฐานในการดูหนังอย่าง Star WARS หรือ สตาร์เทค มาก่อน เลยทำให้ผมอินได้ไม่ยากนัก (ฉากเริ่มเรื่องมาอยากบอกว่าคล้ายในเรื่องสตาร์เทคมาก) แต่ที่แปลกตาไปหน่อยก็คือ ยานอวกาศก็คือ เรือรบยามาโตะเนี่ยแหละ แอบงงๆ เหมือนกันว่าใช้เทคโนโลยีไหนในการปรับแต่งเรือรบเก่าให้สามารถทนรังสีและอุณหภูมิของอวกาศได้

    เนื้อหาของหนังนั้นแน่นอนว่ามีความคล้ายสตาร์เทคและสตาร์วอร์อยู่ (สตาร์วอร์นี่เอาเฉพาะตอนยานรบสู้กันนะ) แต่ที่ต่างกันก็คือ หนังเรื่องนี้มีการบีบอารมณ์คนดู เอาง่ายๆ ก็คือ อย่างในหนังสตาร์เทค สังเกตได้เลยว่ามีคนตายกันเป็นบือ แต่ในหนังไม่ได้กล่าวถึงพวกนั้นมาก และยิ่งคนดูไม่รู้จักตัวละครด้วยแล้วยิ่ง "เฉยๆ" ตายก็ตายไปดิ ไม่เดือดร้อน ไม่ใช่ญาติตู แต่ในเรื่องยามาโตะ ไม่ใช่ ลูกเรือทุกคนมีหัวใจ เป็นมนุษย์ พวกเขามีเรื่องบีบคั้น มีความหวัง มีคนที่เขารักอยู่ ทำให้เราต้องคิดอยู่ตลอดว่า พวกเขามีภาระที่หนักมากในการเสี่ยงชีวิตขึ้นมายานยามาโตะ จะให้ส่งไปตายก็ไม่ควร

    ยิ่งเป็นหนังของญี่ปุ่นที่ต้องมีกระแส "รักชาติ รักพวกพ้อง" ด้วยแล้ว ในเนื้อหาหนังจะกล่าวมาเลยว่า ความรักความห่วงใยของเพื่อนมนุษย์เนี่ยแหละสำคัญที่สุด แม้ว่าในยามนั้นจะเป็นยามที่ควรเอาชีวิตรอดเอาไว้ก่อนแล้วก็ตาม คุณจะรู้เลยว่า ในหนังเรื่องนี้สิ่งที่คุณจะได้รับ ไม่ใช่แค่ความมันอย่างเดียว แต่บางฉากอาจกระซากอารมณ์จนบีบนํ้าตาได้ ซึ่งผมแอบนํ้าตาซึมเล็กน้อย แต่ก็ไม่ไหล

    เรื่องระบบภาพนั้น อันนี้ขอเทียบกับแผ่น DVD หนังญี่ปุ่นของค่าย Happy ที่ผมซื้อล่าสุด ก็คือเรื่องนินจาปะทะเอเลี่ยน ระบบภาพนั้นออกมาโอเค ไม่คมมากนัก แต่ในเรื่องยามาโต้นั้นผมแทบตะลึง เพราะสเกลภาพที่ออกมานั้น สวยคม เนียน และอลังการมากๆ ดีไม่ดี เทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ของฮอลลีวู้ด ฉากยังสวย คมไม่เท่าเรื่องยามาโตะด้วยซํ้า โดยเฉพาะตัวของยานยามาโตะ ซึ่งถ้ากวาดตาสังเกตรายละเอียดดีๆ จะเห็นได้เลยว่ามันมีความละเอียดสูงมาก แม้ว่าฉากต่อสู้บนอวกาศจะสวยเนียนไม่เท่าเรื่องของสตาร์วอร์ก็ตาม แต่นอกนั้นฉากต่างๆ นี่จะบอกได้เลยว่า งานนี้ฮอลลีวู้ดเตรียมตัวให้ดีๆ เถอะ ญี่ปุ่นเพื่อนบ้านเราพัฒนาเทียบเคียงพวกเขาได้แล้วนะ

    ส่วนเรื่องของเสียงนั้น ผมดูเสียงพากษ์ไทย by พันธมิตร ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าต้องมีความฮาและความซึ่งในนํ้าเสียงอยู่ ยามจะฮาก็เอาฮาจริงๆ แต่ฉากซึ้งกระซากอารมณ์นี่ก็ซึ้งได้ดีจริงๆ (เทียบกับ Sucker Punch ที่ขายในช่วงเวลาเดียวกัน เสียงพากษ์ของทีมพันธมิตรยังยอดเยี่ยมกว่าอีก ตัวละครหญิงนะ) ฉากเอฟเฟคต่อสู้นั้นเสียงยังดังไม่อลังเท่าสตาร์วอร์หรือสตาร์เทค จริงๆ ผมแอบงงเล็กน้อยเหมือนเสียงมันถูกบีบให้เบาลง แต่เมื่อฟังไปซักพัก ก็จะเริ่มชินได้ไม่ยาก พอชินแล้วทีนี้แหละจะฟังได้ไหลลื่นไม่มีที่ติ ตรงนี้ต้องขอชมเชย Happy มากที่ทำแผ่น DVD เรื่องนี้ออกมาแล้วไม่เน่าเหมือนเรื่องอื่นครับ

    ข้อเสียของหนังก็ไม่น่าที่จะมีแล้ว (ผมไม่ขอเอ่ยถึงเรื่องบทว่าเดาง่ายไม่ง่าย ทุนสร้างเรื่องนี้สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ นักแสดงคิมูระยังยอมมาถ่ายซ่อมฟรีไม่เอาค่าตัวเพื่อให้ทางหนังเอางบไปทำส่วนอื่นเพื่อให้หนังออกมาดูอลังการ ดังนั้นถ้ามัวแต่จะมาด่าเรื่องบทของหนัง วงการหนังก็คงไม่มีวันเจริญหรอกครับ) ถ้าจะมีก็คงมีอยู่อย่างเดียวก็คือ ฉากกระซากอารมณ์นั้น บางฉากทำซะยืด ซึ่งยืดมากๆ ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่การเอามาดูซํ้า มันจะเป็นฉากที่ค่อนข้างน่าเบื่อไปเลยทีเดียว แต่ด้วยพลังเสียงพากษ์ของทีมพันธมิตร ทำให้ฉากซึ้งกระแทกอารมณ์นั้นลื่นหูกว่าหนังเรื่องอื่นที่มีทีมพากษ์ทีมอื่นมากครับ

    จุดเด่น
    - ภาพ เสียง เนื้อหา อลังการมากๆ และเทียบคุณภาพของระบบภาพ เสียง กับราคาแผ่น 179 บาท ถือว่าคุ้มมากๆ คุณภาพของภาพและเสียงนั้นยังดีกว่าหนังแผ่นฮอลลีวูดที่ราคาแพงกว่านี้หลายเท่าด้วยซํ้า
    - บทค่อยๆ ไป ไม่รีบ ไม่อืด ทำให้ดูได้เรื่อยๆ
    - หนังสอนให้เรารักพวกพ้อง ไม่ใช่ตายได้ก็ตายไป
    - ด้วยพลังของทีมพากษ์พันธมิตร ทำให้เสียงไทยหนังเรื่องนี้ไม่น่าเบื่อ
    - นี่อาจเป็นหนังที่คู่ควรในการเก็บสะสมมากที่สุด

    ข้อเสีย
    - เสียงตอนช่วงต่อสู้บนยานอวกาศ (ไม่ใช่ยานแม่) ยังสู้สตาร์วอร์ไม่ได้
    - บทกระซากอารมณ์ทำได้ดีก็จริง แต่การนำมาดูซํ้า จะน่าเบื่อได้
    - ไม่มี S/F เลยแม้แต่หน่อเดียว ไม่รู้ HAPPY กั๊กไว้รึเปล่า

    คะแนน - 9.7 / 10.00

    การคาดการณ์ของมุมมองเด็กไทยเวลาดูหนังเรื่องนี้ (สำหรับเด็กนิสัยเกรียนที่ไม่ใช่คอหนังและดูเอามันส์)
    - หนังจะตราตรึงใจเด็กอยู่ตั้งแต่แรกจนจบ แต่อาจจะมีช่วงก่อนขึ้นยานที่เด็กจะไม่ดู
    - เด็กจะไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงต้องหนีลงไปใต้โลก และทำไมถึงขึ้นมาหายใจบนผิวโลกไม่ได้ เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องกัมมันตภาพรังสี)
    - เด็กจะไม่สนใจเรื่องชุด แต่จะสนใจเรื่องหน้าตาตัวละคร ผลก็คือทำให้เด็กจำสับสนว่าใครเป็นใคร
    - ฉากซึ้งกระแทกอารมณ์ อาจเป็นฉากที่เด็กดูแล้วรำคาญที่สุด และมองว่ามันเป็นการเสียเวลา
    - เด็กจะจำชื่อฝ่ายดีและฝ่ายร้าย (อย่าว่าแต่เด็กเลย ผมก็จำไม่ได้ - - ^)
    - เมื่อหนังจบเรื่อง เนื่องจากหนังยาวถึง 2 ชั่วโมง เด็กจะลุกทันที ไม่ดูต่อ ซึ่งจะพลาดโอกาสเจอกับฉากสำคัญของเรื่องตอนช่วงเครดิต ซึ่งจะทำให้เรื่องนี้สมบูรณ์
    - ด้วยความที่เด็กไม่สนใจดูตั้งแต่เริ่มเรื่อง เด็กจะไม่รู้ว่าทำไมยานต้องออกไปยังอีกดาว และคิดว่าอาวุธทุกอย่างบนยานยามาโตะ คืออาวุธที่โลกผลิตขึ้นทั้งหมด

  • เมื่อ 24 มิ.ย. 54 21:54

    สำหรับผมถือว่าโอเคนะครับ อาจเป็นเพราะตัวเองชอบอวกาศอย่างไม่มีเหตุผลก็ได้

    คือว่า...เรื่องนี้มัน 'คลาสสิก' นะครับ

    ในแง่ขององค์ประกอบที่ใครหลายๆคนบอกว่ามัน'เชย' ได้แฝงอารมณ์ของการ์ตูนญี่ปุ่นและความรักชาติ รักมนุษยชาติ ตามแบบต้นฉบับยุคหลายปีที่แล้วเอาไว้

    เรือรบยามาโต้อันเป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่จะกอบกู้โลก ผมว่ามันก็เท่ดีออกนะ

    แต่แบบว่า อารมณ์ของตัวละครในเรื่อง มันไม่ค่อยทำให้เราอินตามไปด้วยมากเท่าไหร่นัก อย่างฉากตอนที่ทดลองเดินเครื่องวาร์ป ซึ่งเป็นวาร์ปครั้งแรกของมนุษยชาติ คิดว่ามันจะออกมาตื่นตาตื่นใจกว่านี้นิดนึง...

    ยังไงก็ตาม ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สนุกตามสไตล์ญี่ปุ่นล่ะนะ

    ปล. พี่ทาคูยะ เท่มากมายๆๆ

  • เมื่อ 17 ม.ค. 54 09:00

    ค่อนข้างผิดหวัง CGใช้ได้ เพลงเพราะ แต่ฉากอื่นๆ เช่น ห้องบังคับการ ไม่เนียนเลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 16 ม.ค. 54 08:15

    การ์ตูนสนนุกกว่าเยอะผมให้ 6/10

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 12 ม.ค. 54 08:09

    ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับภาพยนตร์สไตล์การ์ตูนญี่ปุ่นเกี่ยวกับสงคราม ความรักและการเสียสละ แถม special effects เจ๋งไม่แพ้ hollywood และเพลงประกอบที่เพราะอีกต่างหาก เป็นทางเลือกที่ดีอีกทางสำหรับคนเบื่อหนัง hollywood รอดูแผ่นที่เป็น soundtrack อีกที

  • เมื่อ 7 ม.ค. 54 13:34

    เคยดูการ์ตูนสมัยเด็กๆ แล้วชมในโรง รู้สึกดีมากเลยครับ สุดยอดหนังเอเซียเลยนะ ปืนใหญ่ wave สุดยอด + การวาร์ปยังเท่ เพลงก็เพราะนะ

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 6 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • รักแห่งสยามรักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
  • Harry Potter and the Chamber of SecretsHarry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
  • ตีสาม 3Dตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม

เกร็ดภาพยนตร์

  • Big Eyes - โดยส่วนใหญ่ผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน จะทำงานร่วมกับนักแสดงที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้มีแต่นักแสดงที่ ทิม ไม่เคยร่วมงานด้วยมาก่อน โดยภาพยนตร์ที่ทำเช่นนี้ก่อนหน้านี้ คือ Beetlejuice (1988) อ่านต่อ»
  • American Sniper - เดวิด โอ. รัสเซลล์ เคยได้รับการพิจารณาให้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนที่เขาจะขอถอนตัว สตีเวน สปีลเบิร์ก ก็เคยสนใจกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ก็ถอนตัวออกไปเช่นกัน คลินต์ อีสต์วูด จึงมารับหน้าที่กำกับในที่สุด อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Shazam! Shazam! เมื่อเราทุกคนต่างมีความเป็นยอดมนุษย์อยู่ในตัวของเรา มันก็แค่ต้องใช้มนตร์วิเศษสักหน่อยเพื่อที่จะดึงมันออกมา ในกรณีของ บิ...อ่านต่อ»