เกร็ดน่ารู้จาก มาย เบสท์ บอดี้การ์ด
เกร็ดน่ารู้
- สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากบทเพลง ผู้ชายคนนั้น หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า My Best Bodyguard ซึ่ง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงขับร้อง โดยผู้สร้างนำเนื้อเพลงมาตีความ สร้างเป็นโครงเรื่องโดยใช้แนวคิดทฤษฎีสมคบคิด พร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มนุษย์ทั่วโลกกำลังเผชิญหน้ากับโรคใหม่ๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 โรคซาร์ หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
- ผู้สร้างได้ร่วมงานกับนักออกแบบการต่อสู้ชื่อดังจากฮ่องกง กู่ห้วนฉิว หรือ ดีดี๋ ผู้มีประสบการณ์จากการทำงานในฮอลลีวูด และยังได้นักแสดงฮ่องกง ชอว์น หยู หรือ หยูเหวินเล่อ ที่มีผลงานในระดับสากล อาทิ Infernal Affairs (2002) Infernal Affairs 2 (2003) Infernal Affairs 3 (2003) และ Initial D (2005) เข้ามารับบทเป็น ฌอน
- บริษัท มีเดีย เอเชีย กรุ๊ป ของฮ่องกง เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้ไปสู่ตลาดต่างประเทศ
- เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในบท นิชา หลังจากทรงแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการแสดงในภาพยนตร์ไทย หนึ่งใจ..เดียวกัน (2008)
- ตุ้ย - ธีรภัทร์ สัจจกุล กลับมารับบท เจตต์ ในเรื่องนี้ หลังจากห่างหายไปจากจอภาพยนตร์นานนับ 10 ปี
- ก่อนเปิดกล้อง ผู้กำกับฉากต่อสู้ กู่ห้วนฉิว หรือ ดีดี๋ ต้องคอยดูแลการฝึกซ้อมเตรียมร่างกายของนักแสดงอย่างใกล้ชิด ตุ้ย - ธีรภัทร์ สัจจกุล ผู้รับบท เจตต์ เล่าว่าเขาต้องซ้อมยิงปืน เรียนศิลปะการต่อสู้ และไปฝึกกับหน่วยอรินทราช ส่วน ชาคริต แย้มนาม ผู้รับบท ชัธ เล่าว่าเขาต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ และฝึกใช้อาวุธตั้งแต่ปืนสั้น ปืนกล็อก ปืนซุ่มยิง ไปจนถึงระเบิด
- ตุ้ย - ธีรภัทร์ สัจจกุล ผู้รับบท เจตต์ เล่าว่า หนึ่งในฉากยากของเขาคือฉากที่ ตุ้ย ต้อง นอนอยู่บนหลังคารถที่วิ่งไปด้วยความเร็ว มือหนึ่งถือปืนยิงต่อสู้ และอีกมือจับหลังคารถเพื่อทรงตัว
- เหล่านักแสดงต่างปลาบปลื้มกับความเป็นกันเองของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ขณะทรงรับบทเป็น นิชา แม้จะมีบทที่นักแสดงคนอื่นต้องพูดจารุนแรงใส่ท่าน หรือจับท่านใส่กุญแจมือทั้งวันจนมือแดง แต่ก็ทรงเป็นกันเองมาก และทรงอดทนถ่ายทำจนสว่างเหมือนนักแสดงทุกคน
- ตอนแรก ชาคริต แย้มนาม ปฏิเสธที่จะรับบท ชัธ ในเรื่องนี้ เพราะตารางงานแน่นมาก แต่เมื่อได้อ่านบทภาพยนตร์แล้ว ชาคริต ชอบมาก จึงลองพยายามจัดตารางงานใหม่อีกครั้งจนลงตัว
- สงกรานต์ เตชะณรงค์ ตัดสินใจรับงานแสดงครั้งแรกในบท มิกซ์ ในเรื่องนี้ โดย สงกรานต์ เล่าว่า เมื่อพิจารณาจากบทภาพยนตร์ แนวภาพยนตร์ และคนที่ร่วมแสดงด้วยแล้ว รู้สึกตัดสินใจไม่ยากที่จะตอบตกลง สิ่งที่ทำให้ลังเลใจมีเพียงความกังวลว่าความมือใหม่ของตนเองจะทำให้ผู้ร่วมแสดงอย่าง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทยต้องเสียเวลา
- สงกรานต์ เตชะณรงค์ เล่าว่าบท มิกซ์ ที่เขาแสดงนั้นหนักไปทางบู๊มากกว่า ซึ่งเขาคิดว่าเหมาะกับตนเองดี เพราะเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ สงกรานต์ ก็ยังต้องกังวลกับการท่องบท โดยเฉพาะในช่วงที่มีบทพูดยาวๆ ซึ่งเขาต้องพยายามหาเทคนิคช่วยจำ และวิธีลดความเกร็งเมื่อเข้าฉากกับนักแสดงคนอื่น
- เนื่องจาก สงกรานต์ เตชะณรงค์ ผู้รับบท มิกซ์ เคยประสบอุบัติเหตุจนเอ็นหัวเข่าขาด 2 เส้น และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เต็มไปด้วยฉากผาดโผน ทั้งฉากไล่ล่า ฉากยิงปืน และฉากที่ สงกรานต์ อยู่ในรถที่โดนชนจนคว่ำ เขาจึงขอให้ผู้กำกับ ปุ๊ - สิริปปกรณ์ วงศ์จริยวัตร ช่วยดูแลขาของเขาเป็นกรณีพิเศษในฉากเหล่านี้
- ในฉากผาดโผนส่วนใหญ่นั้น นักแสดงขอแสดงเอง ในฉากยิงปืนก็ใช้ปืนของจริงแต่ใช้กระสุนปลอม ส่วนเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่ประกอบฉากล้วนเป็นของจริงทั้งสิ้น
- ขณะถ่ายทำฉากต่อสู้ระหว่าง ชาคริต แย้มนาม ผู้รับบท ชัธ และ ตุ้ย - ธีรภัทร์ สัจจกุล ผู้รับบท เจตต์ ที่ตึกไซเบอร์เวิลด์ รัชดา ในกรุงเทพฯ นั้น เกิดพลาดพลั้งจนหมัดของ ชาคริต ต่อยเข้าท้องของ ตุ้ย เต็มๆ จน ตุ้ย จุกลงไปกองที่พื้น
advertisement
วันนี้ในอดีต
- โหดหน้าเหี่ยว 966เข้าฉายปี 2009 แสดง จตุรงค์ มกจ๊ก, นุ้ย เชิญยิ้ม, ค่อม ชวนชื่น
- Red Cliff: Part IIเข้าฉายปี 2009 แสดง Tony Leung Chiu Wai, Takeshi Kaneshiro, Zhao Wei
- High School Musical 3: Senior Yearเข้าฉายปี 2009 แสดง Zac Efron, Vanessa Hudgens, Ashley Tisdale
เกร็ดภาพยนตร์
- Jurassic World - เป็นภาพยนตร์ชุด Jurassic Park ภาคแรกที่ แซม นีลล์, ลอรา เดิร์น และ เจฟฟ์ โกลด์บลัม ไม่ได้ร่วมแสดง เนื่องจากผู้กำกับและผู้เขียนบท โคลิน ทรีวอร์โรว์ คิดว่าเขาเคารพตัวละครที่เป็นที่จดจำเหล่านั้นเกินกว่าจะนำกลับมาโลดแล่นในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะกับตัวละคร อ่านต่อ»
- Hamari Adhuri Kahaani - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่ เอมราน ฮาชมี ผู้รับบท อาราฟ แสดงร่วมกับ วิดยา บาลัน นักแสดงบท วาสุดา เรื่องก่อนหน้านี้คือ The Dirty Picture (2011) และ Ghanchakkar (2013) อ่านต่อ»