เกร็ดน่ารู้จาก The Incite Mill
เกร็ดน่ารู้
- สร้างจากหนังสือนิยายลึกลับชื่อเรื่องเดียวกัน เขียนโดย โฮโนบุ โยเนซาวะ ตีพิมพ์โดย บุงเกชุนจู โดยผู้ริเริ่มงานสร้างคือ ฮิโรโยชิ โคอิวาอิ ผู้อำนวยการสร้างจาก วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่ได้อ่านหนังสือแล้วรู้สึกชื่นชอบ
- คณะผู้อำนวยการสร้างเล็ง ฮิเดโอะ นากาตะ ไว้เป็นตัวเลือกแรกๆ ในฐานะผู้กำกับ แต่ ฮิเดโอะ ไม่ได้ตอบรับคำโดยทันที เพราะไม่แน่ใจว่าเรื่องราวนั้นขัดกับศีลธรรมของตนหรือไม่ ทว่าระหว่างรอคำตอบ ผู้อำนวยการสร้างก็ไม่ได้เสนองานนี้ให้ผู้กำกับคนอื่นเลย แล้วในที่สุด ฮิเดโอะ ก็ตกลงรับงาน โดยตั้งใจถ่ายทอดเกมฆาตกรรมในเรื่องให้ดูน่าตื่นเต้นเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง แต่ขณะเดียวกันก็เตือนให้ฉุกคิดว่า มีความโหดร้ายคล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงด้วย
- เปิดกล้องวันที่ 6 มีนาคม 2010 ซึ่งเป็นวันที่ฝนตก ฉากแรกคือร้านสะดวกซื้อในคันดะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ซึ่งตัวละคร ยูกิ ซาโตชิฮิสะ ที่รับบทโดย ทัตสึยะ ฟูจิวาระ และ โชโกะ สึวะเมอิ ที่รับบทโดย ฮารุกะ อายาเสะ รู้สึกสนใจงานนอกเวลาที่มีค่าจ้าง 112,000 ต่อชั่วโมง ฉากสั้นๆ นี้มีบทภาพยนตร์ยาวประมาณ 1 หน้า ใช้เวลาถ่ายทำตั้งเช้าจนถึงช่วงบ่าย
- ฉากบ้านพาราโนเอียสร้างขึ้นในโรงถ่าย เธอร์ทีนธ์ นิกคัตสึ ซึ่งไม่มีพื้นที่พอที่จะสร้างบ้านขนาดใหญ่รูปวงกลมเหมือนต้นฉบับ ผู้กำกับศิลป์ อิวาโอะ ไซโตะ จึงเปลี่ยนงานสร้างเป็นรูปวงรีแทน เขาออกแบบภายในฉากด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก พื้น เพดาน และกำแพงเป็นสีเทาและขาว บรรยากาศดูเยือกเย็น มีขอบโค้งแปลกประหลาดวางเป็นขั้น มีห้องเก็บศพและอวัยวะ มีการติดไฟไว้บนพื้นเหมือนฉากในภาพยนตร์ 2001: A Space Odyssey (1968) นอกจากนี้ฉากยังช่วยสะท้อนเสียงหายใจและฝีเท้าให้ชัดขึ้นด้วย
- ผู้กำกับ ฮิเดโอะ นากาตะ อธิบายแต่ละฉากก่อนถ่ายทำเสมอ เพราะไม่ได้ถ่ายทำตามลำดับเวลา จึงต้องกระตุ้นให้นักแสดงรักษาอารมณ์ในเรื่องไว้ ทั้งนี้นักแสดงหลักทั้ง 10 คนมีหน้าที่รักษาอารมณ์ที่แตกต่างกัน ตัวละครของ ทัตสึยะ ฟูจิวาระ เป็นคนที่ร้องตะโกนเมื่อเกิดความเครียด ตัวละครของ ฮารุกะ อายาเสะ และ ซาโตมิ อิชิฮาระ ดูเป็นคนลึกลับ ตัวละครของ ชินจิ ทาเคดะ และ มาซาโนริ อิชิอิ มีภาพลักษณ์เหมือนคนหลอกลวง ตัวละครของ สึโยชิ อาเบะ และ อายะ ฮิรายามะ เป็นพวกโน้มน้าวเก่ง ตัวละครของ นางิสะ ทาคาฮิระ และ คินยะ คิตาโอจิ ดูสง่างามแบบผู้ใหญ่ ส่วน ทาคุโระ โอโนะ ก็พยายามแสดงให้เข้ากับคนอื่นๆ
- แท้จริงแล้วฉากบ้านพาราโนเอียนั้นเล็กมาก จนทีมงานไม่สามารถเดินเข้าไประหว่างถ่ายทำในห้องเก็บศพและอวัยวะ และห้องนอนส่วนตัวได้บ่อยๆ บางครั้งพวกเขาต้องดูการทำงานจากจอมอนิเตอร์ภายนอก แต่บางครั้งผู้กำกับ ฮิเดโอะ นากาตะ ก็ให้ปิดจอมอนิเตอร์เอาไว้ ทำให้การถ่ายทำมีลักษณะคล้ายการต่อสู้ในพื้นที่ปิดตายเช่นเดียวกับในเนื้อเรื่อง
- ในฉากบ้านพาราโนเอียจะมีหุ่นยนต์รักษาการณ์ซึ่งมีหน้าที่เฝ้าสังเกตและกำจัดคนที่แหกกฎ ผู้กำกับ ฮิเดโอะ นากาตะ ออกแบบให้มันเคลื่อนที่เหมือนหนอนโดยมีแนวทางเดินติดตั้งไว้กับเพดาน หุ่นยนต์นี้มี 2 แขน 6 ขา มีน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม สามารถถอดออกได้ ทีมงานใช้เวลา 1 เดือนสร้างมันขึ้นจากเอฟอาร์พี (วัสดุที่ใช้ในห้องน้ำหรือใช้ในการเล่นโต้คลื่น)
- ผู้สร้างต้องการเปรียบเทียบบ้านพาราโนเอียกับโลกที่มีความทันสมัย แคบ ไร้กฎหมาย และมีความโลภอยู่ทุกหนแห่ง อย่างไรก็ตาม ยังแฝงการมองโลกในแง่ดี โดยให้ ยูกิ ซาโตชิฮิสะ ที่รับบทโดย ทัตสึยะ ฟูจิวาระ เชื่อว่า วิธีที่ถูกต้องในการอาศัยในโลกแบบนี้ก็คือการเชื่อในกันและกัน สอดคล้องกับเนื้อหาเพลงประกอบภาพยนตร์ Shinjite Miru ที่แปลว่า ฉันเชื่อใจเธอ ร้องโดยศิลปิน เมย์น
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Lone Survivorเข้าฉายปี 2014 แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
- The School of Rockเข้าฉายปี 2004 แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
- มหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004 แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»