เกร็ดน่ารู้จาก The Twilight Saga: New Moon
เกร็ดน่ารู้
- เป็นภาค 2 ของภาพยนตร์ชุด Twilight ที่สร้างจากวรรณกรรมชุดชื่อเรื่องเดียวกันของ สเตฟานี เมเยอร์ ซึ่งได้รับการแปลมากกว่า 20 ภาษา และได้รับเลือกให้เป็นหนังสือยอดเยี่ยมประจำปีโดย พับลิชเชอร์ส วีกลี เป็นหนังสือยอดเยี่ยมประจำทศวรรษของ อเมซอน เป็นหนังสือแนะนำของ ทีน พีเพิล และเป็น 1 ใน 10 หนังสือยอดเยี่ยมของสมาคมห้องสมุดแห่งอเมริกา
- ผู้อำนวยการสร้าง ไวก์ กอดฟรีย์ เลือก คริส ไวต์ซ มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะ คริส เคยกำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมมาก่อนแล้วอย่าง About a Boy (2002) และ The Golden Compass (2007) รวมทั้งเคยสร้างภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่มีการใช้เอฟเฟกต์ นอกจากนี้ คริส ยังถนัดในการร่วมงานกับนักแสดงวัยรุ่น และเขาชื่นชอบวรรณกรรมชุด Twilight มากอีกด้วย
- สเตฟานี เมเยอร์ ผู้เขียนวรรณกรรมชุด Twilight คิดว่าภาค New Moon เป็นภาคที่เขียนยากที่สุด เพราะตอนเธอแต่งเล่มแรกอย่าง Twilight เธอคิดว่าคนอ่านอาจมีเธอเพียงคนเดียว แต่เมื่อมาเขียนภาคที่ 2 อย่าง New Moon เธอรู้สึกว่ามีคนจำนวนมากกำลังรออ่านงานของเธออยู่ จึงรู้สึกกดดันมาก
- ก่อนถ่ายทำ ผู้กำกับ คริส ไวต์ซ แจกเอกสารแนะแนวความยาว 20 หน้าให้แก่นักแสดง เอกสารนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความคิดที่เขามีต่อสถานการณ์และตัวละคร เพื่อให้นักแสดงคุ้นเคยกับความคิดของผู้กำกับให้มากที่สุด จากนั้นเขาจะกระตุ้นให้ทุกคนเสนอความคิดใหม่ๆ ระหว่างที่ถ่ายทำ
- ฉากโปรดของ เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ผู้ชื่นชอบการแสดงฉากผาดโผนคือฉากที่ตัวละครของเขา เจคอบ แบล็ก วิ่งออกจากบ้าน กระโดดข้ามรั้วและห้วย และวิ่งผ่านทุ่งหญ้า จากนั้นสายสลิงจะยกตัว เทย์เลอร์ สูงขึ้นไปกว่า 10 ฟุต และเมื่อเขาหยุดตัวอยู่กลางอากาศ แผนกวิชวลเอฟเฟกต์ก็จะจับภาพของเขามาเปลี่ยนให้กลายเป็นหมาป่า
- เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ผู้รับบท เจคอบ แบล็ก เล่นกีฬาทุกชนิดในโรงเรียน และเข้าแข่งขันศิลปะการต่อสู้มาแล้วมากมาย ทำให้เขาสามารถแสดงฉากผาดโผนเองได้ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างลักษณะท่าทางของตัวละครอีกด้วย
- มีฉากที่ แอชลีย์ กรีน ผู้รับบท อลิซ คัลเลน ต้องขับรถปอร์เชสีเหลืองไปตามท้องถนนในประเทศอิตาลี แต่ แอชลีย์ มีเวลาเพียงวันเดียวในการหัดขับรถ เธอจึงเกือบขับรถเฉี่ยวกับมุมตึก
- ไมเคิล ชีน ที่รับบทเป็นแวมไพร์ อาโร ในเรื่องนี้ เคยรับบทเป็นมนุษย์หมาป่าที่ตกเป็นทาสแวมไพร์ในภาพยนตร์ชุด Underworld ทั้ง 3 ภาค
- เนื่องจากตัวละคร อาโร เป็นแวมไพร์ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี จึงไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก ทำให้ อาโร ต้องพูดทุกคำโดยตรึกตรองไว้ก่อน ไมเคิล ชีน ที่รับบทนี้ จึงต้องฝึกพูดด้วยเสียงสูงขึ้นและใช้สำเนียงที่แปลกไป
- ดาโกตา แฟนนิง ที่รับบทแวมไพร์สาว เจน ชื่นชอบหนังสือชุด Twilight มาก เธออ่านจนจบทั้ง 4 เล่มภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว
- ดาโกตา แฟนนิง ต้องสวมคอนแทกเลนส์สีแดงและแต่งหน้าสีขาว เพื่อรับบท เจน แวมไพร์สาว
- ในภาพยนตร์ ฝูงหมาป่าแห่งเผ่าควิลยูตถือกำเนิดขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากแวมไพร์ โดยพวกเขาจะเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าเมื่อดินแดนของตนถูกคุกคาม แต่ตามตำนานที่เล่าต่อกันมาจริงๆ นั้น เผ่าควิลยูตไม่มีการเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่า แต่สมาชิกในเผ่าสืบทอดมาจากหมาป่าที่พัฒนาตัวเองกลายเป็นมนุษย์
- เพื่อนนักแสดงในกองถ่ายพากันตั้งชื่อเล่นให้ แชสเก สเปนเซอร์ ที่รับบทหัวหน้าฝูงหมาป่า แซม อูลีย์ ว่า อัลฟา
- นักแสดงที่เข้ามารับบทเป็นฝูงหมาป่า ล้วนสืบเชื้อสายมาจากชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน เช่น เชสเก สเปนเซอร์ ผู้รับบท แซม อูลีย์ มาจากเผ่าลาโคตา, บรอนสัน เพลเลอเทียร์ ผู้รับบท จาเรด มาจากเผ่าครี-เมติส, คิโอวา กอร์ดอน ผู้รับบท เอมบรี คอลล์ มาจากเผ่าฮัวลาไพ, ไทสัน เฮาส์แมน ผู้รับบท ควิล อาทีรา มาจากเผ่าครี และ อเล็กซ์ เมราซ ผู้รับบท พอล มาจากเผ่าเพียวเพชา
- อเล็กซ์ เมราซ ผู้รับบทหมาป่า พอล เป็นชาวเผ่าชาวประมงเพียวเพชาจากประเทศเม็กซิโก โดยคุณปู่ของเขาเป็นพ่อผีประจำเผ่า เมื่อเข้ามาบทสอบบท เขาภาวนาและขออนุญาตแสดงเป็นคนในชนเผ่าอื่น เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้คนจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ตามธรรมเนียมที่เผ่าของเขายึดถือ
- ในหนังสือต้นฉบับ กลุ่มแวมไพร์ โวลตูรี อาศัยอยู่ในเมืองโบราณ โวลเตอร์รา ในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี ผู้ออกแบบงานสร้าง เดวิด บริสบิน เลือกเมืองมอนเตปูลชาโน ในแคว้นทัสคานี เป็นสถานที่ถ่ายทำ เนื่องจากเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคกลาง จากนั้น เดวิด สร้างสถาปัตยกรรมของ โวลตูรี ตามที่บรรยายไว้ในหนังสือ เช่น ห้องโถงใหญ่ที่มีรูปร่างเป็นวงกลมเหมือนวังน้ำวน และมีท่ออยู่ตรงจุดศูนย์กลางของห้อง ซึ่งใช้ในการระบายเลือดเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น รวมถึงทางเดินที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
- ผู้ดูแลแผนกวิชวลเอฟเฟกต์ ซูซาน แมกลีออด จาก ทิปเปตต์ สตูดิโอ สร้างตัวละครหมาป่าขึ้น เริ่มจากสแกนร่างกายนักแสดงเข้าไปในคอมพิวเตอร์ โดยให้นักแสดงสวมชุดสีเขียวที่มีปุ่มอยู่ทั่วทั้งตัว แล้วให้พวกเขายืนบนกล่อง ขณะที่เครื่องกลขนาดใหญ่สแกนพวกเขาจากศีรษะจรดเท้า จากนั้นนำสัดส่วนร่างกายที่ได้มาแปลงเป็นหมาป่า โดยเริ่มจากโครงกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่น ไปจนถึงชั้นของผิวหนังและขน
- ในภาคแรก ถ่ายทำฉากบ้านของ เบลลา สวอน ที่รับบทโดย คริสเต็น สจ็วต กันในพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ในภาคนี้ ถ่ายทำในแวนคูเวอร์ รัฐบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เดวิด บริสบิน ผู้ออกแบบงานสร้าง จึงต้องศึกษาฉากในภาคแรกอย่างละเอียด เพื่อสร้างใหม่ให้เหมือนเดิมที่สุด ยกเว้นส่วนที่จำต้องเปลี่ยนแปลง เช่น เพิ่มหน้าต่างเข้ามาในห้องที่เดิมไม่มีหน้าต่างของ เบลลา เพื่อใช้ถ่ายทำฉากที่ เจคอบ แบล็ก ที่รับบทโดย เทย์เลอร์ เลาเนอร์ กระโดดเข้ามาในห้อง
- ผู้สร้างพบบ้านสีเขียวหลังหนึ่งอยู่ติดกับป่า ดูเหมาะสมที่จะเป็นบ้านของตัวละคร เจคอบ แบล็ก ที่รับบทโดย เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ มาก แต่เนื่องจากในหนังสือระบุว่าบ้านของ เจคอบ มีสีแดง พวกเขาจึงขออนุญาตเจ้าของบ้าน ทาสีบ้านทั้งหลังให้กลายเป็นสีแดง
- เดิม แคตเธอรีน ฮาร์ดวิกก์ ที่กำกับภาคแรก Twilight (2008) จะได้กำกับภาคนี้ แต่เธอติดงานอื่นจึงต้องขอถอนตัวไป แล้วมอบหน้าที่นี้ให้ คริส ไวต์ซ
- ก่อนเริ่มถ่ายทำ มีข่าวลือนานหลายเดือนว่า เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ จะไม่ได้กลับมารับบท เจคอบ แบล็ก เพราะร่างกายไม่แข็งแกร่งเพียงพอ แต่ เทย์เลอร์ ก็ออกกำลังกายจนมีกล้ามเนื้อเพิ่มมา 26 ปอนด์ ผู้กำกับ คริส ไวต์ซ และเจ้าของบทประพันธ์ต้นฉบับ สเตฟานี เมเยอร์ จึงออกมาประกาศว่า เทย์เลอร์ จะได้กลับมารับบทนี้เช่นเดิม
- ระหว่างการถ่ายทำฉากที่ แจสเปอร์ วิตล็อก ที่รับบทโดย แจ็กสัน แรธโบน พุ่งตัวออกไปอย่างแรงเพื่อทำร้าย เบลลา สวอน ที่รับบทโดย คริสเต็น สจ๊วต แต่ คาร์ไลส์ คัลเลน ที่รับบทโดย ปีเตอร์ ฟาซิเนลลี และ เอ็มเมตต์ คัลเลน ที่รับบทโดย เคนแลน ลัตซ์ ช่วยกันดึงตัวเขาเอาไว้ มีเทกหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย คือ อลิซาเบธ รีเซอร์ ที่รับบทเป็น เอสเม คัลเลน ถูกชนล้มไปลงบนพื้น
- เนื่องจากต้องใช้เวลาถึง 36 ชั่วโมงในการเปลี่ยนผมสีน้ำตาลของ นิกกี รีด ผู้รับบท โรซาลี ให้เป็นสีทอง เธอจึงสวมผมปลอมแทน
- แม้ นูต เซียร์ จะระวังไม่ให้ผิวคล้ำขึ้นเลยในช่วงก่อนถ่ายทำ 2 เดือน แต่เธอก็ยังต้องแต่งผิวให้ขาวซีดทั้งตัว ก่อนเข้าฉากในบทบาท ไฮดี
- เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับแวมไพร์เรื่องแรกของผู้กำกับ คริส ไวต์ซ อย่างไรก็ตาม คุณยายของเขา ลูปิตา โตวาร์ เคยรับบทนำในภาพยนตร์แวมไพร์จากประเทศสเปน Dracula (1931) และพี่ชายของเขา พอล ไวต์ซ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เกี่ยวกับแวมไพร์เรื่อง Cirque du Freak: The Vampire's Assistant (2009)
- เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องแรกของ คริส ไวต์ซ
- แอชลีย์ กรีน ผู้รับบท อลิซ คัลเลน ตัดผมสั้นเพื่อให้สวมผมปลอมได้แนบเนียน โดยผมปลอมของเธอในเรื่องนี้เป็นคนละแบบกับที่เธอเคยสวมในภาค Twilight (2008)
- ก่อนหน้านี้ เจมี แคมป์เบลล์ โบเวอร์ เคยเข้ามาทดสอบบท เอ็ดเวิร์ด คัลเลน แต่พลาดบทนี้ให้ โรเบิร์ต แพตตินสัน จากนั้น เจมี ก็ได้รับบทเป็น ไกอัส สมาชิกโวลตูรี
- โรเบิร์ต แพตตินสัน ผู้รับบท เอ็ดเวิร์ด คัลเลน ชอบหนังสือ New Moon มากที่สุดในบรรดาหนังสือชุด Twilight ทั้ง 4 เล่ม
- ผู้ตัดต่อ ปีเตอร์ แลมเบิร์ต ตัดต่อบางส่วนของภาพยนตร์ขณะเดินทางในแต่ละวัน ขณะที่เขานั่งอยู่ในเบาะหลังของรถยนต์
- ซัมมิต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ประกาศอนุมัติให้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ 1 วันถัดจากวันที่ภาคแรกอย่าง Twilight (2008) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
advertisement
วันนี้ในอดีต
- แจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
- TRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
- รักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
The Accidental Prime Minister สร้างจากบันทึกโดยนักวิเคราะห์การเมืองชาวอินเดีย ซานจาย บารุ (อักเช คานห์นะ) นำเสนอช่วงเวลาที่ มานโมฮาน ซิงห์ (อนุพาม เค...อ่านต่อ»