เกร็ดน่ารู้จาก Agora
เกร็ดน่ารู้
- ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ทั่วไปมักใช้ฟิล์มขนาดใหญ่ ถ่ายภาพมุมกว้าง และใช้ดนตรีประกอบที่โอ่อ่าอลังการ แต่ผู้กำกับ อเลคันโดร อเมนาบาร์ กลับต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูคล้ายสารคดีเกี่ยวกับศตวรรษที่ 4 เขาจึงถ่ายทำแบบเร่งรีบฉับไวคล้ายภาพข่าว และตั้งใจถ่ายทำให้ดูไม่สมบูรณ์แบบนัก เช่น ถ่ายฉากปะทะบนท้องถนนโดยไม่ใช้ภาพใกล้ แต่เป็นภาพจากมุมถนน และไม่เน้นความรุนแรงมากเกินไป
- หากถ่ายทำโดยใช้เฉพาะนักแสดงที่พูดภาษาสเปน ก็จะใช้ทุนสร้างมากเกินงบประมาณ 50 ล้านยูโร ผู้สร้างจึงตัดสินใจถ่ายทำโดยให้มีคนพูดภาษาอังกฤษกันทั่วไปตามท้องถนนบ้าง โดยพิจารณาแล้วว่าคงไม่ใช่เรื่องแปลกเกินไป เพราะเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นฉากในเรื่องนั้น เป็นศูนย์รวมของสารพัดวัฒนธรรมและภาษา
- ผู้กำกับ อเลคันโดร อเมนาบาร์ ผู้อำนวยการสร้าง เฟอร์นันโด โบวาอิรา และผู้เขียนบท มาเตโอ คิล สนใจทฤษฎีความสัมพันธ์และแนวคิดเรื่องเวลาและช่องว่าง จึงร่วมกันค้นคว้าหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และดาราศาสตร์ของอียิปต์เมื่อ 1,700 ปีก่อนนานถึง 3 ปี พวกเขาได้พบเรื่องราวของ ไฮพาเทีย แห่งเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ จึงตัดสินใจนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้
- จากการค้นคว้าประวัติศาสตร์ ผู้กำกับ อเลคันโดร อเมนาบาร์ พบว่ามีห้องสมุด 2 แห่งในเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ แห่งแรกถูกเผาไปตอน จูเลียส ซีซาร์ มาเยือน และภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงห้องสมุดแห่งที่ 2
- ภาพยนตร์เล่าเรื่องเกี่ยวกับบุคคลในประวัติศาสตร์ ไฮพาเทีย โดยมี ราเชล ไวส์ซ เป็นผู้ถ่ายทอดบทบาทนี้ แต่เอกสารเกี่ยวกับ ไฮพาเทีย นั้นเหลืออยู่น้อยมาก ผลงานทางวิทยาศาสตร์ของเธอสูญหายไปหมด ผู้สร้างรู้แค่ว่าเธอเป็นนักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์ที่เก่ง เธออยู่ในยุคที่การเรียนรู้เฟื่องฟู โดยมีเมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ เป็นศูนย์กลางวิทยาการทั้งมวล ทว่าถัดจากยุคของเธอคือยุคจักรวรรดิโรมันของชาวคริสเตียน ซึ่งเป็นยุคมืดที่การเรียนรู้กลายเป็นสิ่งต้องห้าม
- เอลิซา การ์ริโด ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสตรีในประวัติศาสตร์โบราณ เป็นผู้ให้คำแนะนำแก่ผู้สร้างขณะเขียนบทภาพยนตร์ จัสติน พอลลาร์ด ผู้เขียนหนังสือ The Rise and Fall of Alexandria: Birthplace of the Modern Mind ช่วยให้คำแนะนำเรื่องงานกำกับศิลป์ นักวิทยาศาสตร์ คาเวียร์ ออร์ดอเนซ ช่วยอธิบายสูตรไขปัญหาเรขาคณิตของ ไฮพาเทีย และนักวิทยาศาสตร์ อันโตนิโอ มัมพาโซ เดินทางไปค้นคว้าข้อมูลร่วมกับผู้สร้าง อีกทั้งยังจัดการเรื่องเครื่องมือดาราศาสตร์ที่ปรากฏในเรื่อง และเป็นคนฝึกให้ ราเชล ไวส์ซ ผู้รับบท ไฮพาเทีย หัดใช้มัน
- นักวิทยาศาสตร์ อันโตนิโอ มัมพาโซ พาผู้กำกับ อเลคันโดร อเมนาบาร์ ผู้เขียนบท มาเตโอ คิล และผู้อำนวยการสร้าง เฟอร์นันโด โบวาอิรา ไปเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราว ทำให้พวกเขาพบสิ่งของที่มีประโยชน์ต่องานสร้างอย่างภาพวาด อัล เฟยัม และข้าวของที่ผสมผสานระหว่างความเป็นอียิปต์ โรมัน และคริสเตียน นอกจากนี้พวกเขายังได้ชมสุริยคราสในอียิปต์ แต่ก็ตัดสินใจไม่นำปรากฏการณ์นี้มาใส่ในภาพยนตร์
- ราเชล ไวส์ซ รับบทเป็น ไฮพาเทีย แต่เธอไม่เคยรู้จัก ไฮพาเทีย มาก่อน จนกระทั่งได้ศึกษาเรื่องราวของ ไฮพาเทีย จากจดหมายของลูกศิษย์ของเธอบางคน ทำให้ ราเชล รู้จัก ไฮพาเทีย มากขึ้น เช่น รู้ว่าเธอเสียชีวิตทั้งที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ และมีความเป็นไปได้ว่าลูกศิษย์บางคนหลงรักเธอ นอกจากนี้ยังดูเหมือนบางสิ่งในตัวเธอเป็นแรงบันดาลใจให้บรรดาลูกศิษย์ จนทำให้พวกเขาจงรักภักดีต่อเธอ
- ผู้กำกับ อเลคันโดร อเมนาบาร์ เขียนบทเรื่องนี้โดยมี ราเชล ไวส์ซ เป็นต้นแบบตัวละคร ไฮพาเทีย แล้วเขาก็ทาบทามเธอมารับบทดังกล่าวได้สำเร็จ
- สถานที่ถ่ายทำอยู่ที่ป้อมปราการริคาโซลี เมืองคัลคารา ประเทศมอลตา ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ใช้ถ่ายทำฉากโคลอสเซียมของ Gladiator (2000) และเป็นที่เดียวกับที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ Troy (2004) ภาพยนตร์ที่ฉายทางโทรทัศน์ Helen of Troy (2003) และละครชุดทางโทรทัศน์ Julius Caesar (2002)
- นักแสดงชุดดั้งเดิมที่ผู้กำกับ อเลคันโดร อเมนาบาร์ อยากให้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ราเชล ไวส์ซ, ซาชา บารอน โคเฮน และ โจนาธาน รีห์ส เมเยอร์ส แต่ อเลคันโดร ทาบทามได้สำเร็จเพียงคนเดียวคือ ราเชล ในบท ไฮพาเทีย
advertisement
วันนี้ในอดีต
- ความสุขของกะทิเข้าฉายปี 2009 แสดง ภัสสร คงมีสุข, สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, จารุวรรณ ปัญโญภาส
- Quarantineเข้าฉายปี 2009 แสดง Jennifer Carpenter, Steve Harris, Jay Hernandez
- Bal Ganeshเข้าฉายปี 2009 แสดง Asha Bhonsale, Kailash Kher, Usha Mangeshkar
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Wonder Woman 1984 การกลับมาครั้งนี้จะพา ไดอานา ปรินซ์ (กัล กาด็อต) ไปสู่ช่วงเวลาหลายปีหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคแรกในตอนนี้เจ้า...อ่านต่อ»