วิจารณ์ Furry Vengeance

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 29 พ.ย. 53 18:59

    ติ๊งต๊องมากแต่สนุกดี

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 21 ส.ค. 53 09:45

    วิจารณ์

    เนื้อเรื่องมีแค่นี้จริงๆ แต่ความสนุกและความฮาของมันนั้น มีมากกว่านี้หลายเท่า

    นี่เป็นหนังแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ ไม่กี่เรื่องที่จะทำออกมาสนุก แฝงข้อคิดที่มีสาระและกระตุ้นเตือนจิตสำนึกของมนุษย์อย่างพวกเราที่ชอบรุกรานธรรมชาติ ผมยกตัวอย่างง่ายๆเลย คุณบอกว่า คุณชอบไปท่องเที่ยวธรรมชาติ ชอบไปทะเล ชอบไปเที่ยวป่า นํ้าตก แต่ทุกคนก็อยากไม่ให้มีแมลงรบกวน ไม่ให้มีสัตว์ป่ารบกวน พวกคุณบางคนทิ้งขยะลงทะเล ลงป่า ทิ้งบุหรี่ ทิ้งขยะลง อยากให้บ้านพักรีสอร์ทมีทีวี มีแอร์ มีพื้นที่มากกว่านี้ ทั้งๆที่ยิ่งขยาย มันยิ่งรุกรานธรรมชาติ ซึ่งแบบนั้นผมมองว่ามันไม่ใช่การรักธรรมชาติแล้ว มันทำลายดีๆนี่เอง

    แดน พระเอกของเรา ได้พาครอบครัวที่ประกอบด้วยภรรยาหนึ่งและลูกชายหนึ่งที่อายุย่าง 16 มาอยู่กับธรรมชาติ พื้นที่ที่บริษัทตนเองซื้อที่ไว้เพื่อสร้างชุมชมรีสอร์ท แต่เจ้านายของเขากลับวางแผนมากกว่านั้น โดยคิดที่จะถางป่าทั้งหมดเพื่อสร้างทั้งรีสอร์ทเพิ่ม สร้างห้าง แล้วก็จะตกแต่งโทนสีเขียวและบอกว่า "ที่นี่รักธรรมชาติ" ซึ่งตรงนี้เองเป็นพฤติกรรมตอกยํ้าถึงเหล่านายทุนที่อาศัยคำว่า "รักธรรมชาติ" มาเป็นเครื่องมือหากินพวกเรา หลอกล่อให้พวกเราไปใช้บริการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่สำหรับนี่เป็นหนังครอบครัว ดังนั้นนายทุนที่ออกมาให้เราเห็นจะไม่ใช่คนเลือดเย็นอะไรมากมาย แต่จะออกแนวตลกๆเพื่อไม่ให้หนังซีเรียส (แต่ยังไงผมดูแล้วก็เครียดไปด้วย) โดยการกระทำของแดน เขาทำเพื่องานทั้งนั้น แต่สำหรับครอบครัว พวกเขาต้องการแดน ไม่ใช่ให้เขาไปขลุกกับงาน (ตอกยํ้ามนุษย์เงินเดือนพวกเราอีก ว่าควรมีเวลากับครอบครัว ไม่ใช่กับงาน)

    จุดเด่นของเรื่องนี้ก็คือ การนำสัตว์จริงๆเข้ามาร่วมแสดงด้วย ที่คุณเห็นหน้าปกว่ามีสัตว์อะไรบ้าง นั่นนะมีของจริงในหนังทุกตัว เพียงแต่เป็นการผสมผสานระหว่างหุ่นมือของเล่น + ของเล่น และกราฟฟิก CG คอมพิวเตอร์ได้อย่างลงตัว หนังเปิดตัวด้วยกระรอกน้อยที่น่ารักน่ากอดยืนกลางถนน ทำให้คนดูอย่างพวกเราที่รักสัตว์มองแล้วรู้สึกแบบ "ว้ายยยย น่าย๊ากกกก" แต่พอมีคนขับรถผ่านมา กระรอกทำหน้าตื่นร้อง "จ๊ากกกก" และนั่นแหละ ความสนุกมันจะเริ่มต้นจากตรงนี้ คุณดูหนังเรื่องอื่น อาจเห็นสัตว์ทั่วๆไป อย่าง หมา แมว หนู ช้าง แต่คุณอาจไม่เคยเห็นกระรอก . แรคคูน , วีเซิล หรือหมีเข้ามาในหนังบ่อยนัก และการผสมผสานทั้งของจริงและของปลอม ทำให้บางฉากคุณอาจสับสนได้ว่า ตกลงมันของจริงรึเปล่า ? และนั่นทำให้หนังสมจริงมากขึ้น

    สิ่งหนึ่งที่ผมโล่งใจก็คือ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เข้าไปถ่ายทำในป่ามากนัก (หมายถึงเข้าไปในป่าจริงๆ) ถ้าจะทำหนังอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่กลับบุกรุกป่าเสียเอง แบบนี้มันก็ไม่ใช่คอนเชปของหนังแล้ว

    เนื้อเรื่องไหลไปได้เรื่อยๆ ผสมผสานกับความน่ารักของเหล่าสัตว์ที่ใครๆเห็นก็ต้องหัวใจละลาย (ยกเว้นคุณเกลียดสัตว์อย่างกับอะไรดี) ไม่ได้เร่งรีบอะไรไปมากมาย แต่ค่อยๆให้คุณรู้จักตัวละครและความฉลาดของเหล่าสัตว์ จนจะทำให้คุณเริ่มเข้าข้างพวกสัตว์มากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็นความเลวของมนุษย์ในหนัง บางฉากผมแทบอยากตะโกนด่าไปเลยว่า "อย่าไปทำอะไรพวกสัตว์นะเว้ย" แต่ถ้าให้ตะโกนกับทีวีก็เหมือนคนบ้า

    สาระและความตลกจนขากรรไกรค้างบางฉากแล้ว สาระที่คุณจะได้หลังจากดูหนังเรื่องนี้มีเยอะเต็มสูบ หนังอาจทำให้จากที่คุณเคยไม่สนใจธรรมชาติ เกลียดพวกสัตว์ เกลียดป่า อาจทำให้คุณชอบและรักธรรมชาติก็ได้ หรือถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติอยู่แล้ว คุณอาจหลงรักมันมากขึ้นเรื่อยๆ และควรตระหนักว่า ในเมื่อเราที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำลายธรรมชาติ เราก็ควรเป็นส่วนหนึ่งที่ควรแก้ไข ไม่ควรรุกรานมากกว่านี้และอนุรักษ์รักษามันเอาไว้ ก่อนที่มันจะสายไป

    ตัวกล่องนั้นบอกเนื้อเรื่องแค่นิดเดียว ซึ่งนั่นก็มีผลดีและข้อเสียด้วย ข้อดีก็คือทำให้คุณซึ่งชอบหนังแนวนี้อยู่แล้วอาจดูแล้วสนุกเพราะไม่รู้จะเจอเนื้อหาอะไร แต่ข้อเสียก็คือมันทำให้คนตัดสินใจยากขึ้นที่จะซื้อ (ประมาณ อ้าว เนื้อเรื่องแค่เนี๊ย ?) และหลังกล่อง DVD ไม่ได้บอกว่าไม่มีสเปเชี่ยวฟีเจอร์ แต่ในแผ่นมีครับ มีเบื้องหลังในการทำ , ฉากหลุดขำๆ , ฉากโดนตัด 2 ฉาก และเบื้องหลังในการถ่ายทำกับสัตว์จริงๆ เรียกได้ว่า ซื้อมาแล้วไม่เสียเงินแน่นอน

    ข้อดีของหนัง
    - สนุก ตลก ฮากลิ้ง มีสาระ
    - มีสัตว์จริงๆเข้าแสดง ทำให้สมจริงมากขึ้น และน่าร๊ากกกก
    - ตัวหนังดำเนินรื่นไหล ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีสะดุด
    - เนื่องจากเป็นหนังครอบครัว จึงแทบไม่มีฉากเครียด
    - ฉากสวยงามมากมาย และอาจกระตุ้นอยากให้คนดูอย่างพวกเราอยากไปเที่ยวพักผ่อนตามอุทยานแห่งชาติบ้าง

    ข้อเสีย
    - มุขเป็นมุขสำหรับชาวตะวันตก ชาวตะวันออกเอเชียอย่างพวกเราบางมุขอาจไม่เก๊ก หรือไม่ฮาเท่าหนังเอเชียด้วยกันเอง
    - ฉากจบที่เหมือนจบง่ายไปหน่อย อาจสปอยนิดแต่ขอบอก หลังจากคุณดูไปจนถึงฉากไคลแมกซ์แล้ว คุณอาจอยากเห็นฉากครอบครัวของพระเอกมีกิจกรรมอะไรกับพวกสัตว์บ้าง แต่นี่ไม่มี แต่ถ้าเทียบกับหนังแวมไพร์อย่าง Daybreakers แล้วหละก็ เรื่องนี้ยังจบแบบดีกว่า
    - ถึงจะบอกว่าเป็นหนังอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ก็เน้นที่เหล่าสัตว์มากกว่า ไม่มีฉากสะเทือนอารมณ์ที่จี้จุดให้เห็นผลของการรุกรานมนุษย์มากนัก ซึ่งน่าเสียดายและน่าจะใส่ลงไปด้วย
    - เพลงในฉาก Menu ดังไป และฉากใน Manu เป็นการตัดต่อที่ไม่ค่อยเข้ากันเลย ยกเว้นฉาก Manu ฉากแรก

    คะแนน - 8.0 / 10.00

  • เมื่อ 21 ส.ค. 53 01:02

    ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ (สำหรับ ผม นะ)

    เด็กๆ น่าจะชอบ ไม่รุนแรง มีแง่คิดดีๆให้กับเด็กๆได้ ครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 13 พ.ค. 53 22:07

    ติ๊งต๊องดี วิจารณ์ไม่ค่อยเก่ง

    ดูแล้วก็ฮาบางช่วงบางตอน สำหรับเราให้สัก7/10 คะแนน

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 4 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • แจ๋วแจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
  • TRON: LegacyTRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
  • รักที่รอคอยรักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

เกร็ดภาพยนตร์

  • Run All Night - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่ผู้กำกับ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์รา และ เลียม นีสัน ผู้รับบท จิมมี คอนลอน ทำงานร่วมกัน สองเรื่องก่อนหน้านี้คือ Unknown (2011) และ Non-Stop (2014) อ่านต่อ»
  • Insurgent - เรื่องนี้เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Divergent (2014) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Primal Primal แฟรงค์ วอลช์ (นิโคลัส เคจ) ยอดนายพรานจับเสือจากัวร์เผือกได้ เขาคิดว่าคงจะได้ค่าตอบแทนงดงาม แต่กลายเป็นว่าระหว่างการขนส่...อ่านต่อ»