เกร็ดน่ารู้จาก New York, I Love You
เกร็ดน่ารู้
- เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ในโครงการ เมืองแห่งความรัก ต่อจากเรื่องแรก Paris je t'aime (2006) ซึ่งเป็นผลงานที่ริเริ่มโดยผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ เขาวางแผนจะสร้างเรื่องราวความรักในเมืองใหญ่ทั่วโลกต่อไปอีกหลายเรื่องนับจากนี้ โดยมีเป้าหมายเป็นเมืองริโอเดอจาไนโร ประเทศบราซิล กับเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ในปี 2010 และเมืองเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล กับมุมไบ ประเทศอินเดีย ในปี 2011
- ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ เริ่มสร้างภาพยนตร์ในโครงการ เมืองแห่งความรัก เรื่องแรกที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนกลายเป็นภาพยนตร์เรื่อง Paris, je t'aime (2006) เนื่องจากปารีสเป็นบ้านเกิดของเขา และเลือกนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องที่ 2 เรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเมืองที่เขาเคยมาเยือนตอนอายุ 7 ปี ในช่วงทศวรรษที่ 70
- ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ ได้พบผู้อำนวยการสร้าง มารินา กราซิก ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานน์ส จึงชวนเธอมาสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกัน เนื่องจาก มารินา เคยมีส่วนร่วมในภาพยนตร์หลายเรื่องที่มีรูปแบบและโครงเรื่องใกล้เคียงกับภาพยนตร์เรื่องนี้
- ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ เริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขณะอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น แอนโธนี มินเกลลา ผู้เขียนบทตอนของผู้กำกับ เชการ์ กาปูร์ ที่ ดิ อัปเปอร์ อีสต์ ไซด์ ก็โทรศัพท์มาแนะนำให้ เอ็มมานูเอล ไปพบเขาเพื่อวางแผนการทำงานต่อในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยตรง เอ็มมานูเอล จึงตัดสินใจย้ายไปนิวยอร์กในวันรุ่งขึ้น
- ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ ไม่ต้องการให้ผู้กำกับดังๆ อย่าง สไปก์ ลี, วูดดี อัลเลน หรือ มาร์ติน สกอร์เซซี มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะผู้ชมส่วนใหญ่รู้กันดีแล้วว่าพวกเขามีมุมมองต่อเมืองนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกาอย่างไร เอ็มมานูเอล ต้องการผู้กำกับที่จะเผยโฉมเมืองนี้ในมุมมองที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน เขาจึงเดินทางไปพบบรรดาผู้กำกับรุ่นหลังในที่ต่างๆ ทั่วโลก
- เรื่องนี้ประกอบด้วยภาพยนตร์สั้น 11 เรื่องจากผู้กำกับ 11 คน โดยแบ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องหลัก 10 เรื่อง และเรื่องที่เชื่อมโยงทุกเรื่องเข้าด้วยกันอีก 1 เรื่อง แต่ละเรื่องมีความยาว 8 นาที โดยผู้กำกับทุกคนใช้เวลาถ่ายทำทุกเรื่องรวมกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ หรือ 36 วัน
- เงื่อนไขในการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ คือเรื่องราวแต่ละตอนต้องระบุอย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้น ณ บริเวณใดของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และทุกตอนต้องเกี่ยวข้องกับความรักในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง และห้ามใช้วิธีเลือนภาพเป็นสีดำในฉากเริ่มและฉากจบของแต่ละตอน
- กฎของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ คือผู้กำกับแต่ละคนมีเวลาถ่ายทำทั้งสิ้น 2 วัน หลังจากนั้นมีเวลาตัดต่ออีก 7 วัน ขณะที่ผู้กำกับคนใหม่เริ่มลงมือถ่ายทำตอนต่อไปทันทีโดยไม่มีวันหยุด ส่วนทีมงานแผนกอื่น เช่น ผู้ออกแบบงานสร้าง และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย มีเวลาทำงานนาน 8 สัปดาห์ เท่ากับเวลาถ่ายทำภาพยนตร์ทั้งเรื่อง
- เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ประกอบด้วยภาพยนตร์สั้นหลายเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เกิดขึ้นในเมืองเดียวกัน ผู้สร้างจึงสร้างฉากที่เชื่อมโยงเรื่องราวแต่ละตอนเข้าด้วยกัน โดยผ่านนักแสดง เอมิลี โอฮานา ที่รับบทเป็นช่างภาพวิดีโอที่ปรากฏตัวในทุกๆ ตอน ฉากเชื่อมโยงเหล่านี้กำกับโดย แรนดี บัลส์เมเยอร์
- ผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ เปรียบเทียบ เจียงเหวิน ที่กำกับตอนหนึ่งในไชนาทาวน์ ว่าเป็น โรเบิร์ต เดอนีโร แห่งเมืองจีน เนื่องจาก เจียงเหวิน เป็นทั้งดาราใหญ่ และยังเป็นผู้กำกับที่มีความกล้า เอ็มมานูเอล เปิดเผยว่าเขาอยากทำงานกับ เจียงเหวิน มาตั้งแต่ตอนที่สร้าง Paris je t'aime (2006) แล้ว แต่โอกาสไม่อำนวย
- ราเชล บิลสัน ชอบภาพยนตร์เรื่อง Paris je t'aime (2006) มาก เธอจึงดีใจมากที่ได้มาแสดงเรื่องนี้ในตอนของผู้กำกับ เจียงเหวิน ในไชนาทาวน์ นอกจากนี้เธอยังดีใจที่ได้แสดงร่วมกับ เฮย์เดน คริสเทนเซน ที่มารับบทหนุ่มนักล้วงกระเป๋าในตอนนี้ หลังจากเคยร่วมงานกันมาแล้วใน Jumper (2008)
- เออร์ฟาน ข่าน ที่เคยร่วมงานกับผู้กำกับ มิรา แนร์ มาแล้วใน The Namesake (2006) ตกลงหวนกลับมาร่วมงานกับเธออีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยรับบทเป็นพ่อค้าเพชรชาวอินเดีย ในย่านร้านขายเพชร เดอะ ไดมอนด์ ดิสทริก ในแมนฮัตตันของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
- การที่ นาตาลี พอร์ตแมน ได้มารับบทว่าที่เจ้าสาวชาวยิว ในตอนของผู้กำกับ มิรา แนร์ ที่เดอะ ไดมอนด์ ดิสทริก ทำให้เธอได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่เป็นผู้หญิงเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เธอเคยร่วมงานกับผู้กำกับหญิงเฉพาะในภาพยนตร์ระดับนักศึกษาเท่านั้น ในโอกาสนี้ นาตาลี เปิดเผยว่า มิรา คือแรงบันดาลใจที่สำคัญของเธอ
- ผู้กำกับ เบรต แรตเนอร์ ทราบข่าวการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้จากผู้กำกับ อีวาน อัตตาล ผู้เป็นเพื่อน เบรต จึงเสนอตัวไปยังผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ และ เอ็มมานูเอล เองก็สนใจที่จะร่วมงานกับผู้กำกับจากฮอลลีวูดสักคนอยู่พอดี เบรต จึงได้มากำกับตอนหนึ่งซึ่งเกิดเรื่องราวขึ้นที่ เซ็นทรัล พาร์ก ของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ผู้กำกับ เบรต แรตเนอร์ กำกับตอนหนึ่งในย่านเซ็นทรัล พาร์ก ของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้พัฒนาบทภาพยนตร์ร่วมกับ เจฟฟ์ นาธานสัน นักเขียนบทคู่ใจที่ร่วมงานกันมายาวนาน เบรต พูดทีเล่นทีจริงว่าเรื่องราวครึ่งหนึ่งสร้างจากชีวิตจริงของเขาเอง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นเป็นเรื่องแต่ง
- โอลิเวีย เธิร์ลบี เป็นชาวเมืองนิวยอร์กดั้งเดิม อีกทั้งยังชื่นชอบภาพยนตร์ Paris je t'aime (2006) มากด้วย เธอจึงดีใจมากที่ได้มารับบทเป็นสาวน้อยในรถเข็นคนพิการ ในตอนของผู้กำกับ เบรต แรตเนอร์ ที่ เซ็นทรัล พาร์ก
- แบรดลีย์ คูเปอร์ รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครชายในบทภาพยนตร์ของ อเล็กซานดรา แคสซาเวตส์ ทันทีที่ได้อ่านมันเป็นครั้งแรก อีกทั้งเขายังเป็นเพื่อนเก่าแก่ของผู้กำกับ อัลเลน ฮิวส์ อีกด้วย เขาจึงได้มารับบทเป็นตัวละครดังกล่าว ในตอนที่กำกับโดย อัลเลน ในภาพยนตร์เรื่องนี้
- แอนโธนี มินเกลลา เขียนบทเรื่องราวตอนหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่ ดิ อัปเปอร์ อีสต์ ไซด์ โดยวางแผนไว้ว่าจะกำกับด้วยตัวเอง แต่เขาเกิดป่วยหนักเสียก่อน เขาจึงเลือก เชการ์ กาปูร์ มาสานต่องานของเขา เนื่องจากเป็นคนที่เขาเคยพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับชีวิตและความตายมาเป็นเวลานานแล้ว แม้จะมีความเห็นไม่ตรงกันทั้งหมดก็ตาม และจากนั้น แอนโธนี ก็เสียชีวิตลง ท่ามกลางความสะเทือนใจของเพื่อนร่วมงานทุกคน
- เชการ์ กาปูร์ ซึ่งมารับหน้าที่กำกับบทภาพยนตร์ของ แอนโธนี มินเกลลา เคยเอ่ยปากถาม แอนโธนี ว่า บทภาพยนตร์ของเขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ แต่จากนั้นเขาก็เข้าใจว่าเขาจะต้องค้นหาคำตอบนั้นเอง ด้วยการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยต้องทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ยอมให้ผู้ชมเข้าไปค้นหาความหมายของมันด้วย
- ผู้กำกับ เชการ์ กาปูร์ เล่าว่าเขารู้สึกแปลกใจเมื่อได้พบกับ ไชอา ลาบัฟ ที่จะมาแสดงเป็น เด็กรับใช้ ในภาพยนตร์สั้นของเขาเรื่องนี้ เพราะ ไชอา ได้ฝึกหัดการเดินและคิดหาสำเนียงการพูดไว้เรียบร้อยแล้ว ราวกับเขารู้ดีล่วงหน้าว่าจะต้องได้รับบทนี้อย่างแน่นอน
- นาตาลี พอร์ตแมน ได้กำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรก รวมทั้งเขียนบทภาพยนตร์เอง ในตอนหนึ่งที่เกิดเรื่องราวขึ้นที่เซ็นทรัล พาร์ก นอกจากนี้ เธอยังได้แสดงนำในตอนของผู้กำกับ มิรา แนร์ ที่ เดอะ ไดมอนด์ ดิสทริก ด้วย
- การถ่ายทำตอนของผู้กำกับ นาตาลี พอร์ตแมน ที่ เซ็นทรัล พาร์ก มีอุปสรรคสำคัญคือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นฝนตก ลมแรง และอากาศเย็นยะเยือก ในขณะที่ภาพยนตร์ตอนนี้จำเป็นต้องถ่ายทำกลางแจ้งตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้การกำกับนักแสดงนำก็เป็นงานยาก เพราะมีทั้งนักแสดงเด็กอย่าง เทย์เลอร์ เกียร์ และมือสมัครเล่นอย่าง การ์ลอส อากอสตา ซึ่งจริงๆ แล้วมีอาชีพเป็นนักเต้น
- ฟาตีห์ อาคิน ต้องการกำกับตอนหนึ่งใน Paris je t'aime (2006) แต่โอกาสไม่อำนวย ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธเมื่อผู้อำนวยการสร้าง เอ็มมานูเอล เบนบีห์ ติดต่อให้เขามากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แทน แม้ว่าเขาไม่เคยอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่การเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็ทำให้เขาประทับใจไม่น้อย
- ผู้กำกับ โจชัว มาร์สตัน ลองเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ออกมาแตกต่างกันทุกวันเป็นเวลาราว 2 สัปดาห์ เขาจึงมีบทภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายย่านในนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา เช่น แจ็กสัน ไฮต์ส, วิลเลียมเบิร์ก, ดิ อัปเปอร์ เวสต์ ไซด์ และไบรตัน บีช สุดท้ายแล้ว โจชัว ตัดสินใจเลือกเรื่องที่ ไบรตัน บีช อันเป็นสถานที่ซึ่งทำให้เขานึกภาพคนชรานั่งบนสะพานไม้ กำลังจ้องมองโลกของตัวเองที่หมุนผ่านไป
- ตอนของผู้กำกับ โจชัว มาร์สตัน ที่ไบรตัน บีช แสดงนำโดย อีไล วอลแลช ที่รับบท อาเบ และ คลอริส ลีชแมน ที่รับบท มิตซี ทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาก่อนตอนอยู่ในสังกัด แอกเตอร์ส สตูดิโอ ด้วยกันเมื่อราวๆ 50-60 ปีก่อน จากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พบกันอีกเลย จนกระทั่งภาพยนตร์เรื่องนี้
- นาตาลี พอร์ตแมน ที่มีส่วนร่วมทั้งกำกับและแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยร่วมแสดงใน Paris, je t'aime (2006) ภาพยนตร์นำร่องในโครงการ เมืองแห่งความรัก ซึ่งเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้
- เจมส์ คาน ที่รับบทคุณพ่อเภสัชกรในตอนของผู้กำกับ เบรต แรตเนอร์ ที่เซ็นทรัล พาร์ก และ แอนดี การ์เซีย ที่รับบทแฟนหนุ่มในตอนของผู้กำกับ เจียงเหวิน ที่ไชนาทาวน์ เคยร่วมแสดงด้วยกันในภาพยนตร์ชุด Godfather
- นักแสดงหญิง 2 คนจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยแสดงเป็นคนรักของ เฮย์เดน คริสเทนเซน มาก่อน คือ นาตาลี พอร์ตแมน และ ราเชล บิลสัน ซึ่งในเรื่องนี้ ราเชล ก็ยังคงได้รับบทเป็นหญิงสาวที่ เฮย์เดน สนใจอีกครั้ง ในตอนของผู้กำกับ เจียงเหวิน ที่ไชนาทาวน์
- ฉายรอบปฐมทัศน์ที่งานเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต เมื่อเดือนกันยายน 2008 โดยมีตอนเพิ่มเติมมาจากฉบับที่ฉายทั่วไป 2 ตอน ตอนหนึ่งเป็นภาพยนตร์ขาวดำ กำกับโดย สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน และนำแสดงโดย เควิน เบคอน ส่วนอีกตอนกำกับโดยผู้กำกับชาวรัสเซีย อันเดร ซวาก์อินต์เซฟ นำแสดงโดย คาร์ลา กูจิโน, โกรัน วิชนิช และ นิโคลัส เพอร์เซลล์
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Lone Survivorเข้าฉายปี 2014 แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
- The School of Rockเข้าฉายปี 2004 แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
- มหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004 แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»