เกร็ดน่ารู้จาก The Expendables
เกร็ดน่ารู้
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ ผู้กำกับ และผู้เขียนบท ลงมือเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้โดยใช้ปากกา ไม่ได้ใช้เครื่องพิมพ์ดีดหรือคอมพิวเตอร์ เขาได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ต่อสู้เก่าๆ อย่าง The Dirty Dozen (1967) และ The Dogs of War (1980) และแก้ไขบทมากกว่า 100 ร่าง ระหว่างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของภาพยนตร์ รวมทั้งตัดหรือเปลี่ยนแปลงตัวละครหลักของเรื่องใหม่ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
- ผู้กำกับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เล็ง เจ็ต ลี และ เจสัน สเตแธม ไว้สำหรับบท หยิง หยาง และ ลี คริสต์มาส ตั้งแต่ตอนที่เขากำลังเขียนบทภาพยนตร์ จากนั้น เจ็ต เซ็นสัญญารับบทดังกล่าวโดยไม่ได้พบ ซิลเวสเตอร์ โดยตรง ส่วน เจสัน นั้น ซิลเวสเตอร์ ไม่มั่นใจว่าจะแสดงเข้าขากับเขาหรือไม่ เพราะมาจากคนละวัฒนธรรมและอายุต่างกันมาก แต่ก็ตัดสินใจเลือกเขา โดยเจาะจงให้รับบทเป็นตัวละครที่มองโลกในแง่บวก
- การรับบท กุนนาร์ เจนเซน ทำให้ ดอล์ฟ ลันด์เกรน ได้กลับมาแสดงฉากต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ ในเรื่องนี้ หลังจากที่เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ดอล์ฟ เคยรับบทนักสู้รัสเซียชื่อ อีวาน ดราโก ใน Rocky IV (1985) ภาพยนตร์ที่ ซิลเวสเตอร์ แสดงนำ
- ดอล์ฟ ลันด์เกรน ผู้รับบท กุนนาร์ เจนเซน ไม่ลำบากใจเรื่องการแสดงอารมณ์ส่วนลึกของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นฉากสังหารตัวละครอื่นหรือฉากร้องไห้ แต่กลับรู้สึกว่าการแสดงฉากตลกนั้นยากมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาประมาณตี 4 ที่เขาเริ่มหมดเรี่ยวแรงแล้ว
- ผู้ชนะศิลปะการต่อสู้ผสม แรนดี เคอทัวร์ ที่รับบท โทลล์ โรด มีอาการหูผิดรูปจากการเล่นมวยปล้ำมากว่า 20 ปี ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ นำข้อเท็จจริงนี้ใส่ลงไปในบทภาพยนตร์ด้วย แรนดี เล่าว่า ฉากที่เขาต้องเอ่ยบทพูดเดี่ยวเกี่ยวกับใบหูของเขานั้นแสดงไม่ยากเลย เพราะนั่นเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว
- ดอล์ฟ ลันด์เกรน ผู้รับบท กุนนาร์ เจนเซน เล่าว่าตอนที่เขาได้อ่านบทภาพยนตร์ครั้งแรก ตัวละคร กุนนาร์ ดูแตกต่างจากที่เห็นในภาพยนตร์มาก เนื่องจากในภายหลัง ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ นำนิสัยขี้อายของ ดอล์ฟ มาปรับใส่ในตัวละครด้วย
- บทบาทสุดท้ายที่ผู้สร้างหาตัวนักแสดงคือบทบาท แซนดรา และหลังจากประกาศคัดเลือกนักแสดงทั่วโลก พวกเขาตัดสินใจเลือก จิเซลล์ อิตชี มารับบทนี้ เธอเป็นนักแสดงชาวบราซิลผู้ศึกษาการชกมวยและยิวยิตสู แต่ไม่เคยแสดงภาพยนตร์ต่อสู้มาก่อน
- ถ่ายทำในประเทศบราซิลที่ซึ่งมีอุปสรรคมากมาย อาทิ สาธารณูปโภคที่ไม่เพียงพอ การขนส่งในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น การสื่อสารกับทีมงานท้องถิ่น และอากาศที่คาดเดาไม่ได้ของฤดูมรสุม ซึ่งมีทั้งฝนตกหนัก อากาศร้อน 110 องศาฟาเรนไฮต์ และความชื้นสูงซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งนักแสดง ทีมงาน และอุปกรณ์ถ่ายทำ สาเหตุที่ผู้สร้างยอมฝ่าความลำบากถ่ายทำที่นี่ คือสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชาวประมงและป่า ซึ่งเหมาะแก่การสร้างฉากเกาะวิเลนามาก
- หลังจากถ่ายทำในบราซิล 1 เดือนและหยุดพัก 2 สัปดาห์ กองถ่ายย้ายไปยังนิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วถ่ายทำในสถานที่จริงเป็นส่วนใหญ่เช่นเดียวกับในบราซิล ก่อนที่การถ่ายทำจะไปสิ้นสุดลงที่โรงถ่ายหลุยส์เซียนา ฟิล์ม สตูดิโอส์
- ระหว่างที่ถ่ายทำที่ ฟอร์ต แม็กคอมบ์ สุสานในนิวออร์ลีนส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ที่กองทัพสหพันธรัฐในสงครามกลางเมืองเคยใช้ ก่อนที่จะถูกกองกำลังสหภาพเข้ายึดครอง มีฝนตกหนัก 3 วันติดต่อกัน จนน้ำท่วมฉากแห่งนั้น ทำให้ทีมงานเสียเวลาไปหลายวัน
- ผู้อำนวยการสร้าง จอห์น ธอมป์สัน เล่าถึงว่า ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ในฐานะผู้กำกับ ไม่ได้เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำแบบย่อๆ ออกมาเหมือนผู้กำกับคนอื่น แต่มักตัดสินใจว่าอยากจะทำอะไรบ้างในวันนั้นๆ เขารู้รายละเอียดของทุกช็อต แต่เก็บมันไว้ในใจคนเดียวจนกว่าจะถึงเวลาทำงาน ดังนั้นทีมงานและนักแสดงจึงต้องพยายามทำตัวให้พร้อมสำหรับเหตุการณ์เฉพาะหน้าทุกอย่าง
- ในฐานะผู้กำกับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ใช้กล้อง 5 ตัวและกล้องสเตอดิแคม (กล้องที่ใช้เครื่องพยุงกล้องติดไว้กับตัวผู้ถ่าย) ในการบันทึกภาพฉากผาดโผนทั้งหมด โดยเขามอบหน้าที่กำหนดรูปแบบการถ่ายทำและโครงสร้างของฉากให้กับผู้กำกับภาพ เจฟฟรีย์ แอล. คิมบอลล์
- ผู้ประสานงานฉากผาดโผนในเรื่องนี้ คือ แชด สตาเฮลสกี ที่เคยร่วมงานกับ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับ มาแล้วใน Rambo (2008) แชด และผู้เชี่ยวชาญด้านฉากผาดโผนจากทั่วสหรัฐอเมริกา ร่วมกันกำหนดรูปแบบการต่อสู้พร้อมคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัย จากนั้นก็นำเสนอทางเลือกต่างๆ ให้ ซิลเวสเตอร์ เห็นว่าสามารถถ่ายทำแบบใดได้บ้าง
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ เสนอให้มีฉากที่ตัวละคร ลี คริสต์มาส ที่รับบทโดย เจสัน สเตแธม อยู่บนจมูกเครื่องบินสะเทิ้นน้ำอัลบาทรอสยุค 50 ซึ่งกำลังบินอยู่ หลังจากปรึกษากับ เฟรด นอร์ธ ผู้ประสานงานฝ่ายอากาศ ผู้วิเคราะห์กลไกและศักยภาพด้านการขนส่งของเครื่องบินแล้ว การถ่ายทำก็เริ่มขึ้น โดย เจสัน แสดงเองจริงๆ เขาถูกมัดติดกับจมูกเครื่องบินที่ลอยเหนือพื้นดินหลายร้อยฟุตผ่านกลุ่มควันไฟและเปลวเพลิง
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ เกลียดการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก เขาจึงต้องการให้นักแสดงทุกคน รวมถึงตัวเขาเอง แสดงฉากผาดโผนเองอย่างสมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนจะใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกในการแต่งเติมภาพเท่านั้น
- หนึ่งในฉากอันตรายที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ ได้แสดงฝีมือ คือฉากที่เขาต้องกระโจนเกาะเครื่องบินที่กำลังลอยขึ้นไป เนื่องจากใบพัดหมุนแรงถึง 30-40 ไมล์ต่อชั่วโมง ตัว ซิลเวสเตอร์ จึงถูกพัดกระเด็นไปจริงๆ เขายอมรับว่าไม่ได้คาดคิดว่ามันจะแรงขนาดนี้
- จิเซลล์ อิตชี ผู้รับบท แซนดรา ยืนกรานที่จะแสดงฉากกระดานบนน้ำที่สมจริงด้วยตัวเอง เธอใช้เวลานานหลายชั่วโมงนอนอยู่บนกระดาน โดยมีฟองน้ำและผ้าเช็ดตัววางปิดปากไว้ ระหว่างที่น้ำไหลลงไปในคอเธอ ก่อนถ่ายทำ จิเซลล์ เตรียมพร้อมด้วยการค้นคว้าเรื่องความรู้สึกของคนที่ถูกทรมานจนหายใจไม่ออกและสำลัก
- อาวุธที่ตัวละคร เฮล ซีซาร์ ที่รับบทโดย เทอร์รี ครูวส์ ใช้ในภาพยนตร์ คือ ปืนสั้นขนาดใหญ่รุ่น เอเอ-12 ซึ่งออกแบบขึ้นสำหรับกองทัพในปี 1972 โดย แมกซ์เวลล์ แอตชิสสัน มันเป็นปืนออโตกระสุนเบอร์ 12 ที่สามารถรัวกระสุนได้ 300 นัดต่อนาที และสามารถใช้กระสุนได้หลากหลาย ตั้งแต่ แฟรก-12 ไฮ-เอกซ์พลอซีฟ ไปจนถึงกระสุนไทเทเนียม อัลลอย
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ ออกแบบกริชหนักอึ้งที่มีสมดุลดีเยี่ยมชื่อ ไม้จิ้มฟันอาร์คันซอส์ เพื่อใช้เป็นอาวุธของตัวละคร ลี คริสต์มาส ที่รับบทโดย เจสัน สเตแธม กริชพร้อมฝักเล่มนี้ออกแบบมาสำหรับใช้ขว้าง และมีคมมีดตั้งแต่ 12-20 นิ้ว
- ฌอง คล็อด แวนแดม ได้รับข้อเสนอให้รับบทๆ หนึ่ง แต่เขาปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเป็นตัวละครที่ไม่มีมิติพอ มีข่าวลือว่า ดอล์ฟ ลันด์เกรน เข้ามารับบทดังกล่าวแทนที่เขา แต่จริงๆ แล้วบท กุนนาร์ เจนเซน ที่ ดอล์ฟ แสดงนั้น เป็นบทที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เขียนขึ้นโดยมี ดอล์ฟ เป็นต้นแบบแต่แรกแล้ว
- เวสลีย์ สไนป์ส ได้รับข้อเสนอให้รับบท เฮล ซีซาร์ แต่เขาไม่สามารถตอบรับได้ เพราะ มีปัญหาเรื่องภาษี และไม่สามารถออกจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้หากศาลไม่อนุมัติ เมื่อ ฟอเรสต์ วิตเทกเกอร์ เข้ามาได้รับบทนี้แทน ผู้สร้างแก้ไขบทใหม่ให้เข้ากับตัว ฟอเรสต์ แต่แล้วเขาก็จำต้องถอนตัวออกไป เพราะปัญหาเรื่องตารางการทำงาน หลังจากนั้นมีข่าวว่า ฟิฟตีเซ็นต์ จะเข้ามารับบทนี้ ส่งผลให้แฟนภาพยนตร์บางกลุ่มไม่พอใจ ในที่สุดผู้สร้างก็ตัดสินใจเลือกอดีตนักกีฬาเอ็นเอฟแอล เทอร์รี ครูวส์ มารับบทนี้
- เบน คิงสลีย์ เกือบได้มารับบทเป็นตัวละครชื่อ มอนโร
- สก็อตต์ แอดคินส์ ได้รับข้อเสนอให้รับบทเป็น แดน เพน แต่สุดท้ายแล้วบทนี้ตกเป็นของ สตีฟ ออสติน
- เจฟฟรีย์ แอล. คิมบอลล์ เคยเป็นผู้กำกับภาพให้ภาพยนตร์ที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน แสดงนำเรื่อง The Specialist (1994) มาก่อนแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ เจฟฟรีย์ รับหน้าที่ กำกับภาพให้ภาพยนตร์ที่ ซิลเวสเตอร์ กำกับ
- เดิมตัวละครของ เจ็ต ลี มีชื่อว่า ขง เกา ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็น หยิน หยาง
- ผู้สร้างขอให้ สตีเวน ซีกัล มาเป็นนักแสดงรับเชิญ แต่ สตีเวน ปฏิเสธ เพราะเขามี ปัญหาขุ่นเคืองใจกับผู้อำนวยการสร้าง อาวี เลอร์เนอร์
- บริษัทดัดแปลงรถ เวสต์ โคสต์ คัสทอมส์ ดัดแปลงรถฟอร์ด รุ่น เอฟ100เอส จากปี 1955 จำนวน 3 คัน คันแรกสำหรับใช้ในฉากที่รถต้องถูกทำลาย คันที่ 2 สำหรับใช้กับฉากสีเขียว และคันที่ 3 เป็นคันที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับ เก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว
- ผู้อำนวยการสร้าง อาวี เลอร์เนอร์ ตัดต่อภาพยนตร์ออกมาเป็น 2 ฉบับ คือฉบับที่ได้เรต พีจี-13 และฉบับเรตอาร์ เพื่อนำมาฉายในรอบทดลอง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะใช้ฉบับใดในการฉายจริง โดยส่วนตัว อาวี คิดว่าการตัดความรุนแรงออกไปจะทำให้ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จกว่า เหมือนอย่างภาพยนตร์เรตพีจี-13 เรื่อง Live Free or Die Hard (2007) และเขายังคิดว่าภาพยนตร์ Rambo (2008) ที่นำแสดงโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน จะประสบความสำเร็จกว่านี้ หากไม่มีฉากโหดๆ มากจนเกินไป แต่สุดท้ายแล้ว The Expendables ก็ได้ฉายด้วยเรตอาร์
- บท มิสเตอร์เชิร์ช ชายผู้ว่าจ้างกลุ่ม ดิ เอ็กเพนเดเบิลส์ นั้นหาตัวนักแสดงยากมาก เดิมผู้สร้างเสนอบทนี้ให้ อาโนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ แต่เขาปฏิเสธเพราะต้องการแสดงบทเล็กๆ เนื่อง จากตนเป็นนักการเมือง ผู้สร้างจึงเสนอบทนี้ให้ เคิร์ต รัสเซลล์ ซึ่งก็ปฏิเสธเช่นกัน เพราะยังไม่ ต้องการแสดงภาพยนตร์รวมดารา กระทั่งไปลงเอยที่ บรูซ วิลลิส ซึ่งตกลงรับแสดง พร้อมกับกำลังยุ่งกับการถ่ายทำภาพยนตร์ Cop Out (2010)
- เดิมภาพยนตร์มีทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจะขยายเป็น 70-80 ล้าน เหรียญสหรัฐในภายหลัง
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ ได้ร่วมฉากกับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนเกอร์ ในบท เทรนช์ และ บรูซ วิลลิส ในบท มิสเตอร์เชิร์ช เป็นครั้งแรกในวันที่ 24 ตุลาคม 2009 ฉากนี้ใช้เวลาถ่ายทำนาน 6 ชั่วโมง
- เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในรอบ 6 ปีของ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้รับบทรับเชิญ เป็น เทรนช์ ภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ของเขา คือ Around the World in 80 Days (2004)
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ บาดเจ็บกระดูกคอแตก ขณะ ถ่ายทำฉากต่อสู้กับ สตีฟ ออสติน ผู้รับบท เพน
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับ พยายามหาตัวผู้ที่เหมาะกับบท เลซี อย่างยากลำบาก จนกระทั่ง จูลี เบนซ์ ที่แสดงร่วมกับ คาริสมา คาร์เพนเทอร์ ในละคร Angel แนะนำให้ ซิลเวสเตอร์ เลือก คาริสมา มารับบทนี้ ซึ่งฉากสุดท้ายของเธอในละคร Angel ตอน You're Welcome ก็ทำให้ ซิลเวสเตอร์ เห็นด้วยที่จะมอบบท เลซี ให้เธอ
- เป็นเรื่องแรกนับจาก Staying Alive (1983) ที่ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน กำกับโดยไม่มีตัวละครดังอย่าง จอห์น แรมโบ หรือ ร็อกกี บัลบัว
- เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่ เจสัน สเตแธม ผู้รับบท ลี คริสต์มาส และ เจ็ต ลี ผู้รับบท หยิน หยาง แสดงร่วมกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ร่วมงานกันใน The One (2001) และ Rogue Assassin (2007)
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ เล่าว่า ผู้ที่รับบทเป็นกลุ่ม ทหารหมวกแดงคือกลุ่มนักสู้ศิลปะป้องกันตัวแบบผสมชาวบราซิล
- สตีฟ ออสติน ผู้รับบท เพน และ เทอร์รี ครูวส์ ผู้รับบท กุนนาร์ เจนเซน เคยแสดงร่วม กันมาก่อนใน The Longest Yard (2005)
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับ เล่าว่าตัวละครผู้ร้ายและ โครงเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ อ้างอิงมาจากเรื่องราวของ มานูเอล นอริเอกา อดีตผู้นำเผด็จการทหารของปานามา ซึ่งมีประวัติเกี่ยวพันกับองค์กรซีไอเอและยาเสพติด
- เข็มกลัดสีเงินที่อกด้านขวาของ นายพลการ์ซา ที่รับบทโดย เดวิด ซายาส นั้น แท้จริงแล้วเป็นเครื่องหมายของกลุ่ม อาร์มี คอมแบต แอกชัน ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมอบให้กับทหารที่ไม่ใช่กองทหารราบ แต่ได้เข้าร่วมต่อสู้กับข้าศึก และจริงๆ แล้วจะต้องติดไว้ที่อกด้านซ้าย แต่เนื่องจากแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ชาวต่างชาติจะได้รับเกียรติยศจากรัฐบาล ฝ่ายเครื่องแต่งกายจึงใช้เครื่องประดับยศเหล่านี้โดยไม่อ้างอิงความเป็นจริง
- ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ผู้กำกับและผู้รับบท บาร์นีย์ รอสส์ ได้รับบาดเจ็บ 14 แห่งขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงฟันหัก ข้อเท้าแตก และกระดูกคอร้าวจนต้องผ่าตัดเสริมแผ่นโลหะเข้าไป นอกจากนี้เขายังเป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคงูสวัดขณะถ่ายทำด้วย
advertisement
วันนี้ในอดีต
เด็กหอเข้าฉายปี 2006 แสดง จินตหรา สุขพัฒน์, ชาลี ไตรรัตน์, ศิรชัช เจียรถาวร
Constantineเข้าฉายปี 2005 แสดง Keanu Reeves, Rachel Weisz, Shia LaBeouf
Million Dollar Babyเข้าฉายปี 2005 แสดง Clint Eastwood, Hilary Swank, Morgan Freeman