วิจารณ์ ใคร...ในห้อง
-
mink
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 21:52
กอลั่ม กอลั่ม
รับไม่ได้อ้ะ
-*- -
MithRanDir
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 21:02
หนังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย
-
master_of_force
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 17:15
สิ้นหวังแล้ว หนัง 2 เรื่องก่อนหน้านี้ดีกว่าเยอะ เสียค่าเข้าดูให้กับกอลลั่มจริงๆ จัดไป 2 คะแนน
-
`WLD_NAYWAN'EARTH
(เลขที่ 189618)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 14:40
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น หนังมันแทบจะไม่เกี่ยวกับโรค "ฮิคิฯ" อะไรนั่นเลย -*- รู้แค่ว่าหนังเรื่องนี้ "โรคจิต" เข้าขั้น ต้องรับเรื่องให้ทัน ไม่งั้นคุณได้ออกมาจากโรงแบบ "งงๆ" แน่ หนังแหวกแนวกว่า "บอดี้"เสียอีก เหอะๆ
เอาไป 6.5/10 เพราะตอนจบโอเวอร์มาก แต่ในสยามให้ 6/10 ละกัน มันไม่มี.5 -
PluG
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 08:44
เป็นหนังที่มีเนื้อหาแหวก แปลกแนวจริง ๆ ครับ แปลกว่าบอดี้ ศพ19 และ 13 เกมส์สยอง แต่ทำไมผมไม่ชอบก็ไม่รู้สิ มันคงแปลกเกินไป จนรับไม่ทัน และช่วงกลาง ๆ ค่อนข้างอืดด้วยครับ
ให้คะแนน 6/10 ครับ -
haru02
(เลขที่ 137841)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 01:55
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น งั้นขอตีความ ประเด็นของหนัง (ตามการวิเคราะห์ของผมเองนะ) พอดีคิดไปคิดมาก มันน่าจะเป็นแบบนี้รึป่าว ?
เห็นหลายคอมเมนต์บ่นกันว่า แล้วตอนจบมันเกี่ยวอะไรกับฮิคิโคโมริ ตรงไหนเนี้ย.....
ซึ่งตามความเห็นของผมแล้วนะครับ
ถ้า ฮิคิโคโมริ นั้นหมายถึง ภาวะที่คนเราแยกตัวออกจากสังคม เก็บตัวอยู่เฉพาะในห้องส่วนตัว หรือในบ้าน เป็นแรมเดือนหรือหลายปี
ซึ่ง**การแยกตัวออกจากสังคม แล้วก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเนี้ย ตามความเห็นของผม มันก็คือ การสร้างโลกส่วนตัวของตัวเอง (ห้อง) ขึ้นมา แล้วตัวเองก็เข้าไปอาศัยในโลกส่วนตัวนั้นนั่นเอง ซึ่งก็อาจจะเพื่อป้องกันตนเองจากสิ่งเลวร้ายในโลกของความเป็นจริงที่ตนเอง ได้เผชิญมา โดยโลกส่วนตัวนี้ แม้ เรา (คนสร้าง) จะรู้สึกปลอดภัยจากความจริงที่ได้เผชิญมาก็จริง แต่ก็เป็นเพียงการหลบเลี่ยงเท่านั้น คือ ในโลกของความจริง สิ่ง(ปัญหา) เหล่านั้น ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่แทนที่เราจะยอมรับและแก้ไขมัน แต่เรากลับหลบเลี่ยงมันไปซะ
(ขอ สปอยล์ ละกันนะ เพื่อความสมบูรณ์ในการตีความ)
ทั้งนี้ในตัวหนังเอง ก็มีประเด็นอยู่ประเด็นหนึ่งซึ่งหลายคนอาจจะมองข้าม (แต่เมื่อกลับมาคิดทบทวนอีกที ผมว่าประเด็นนี้มันเชื่อมโยงทุกอย่างเลยนะ) คือ ตอนที่นิดา ปรึกษา กับวิทยากรของจีรัง ยั่งยิน ที่ว่าช่วงตน(นิดา)ฝันร้ายบ่อย ซึ่งมีประโยคหนึ่งที่วิทยากรตอบกลับมาประมาณว่า คุณเชื่อว่าตนเองมีความสุข แต่จริงๆแล้วคุณไม่ได้มีความสุขหรอก ความทุกข์ในใจคุณยังคงอยู่ แต่คุณเลือกที่จะเลี่ยงความทุกข์ในใจโดยการปิดสวิตซ์ความทุกข์ และเปิดสวืตซ์ความสุข แทนที่จะยอมรับกับความทุกข์นั้น (น่าจะประมาณนี้นะ จำไม่ค่อยได้แล้ว)
ซึ่งในที่นี้ นิดา ไม่สามารถทำใจยอมรับความจริงได้ ซึ่งพอนิดา ได้เรียนรู้แนวคิดแบบจีรัง ยั่งยืน เธอก็เลยทำการปิดสวิตซ์ความจริงที่เธอได้เผชิญมา (หรือก็คือ ความทุกข์นั้นเอง) และสร้างความเชื่อในแบบของเธอขึ้นมา คือ ความเชื่อที่ว่า ต้นยังไม่ตายเพื่อแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเท่านั้น (หรือก็คือการเปิดสวิตซืความสุขนั้นเอง) เพื่อเลี่ยงที่จะไม่ยอมรับกับความจริงอันเจ็บปวดนั้น.......
ทั้งนี้ การสร้างความเชื่อในแบบของตนเอง (หรือ การเปิดสวิตซ์ความสุข และปิดสวิตซ์ความทุกข์ในใจ) มันก็คือการสร้างโลกส่วนตัว (ห้อง) ของตัวเองขึ้นมานั้นเอง ดังนั้น ในทางกลับกันมันจึงกลายเป็นว่า สิ่งที่อยู่ในห้องนั้นก็คือนิดา นั่นเอง
หรือถ้าจะสรุปให้เข้าใจง่ายก็คือ คนที่ป่วยเป็นฮิคิโคโมริ ไม่ใช่ลูกของนิดา แต่เป็นตัวของนิดาเอง ที่ได้สร้างโลกส่วนตัวหรือห้องของตัวเองขึ้นมา แล้วก็เข้าไำปอยู่ในโลกหรือห้องนั้น โดยมีชีวิตตามความเชื่อที่"ตนเองเลือกที่จะเชื่อ" เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่ตนเองได้เผชิญมาในโลกของความเป็นจริงนั้นเอง
แหะๆ พอจะเข้าใจกันรึป่าว ครับ น่าจะประมาณนี้อะ -
jude
(เลขที่ 45057)
เมื่อ 28 ก.พ. 53 00:20
เป็นหนังที่ผสมผสานกันระหว่าง อารมณ์แบบทริลเลอร์ แบบหนังโรคจิต ที่ให้ตัวละครเอกมีความผิดปกติทางจิต ผสม กับความเชื่อในเรื่องพลังจิตแบบเหนือมนุษย์
หนังผูกเรื่องได้ดีมาก ตอนท้ายเรียกว่าเซอร์ไพร์สได้เลย เทียบได้กับบอดี้ ศพ19 เลย แม้บางคนจะบอกว่าตอนจบไม่เคลียร์ แต่ถ้าดูดีๆ หนังได้ให้เหตุผลของฉากสุดท้ายของตัวละครแต่ละตัวไว้แล้วนะครับ เช่น ว่าทำไมสุดท้ายตัวละครบางตัวถึงเป็นฮิคิโคโมริแทน เนื่องจากได้รับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจขึ้นรุนแรง
เท่าที่ได้อ่านที่คนอื่นให้ความเห็น จะรู้สึกว่าแต่ละคนความรู้สึกต่างกันมาก ที่ชอบก็ชอบเลย ที่ไม่ชอบก็เกลียดเลย เพราะว่าบอกว่าไม่เคลียร์ และไม่สมเหตุผล
แต่ถ้าเราลองทบทวนเหตุผลของตอนจบอีกครั้ง น่าจะเคลียร์ขึ้นและมองหนังเรื่องนี้ในแง่ดีขึ้นนะครับ
ให้คะแนน 8.5 เต็ม 10 ครับ ถือว่าเป็นหนังที่สร้างได้ดี ไม่เสียดายเงินแน่นอน แต่ไม่ควรอ่านที่สปอยล์กันก่อนไปดูหนัง เพราะทำให้เสียอรรถรสในการดูนะครับ และ บางคนก็สปอยล์กันผิด ตัวละครบางตัวหนังไม่ได้บอกว่าตาย ก็ไปบอกว่าตาย -
phuket2k
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 27 ก.พ. 53 09:53
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ส่วนตัวชอบครับ หนังมีแนวทางของตัวเองดี แต่จีรังยั่งยืนไม่น่าออกมาบ่อยขนาดนั้น เลยเดาเนื้อเรื่องออกหมดเลย สนุก ถ้าไม่คิดมากครับ
-
ครอบครัวแพรวลี;''
(เลขที่ 190227)
เมื่อ 26 ก.พ. 53 21:13
อ่า..พูดง่ายๆเสียดายตังค์สุดยอด
เดินออกมาจากโรงหนังยังมึนอยู่เลย =_= -
'xoxo-
(เลขที่ 246013)
เมื่อ 26 ก.พ. 53 19:17
วันนี้ได้ไปดูมา บางคนที่ดูอาจจะบอกว่าเสียดายเงิน
แต่ผมคิดว่ามันเป็นหนังที่น่าสนใจ แหวกแนวดี ไม่ค่อยเห็นหนังแนวนี้เหมือนกัน
ตอนดูเรื่องนี้จบก็มึนๆอยู่เหมือนกัน มันค่อนข้างงงอยู่นะ
แบบว่าตกลงป่านตายมั้ย(คิดว่าน่าจะตาย) แล้วทำไมนก สินจัย ถึงไม่ตาย มันเป็นอะไรที่คาใจอยู่เหมือนกัน
แต่อยากจะขอชื่นชมนักแสดงมาก โดยเฉพาะนก สินจัย เพราะเธอใส่ไม่ยั้ง บทไหนแรง ก็แรงไม่เกรงใจใคร ส่วนตาลก็แสดงเหมือนคนป่วยดี แต่ถ้าป่านตายจริงก็น่าสงสารมาก เพราะเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตามแมวอยู่ดีๆก็ตายซะงั้น
ฉากที่ชอบในเรื่องนี้ก็มีเยอะอยู่เหมือนกันนะ อย่างตอนที่ตาลใส่ชุด นร.ญี่ปุ่น น่ารักดี ตอนที่นก สินจัย กรีดร้องตอนลูกตาย ตอนนี้ได้อารมณ์มาก แล้วก็ตอนที่โดมตาย ตอนนี้ได้ใจสุดๆ ชอบมาก(ไม่ได้โรคจิตนะ)
ยังไงสรุปแล้วเรื่องนี้ สุดยอด!!!
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- รักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
- Harry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
- ตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า เรื่องราวของ ซู (เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) กับช่วงเวลาสุดท้ายของเธอในเมืองเล็กๆ ที่จังหวัดจันทบุรีก่อนจะไปศึกษาต่อที่ประเทศ...อ่านต่อ»