SIAMZONE.COM

เทพนิยายที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยคำว่า "กาลครั้งหนึ่ง"

สารภาพว่าดูหนังเรื่องนี้ฉบับฉายโรงครั้งแรกเมื่อปี 2010 ดูไม่ถึงครึ่งเรื่องก็หลับปุ๋ยฝันดี ครั้นว่าจะมาดูอีกครั้งก็กลายเป็นว่าไม่มีอารมณ์จะดู แม้ว่าจะเป็นผลงานของผู้กำกับ Ridley Scott ที่ผมชื่นชอบก็ตามที

จนในที่สุดผมก็ได้แผ่นเรื่องนี้มาอยู่ในมืออีกครั้งแต่เป็นฉบับ director's cut ซึ่งยาวกว่าเดิมอีก 16 นาที และผมอยากจะบอกว่ามันคือความสมบูรณ์แบบ

หนังเล่าเรื่องราวก่อนหน้าที่จะเป็น Robin Hood ที่เราคุ้นเคย ในเรื่องเราจะพบกับความเป็นปุถุชน โหดร้าย รุนแรง และกดดัน แม้ว่าจะไม่พีคเท่า Gladiator แต่ Robin Hood นั้นดูสนุก เรื่องราวบยังอ้างถึงความจริงในอดีตเช่นสงครามครูเสด สถาบันกษัตริย์ของอังกฤษที่ส่อเค้าน้ำเน่า แต่สิ่งที่ชอบมากและเอาอยู่คือ งานกำกับของ Ridley ใครที่คุ้นเคยคงรู้ว่าภาพสวยขนาดไหน หยดน้ำ หยาดเหงื่อ สายลม ใบไม้ หนังเก็รายละเอียดได้ดีมาก ซาวน์เสียงก็ไม่ต่างกันในซีนที่ต้องรบรา ฆ่าฟันกันนั้นเสียงดาบ สกอร์ประกอบหนังชวนให้ตื่นเต้น และที่เซอร์ไพร์สมากคือหนังมีความโรแมนติกสอดไส้เอาไว้ นักแสดง Russell Crowe และ Cate Blanchett เคมีเข้าคู่กันดีมาก

แต่ข้อเสียของหนังก็มีเช่นกันคือบางโมเมนต์ก็ดูขาดความสมเหต สมผล และฉากสงครามที่ดูไม่ค่อยอลังการเท่าที่ควรนัก แต่โดยรวมแล้วผมชอบหนังเรื่องนี้มาก แค่ดูนักแสดงนำก็กินขาดแล้ว บวกกับเรื่องราวการตีความเทพนิยายให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น

Robin Hood อาจไม่ได้ถูกใจคอหนังส่วนใหญ่(รวมทั้งนักวิจารณ์) แต่สำหรับผมแล้วเป็นอีกหนึ่งความประทับใจเลยล่ะครับ


9/10

สำหรับผม คิดว่าเวอร์นี้ผมชอบที่สุดละนะ อ้างอิงประวัติได้ดี หนังอาจจะไม่ได้เป็นแนวแฟนตาซีหรือเทพนิยายอย่างเวอร์ชั่นก่อนๆ แต่ดูสมเหตุสมผลดี และหนังก็ยังเล่าเรื่องต้นกำเนิดโรบินฮู้ดด้วยซึ่งเป็นช่วงที่โรบินกลับมาจากการไปรบสงครามครูเสด แล้วจึงกลายมาเป็นตำนานไง
สรุป โดยส่วนตัวก็ชอบ แม้จะเป็นหนังขาลงของพี่ริดลีย์ สก็อต แต่ก็ยังถือว่าสนุกและน่าติดตามเรื่องนึง

เหี้ยสัตว์ควยจ๋อย

เห็นโพสบอกว่าไม่ค่อยสนุก พอดูได้ ไหงคะแนนโหวตกันซะมากแบบนี้ 8.81/10

ภาคนี้เนื้อเรื่องไม่เหมือนที่เคยดูมาเลย แปลกๆชอบกล

ภาคอื่นเป็นเจ้าชายจอมโจร(ไม่รู้เป็นเจ้าชายเฉพาะชื่อรึเปล่า หนังนานมากละจำไม่ได้) ภาคนี้ไม่มีปล้นของมาแจกชาวบ้าน เหมือนหนังสงครามซะมากกว่า

แต่พอดูจบถึงได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องราวเริ่มต้น ก่อนจะเป็นตำนาน - -"

และก็ไม่เห็นว่าเค้าจะทำภาคต่อของตัวนี้ออกมาเลย

ส่วนตัวคิดว่าดูฆ่าเวลาได้อะนะ

ก้อสนุกดีค่ะ
ตั๋ว 70 บาท(ดูวันพุธ) คุ้มค่าตั๋วแล้ว
ดูไปเพลินๆ ไม่ซีเรียสค่ะ

ผมว่าสนุกดีครับ หนังทำออกมาสมจริงดี ไม่เวอร์
เวอร์ชั่นนี้ที่โรบินดูแก่ ก็จะได้เหมาะสมไงคับ
ไปรบมาตั้ง 10 กว่าปี จะให้ดูหนุ่มอยู่ได้ไง

ดูพอเอามันค่ะ ไม่เสียดายตังค์ (เพราะดูฟรี ตั๋วฟรี ไม่มีใครออกให้ ไม่ได้จ่ายซักบาท)

เวอร์ชั่นนี้ เราเองก็คิดว่าโรบิน โตไปหน่อยค่ะ เวอร์ชั่นผู้ใหญ่ ที่เราเองเคยดูมันเป็น ทีวีซีรี่ย์สของอเมริกา นำแสดงโดย Jonas Armstrong เป็น โรบิน เวอร์ชั่นที่ดูเด็กลงมาค่ะ ตอนที่ดูออกอากาศทางช่อง 7 หลังละครบ่าย

ฉากน้ำทะเลชายฝั่ง - เมาคลื่นมากเลยค่ะ

เรื่องเล่าละเอียดดีค่ะ มากจนจำไม่ได้

ก็ดีค่ะ เพราะวันนี้ไปดูฟรี เลยไม่เสียดายอะไร แถมนั่งรถเมล์ฟรีไปดูด้วยอีกต่างหาก ชีวิตนี้ ฟรีได้อีกค่ะ

เครื่องแต่งกาย
ฉาก
ทำออกมาดี ครับ

แต่หนังดูไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ครับ
(สำหรับ ผม นะ ครับ)
ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ น่ะ ครับ

ไม่สนุกเลย ผิดหวังมาก ๆ ฉากรบ ไม่อลังการ เนื่อเรื่อง งี้นๆ บัตร 140 บาท เสียดายเงิน คุณภาพหนังแค่ 100 บาท ก็พอ

ถ้าเวอร์ชั่น เควิน คอสเนอร์ เป็นเทพบุตร เวอร์ชั่นนี้ก็เป็นเวอร์ชั่น จับกัง

เพราะ เรื่องราวเล่าย้อนไปถึงต้นกำเนิดของโรบินฮู้ด โดยมีความขัดแย้ง ของราชบัลลังก์ และระหว่างอังกฤษ ฝรั่งเศสเป็นพื้นฐาน เนื่อเรื่องจึงค่อนข้างจริงจัง ไม่เป็นลักษณะแฟนตาซี สวยงาม ตลก แบบเวอร์ชั่นอื่น ฉากการรบก็มีความสมจริง ไม่ใช่ยิงธนูแม่นแบบเว่อร์ๆ แบบเวอร์ชั่นอื่น ถึงแม้ จะไม่ดุเดือด เลือดสาดแบบgladiator แต่ก็ถือได้ว่าสมจริง และ ดูสนุก โดยเฉพาะเสียงเอฟเฟ็ค เวลารบกัน

รัสเซล โคร์ว เล่นเป็นโรบินฮู้ด ถ้าถามว่าเล่นดีไหม ก็ถือว่าเอาตัวรอดกับบทนี้ได้ แต่จะดูอายุมากไปหน่อย และอวบไปหน่อย โดยเฉพาะมีฉากที่โชว์ห่น แม้จะพยายามแขม่วพุง แต่ก็เห็นนมตั้งเต้า และพุงเป็นรอยชั้นๆ เหมือนคอนโดมีเนียม ส่วนเคท แบลนเชตต์ในบทนางเอกที่พึ่งพาตัวเองได้ ร่วมรบกับพระเอกได้ ก็ถือว่าบทเด่นและเล่นได้ดี ส่วนคนอื่นก็ทำหน้าที่พอใช้ได้

บทและที่มาที่ไปของเรื่องดูสนุกใช้ได้ แม้จะมีความยาว2ชม.20นาที แต่ก็ไม่รู้สึกน่าเบื่อ แต่ ไม่ประทับใจ และไม่รู้สึกลุ้นหรือเอาใจช่วยตัวละครเท่ากับ gladiator
ให้คะแนน 8 เต็ม 10