เกร็ดน่ารู้จาก โคตรสู้ โคตรโส

เกร็ดน่ารู้
  • นักแสดงเด่นในเรื่องนี้คือผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ต่างๆ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ พันนา ฤทธิไกร จำนวน 9 คนที่มารวมตัวกันในนาม ไฟติ้ง คลับ พวกเขาเคยแสดงฉากผาดโผนในภาพยนตร์ อาทิ องค์บาก (2003) ภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง (2005) ช็อคโกแลต (2008) และ จีจ้า ดื้อสวยดุ (2009) มาแล้ว แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขาจะได้เป็นนักแสดงเต็มตัวที่มีบทเด่นครั้งแรก
  • ป๊อช - ชัชพล อภิชาติ ผู้รับบท ป๊อช เป็นทายาทของนักแสดงบู๊ที่โด่งดังเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วอย่าง ลักษณ์ อภิชาติ โดย ป๊อช ถนัดการต่อสู้เทควันโด และมีจุดเด่นตรงการใช้เท้าได้เร็วมาก ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร จึงออกแบบให้เขาต่อสู้คล้าย บรูซ ลี ที่อวดการใช้เท้าต่างๆ เช่น การควงตัวและการเตะ
  • กิต - กิติศักดิ์ อุ่นจิตต์ ผู้รับบท กิต ถนัดวิชายิมนาสติก จึงมีจุดเด่นที่ความคล่องตัว ความว่องไว ความยืดหยุ่นดัดแปลงไปตามสถานที่ที่ใช้ต่อสู้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ กิต ได้แสดงฝีมือในฉากกระโดดข้ามรถที่ไหม้ทั้งคัน และฉากการต่อสู้กับมนุษย์ขวาน
  • โอ๋ - สำเร็จ เมืองพุทธ ผู้รับบท โอ๋ เคยออกแบบฉากต่อสู้ในภาพยนตร์ชุด องค์บาก และภาพยนตร์ของ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ มาแล้ว โอ๋ ถนัดการต่อสู้แบบคอมมานโดและมวยอเมริกันแซมโบ้ ซึ่งเป็นการต่อสู้แบบทหาร โดยใช้มือเปล่าเป็นอาวุธหักกระดูกคู่ต่อสู้
  • ปอม - ธนวิช วงศ์สุวรรณ ผู้รับบท ปอม ถนัดศาสตร์กังฟูหรือมวยอ่อน ซึ่งออกอาวุธคล้ายกับไทเก๊กแต่เน้นโจมตีมากกว่า จุดเด่นของ ปอม อยู่ที่จังหวะการต่อสู้ที่สวยงาม
  • เอ็ดโด้ - ภุชงค์ ศาสตร์นอก ผู้รับบท เอ็ดโด้ ฉายา เดอะคิลเลอร์ จัมเปอร์ มีวิชาการต่อสู้ฟรีรันนิ่ง ซึ่งใช้ความคล่องตัว และออกอาวุธเวลาทีเผลอ เขาคือนักแสดงในฉากที่ตกลงมาจากตึกในตัวอย่างภาพยนตร์ ช็อคโกแลต (2008) และ เอ็ดโด้ ถือเป็นรุ่นพี่ที่มีอายุมากที่สุดใน ไฟติ้ง คลับ
  • จ้าว - วิรัช เข็มกลัด ผู้รับบท จ้าว ฉายา มฤตยูแห่งป่า ได้มาเป็นนักแสดงผาดโผนหลังจากไล่ตามความฝันด้วยการไปออกรายการกบนอกกะลา จ้าว ถนัดการต่อสู้แบบคาโปเอลา ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร ออกแบบให้เขาใช้เทคนิคคาโปเอลาผสมเข้ากับการโจมตีแบบสัตว์ป่า
  • ยูโก้ - ศราวุธ คำสอน ผู้รับบท ยูโก้ ฉายา กำปั้นสะท้านภูผา เป็นผู้มีวิชามวยไทย เคยต่อยจริงเตะจริงจนคนเข้าฉากด้วยกันสลบมาแล้ว นอกจากนี้ ยูโก้ ยังเคยไปเป็นครูสอนมวยไทยให้ แอนเจลินา โจลี ในเบื้องหลังภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Salt (2010) อีกด้วย
  • เหลิม - ปุญญพัทร บุญคุณชนก ผู้รับบท เหลิม ฉายา ฝ่ามือเทพสายฟ้า ถนัดวิชาไทเก๊ก ซึ่งเขาซึมซับมาจากคุณพ่อของเขาเอง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร ดัดแปลงให้ เหลิม ได้อวดลีลาไทเก๊กที่แปลกไปจากธรรมดา และเน้นการใช้ต่อสู้ได้จริง
  • นัท - วินัย เวียงย่างกุ้ง ผู้รับบท นัท ฉายา คมดาบในเงามืด มีวิชาซามูไรและนินจา สามารถใช้ดาบได้คล่องแคล่ว เขาได้เข้าฉากต่อสู้กับ ป๊อช - ชัชพล อภิชาติ ผู้รับบท ป๊อช ซึ่งเป็นนักเทควันโด ในฉากนั้นจึงเป็นการดวลกันระหว่างดาบกับเท้า
  • ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร เล่าว่าได้เฝ้าดูพัฒนาการด้านการต่อสู้ของนักแสดงบู๊ในเรื่องนี้มาด้วยตัวเองเป็นเวลา 4-5 ปีมาแล้ว และ พันนา ต้องการสร้างภาพยนตร์ที่แปลกใหม่ จึงแหวกแนวจากการสร้างนักแสดงบู๊เดี่ยวๆ อย่าง จา พนม หรือ ทัชชกร ยีรัมย์ หรือ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ มาเป็นนักแสดงบู๊แบบกลุ่มที่แต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกัน
  • ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร ให้ลูกศิษย์และคู่คิดที่ร่วมงานกับเขามาตั้งแต่เรื่อง เกิดมาลุย (2004) อย่าง เปี๊ยก - มรกต แก้วธานี มาเป็นผู้กำกับร่วมในเรื่องนี้ โดยให้ เปี๊ยก ช่วยกำกับส่วนที่เป็นการแสดงอารมณ์และจังหวะของเรื่องราว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ เปี๊ยก ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเต็มตัว
  • คำว่า โส ในชื่อเรื่อง เป็นภาษาอีสานแปลว่า สู้ หรือ เสี่ยง ซึ่งตรงกับแนวคิดหลักของภาพยนตร์ คือต้องการรวมฉากต่อสู้เสี่ยงตายเอาไว้จำนวนมาก โดยในภาพยนตร์นั้นมีทั้งการสู้เพื่อเพื่อน เพื่อความรัก และเพื่อเอาชีวิตรอด
  • กระแต - ศุภักษร ไชยมงคล เคยผ่านการแสดงภาพยนตร์บู๊ ไฉไล (2006) ซึ่งเน้นการต่อสู้ที่สวยงามมาก่อน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการต่อสู้ที่จริงจังเป็นครั้งแรก โดย กระแต รับบทเป็น จอย นักยูโดที่เก่งมาก จนสามารถจับทุ่มคู่ต่อสู้ได้แม้ขณะโดนมัดมือ ทำนองเดียวกับ ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่เคยแสดงฉากเตะต่อยธรรมดาใน 5 หัวใจฮีโร่ (2009) แต่ในเรื่องนี้ ใบเฟิร์น ต้องต่อสู้อย่างหนักและจริงจังมากขึ้น
  • กระแต - ศุภักษร ไชยมงคล ผู้รับบท จอย ได้เข้าฉากเสี่ยงตายที่โดนแขวนตัวอยู่บนเครนที่สูงมาก ขณะที่แสดงฉากนี้ กระแต น้ำตาคลอ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าร้องไห้จริงๆ เพราะกลัวความสูง
  • ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร เคยร่วมงานกับ ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ มาก่อนสมัยที่ ใบเฟิร์น ยังเด็ก ในเรื่อง 5 หัวใจฮีโร่ (2009) และเนื่องจาก ใบเฟิร์น มีพื้นฐานวิชาเทควันโดอยู่แล้วด้วย พันนา จึงเลือก ใบเฟิร์น มาแสดงเป็นตัวละครชื่อ ใบเฟิร์น ในเรื่องนี้ โดยก่อนถ่ายทำนั้น ใบเฟิร์น ต้องฝึกการต่อสู้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์กับ ปอม - ธนวิช วงศ์สุวรรณ ผู้รับบท ปอม อยู่เป็นเวลานาน 6 เดือน
  • ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร ชื่นชอบการแสดงของ เอก - สรพงศ์ ชาตรี จากภาพยนตร์เก่าเรื่อง มือปืนสาละวิน จึงทาบทามมารับบท จ่าแร่ม ทหารเก่าที่มาคอยดูแลลูกสาวของเพื่อน ซึ่งก็คือ กระแต - ศุภักษร ไชยมงคล ผู้รับบท จอย
  • ขณะถ่ายทำฉากสุดเสี่ยงที่นักแสดง 14 คน แบ่งเป็นข้างละ 7 คน แล้ววิ่งพุ่งเข้ามาหากันบนความสูงเทียบเท่าตึก 3 ชั้นโดยไม่ใช้สลิงนั้น ป๊อช - ชัชพล อภิชาต ผู้รับบท ป๊อช เกือบกระเด็นตกนอกพื้นที่เบาะที่ทีมงานเตรียมไว้ แต่โชคดีที่ทีมงานช่วยไว้ได้ทัน ฉากนี้ถ่ายทำกันเพียงเทกเดียวผ่าน โดยไม่มีการซ้อมแต่อย่างใด
  • กระแต - ศุภักษร ไชยมงคล ผู้รับบท จอย ขอแสดงฉากผาดโผนบนรถคอนเทนเนอร์ด้วยตัวเอง โดยไม่ใช้แสดงแทนที่ผู้กำกับ พันนา ฤทธิไกร เตรียมไว้ให้ โดย กระแต ต้องปีนแล้วเกาะด้านหลังของรถที่กำลังวิ่ง และยังต้องเจอรถวิ่งสวนมา ซึ่งต้องนัดจังหวะกันอย่างแม่นยำที่สุด
  • ฉากเด่นของ ป๊อช - ชัชพล อภิชาต ผู้รับบท ป๊อช กับ คาซู แพทริก แทง ผู้รับบท ดร.ดัชนนท์ คือฉากที่พวกเขาต่อสู้กันใต้รถตู้คอนเทนเนอร์ในขณะที่รถกำลังวิ่งอยู่ โดยยึดร่างพวกเขาไว้ด้วยสลิงเพียง 2 เส้นเท่านั้น

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
  • Penguins of Madagascar - ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแผนออกฉายเดือนมีนาคม 2015 แต่หลังจากกระบวนการสร้างเสร็จไวกว่าที่กำหนดไว้ จึงเริ่มออกฉายจริงเดือนพฤศจิกายน 2014 อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Digimon Adventure Last Evolution Digimon Adventure Last Evolution การปรากฏตัวของดิจิมอนปริศนาที่ช่วงชิงสติสัมปชัญญะของเหล่าเด็กที่ถูกเลือก ส่งผลให้ ไทจิ (นัตสึกิ ฮานาเอะ) และเพื่อนๆ กลั...อ่านต่อ»