เกร็ดน่ารู้จาก The Ugly Truth
เกร็ดน่ารู้
- ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยสงครามทางความคิดระหว่างเพศชายและหญิงเรื่องนี้ เขียนบทโดยผู้หญิง 3 คน คือ นิโคล อีสต์แมน, คาเรน แมกคัลลาห์ ลัตซ์ และ เคิร์สเทน สมิธ โดย นิโคล เป็นผู้เขียนบทดั้งเดิม ซึ่งเป็นบทที่บริษัทสร้างภาพยนตร์ เลกชอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ชอบมาก บริษัทจึงจ้างคู่หูมือเขียนบท คาเรน กับ เคิร์สเทน มาพัฒนาบทให้สนุกสนานและมีสีสันมากขึ้น
- นิโคล อีสต์แมน เปิดตัวในฐานะมือเขียนบทหน้าใหม่ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเธอมีแนวคิดแรกเริ่มว่าอยากจะเขียนเรื่องของคนที่คิดว่าเข้ากันไม่ได้ เกลียดกัน ปะทะคารมกัน จากนั้นก็ต้องตกใจเมื่อรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าหากัน และหลงรักกันในที่สุด
- ผู้เขียนบท นิโคล อีสต์แมน สร้างตัวละคร แอบบี ริชเตอร์ ที่รับบทโดย แคเธอรีน ไฮเกิล ขึ้นมาจากคนรู้จักของเธอ ที่ทำงานเก่งมากแต่ไม่ได้ความเรื่องการออกนัดกับหนุ่มๆ ส่วน ไมก์ แชดเวย์ ที่รับบทโดย เจอราร์ด บัตเลอร์ เป็นตัวละครที่ นิโคล สร้างขึ้น โดยเธอตั้งใจให้เป็นผู้ชายที่หยาบคายและน่ารังเกียจที่สุด
- คาเรน แมกคัลลาห์ ลัตซ์ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ขณะที่ เคิร์สเทน สมิธ เป็นสาวโสด จึงมีมุมมองต่อผู้ชายแตกต่างกัน เมื่อพวกเธอมาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกัน ทั้งคู่ผสมผสานความคิดจนเห็นพ้องกันว่าอยากให้ ไมก์ แชดเวย์ ที่รับบทโดย เจอราร์ด บัตเลอร์ เป็นผู้ชายเข้มแข็ง หยาบกระด้าง และตลก แม้เขาจะทำให้ผู้หญิงไม่พอใจ แต่ผู้หญิงก็ยังอยากอยู่ใกล้ เพราะเขามีแง่มุมอื่นที่ซ่อนอยู่
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้กำกับ โรเบิร์ต ลูเคติก ได้กลับมาร่วมงานกับ คาเรน แมกคัลลาห์ ลัตซ์ และ เคิร์สเทน สมิธ ผู้เขียนบทจาก Legally Blonde (2001) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ โรเบิร์ต กำกับ
- ขณะที่ โรเบิร์ต ลูเคติก กำลังตัดสินใจว่าจะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่ เขาได้ยินว่าผู้อำนวยการสร้างกำลังทาบทาม แคเธอรีน ไฮเกิล มารับบท แอบบี ริชเตอร์ เขาจึงออกปากว่าหาก แคเธอรีน รับแสดง เขาก็จะรับกำกับด้วย
- ผู้สร้างต้องการให้ผู้ที่มารับบท แอบบี ริชเตอร์ เป็นนางเอกที่มีความบ๊องแบบนักแสดงตลกรุ่นเก่าอย่าง คาโรล ลอมบาร์ด หรือ ลูซิลล์ บอลล์ ซึ่งสามารถพูดมุกตลกไปพร้อมๆ กับมีเสน่ห์เย้ายวน ผู้แสดงคิดรายชื่อนักแสดงหญิงที่มีคุณสมบัติดังกล่าวเอาไว้ไม่มากนัก และค่อยๆ คัดเลือกจนเหลือชื่อเดียว นั่นคือ แคเธอรีน ไฮเกิล
- เจอราร์ด บัตเลอร์ เล่าว่า ไมก์ แชดเวย์ ตัวละครของเขา มีบทพูดมากกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เขาเคยแสดงถึงประมาณ 10 เท่า เจอราร์ด แสดงบทนี้โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงชายรุ่นเก่าอย่าง สเปนเซอร์ เทรซี และ แครี แกรนต์ ซึ่งมักเข้าฉากพร้อมคำพูดที่หลั่งไหลพรั่งพรูออกมามากมาย
- เชอริล ไฮนส์ ที่เป็นที่รู้จักจากบทภรรยาของ แลร์รี เดวิด ในละครเรื่อง Curb Your Enthusiasm บังเอิญได้รับบทเป็นภรรยาของตัวละครชื่อ แลร์รี อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเธอรับบทเป็น จอร์เจีย ที่เป็นพิธีกรรายการข่าวเช้าคู่กับสามีของเธอ แลร์รี ที่รับบทโดย จอห์น ไมเคิล ฮิกกินส์
- จอห์น ไมเคิล ฮิกกินส์ และ เชอริล ไฮนส์ ที่รับบทคู่สามีภรรยาที่เป็นพิธีกรรายการข่าวเช้า แลร์รี และ จอร์เจีย ต่างก็ถนัดการแสดงแบบด้นสดทั้งคู่
- ผู้กำกับภาพ รัสเซลล์ คาร์เพนเตอร์ เคยร่วมงานกับผู้กำกับ โรเบิร์ต ลูเคติก มาแล้วใน Monster-In-Law (2005) และ 21 (2008)
- ผู้ออกแบบงานสร้าง มิสซี สจวร์ต ตกแต่งฉากรายการข่าวเช้าวันใหม่ที่แสนสดใส ภายในโรงถ่ายเคซีอีทีของสถานีโทรทัศน์สาธารณะของลอสแอนเจลิส ประเทศอเมริกา และสร้างสำนักงานฝ่ายบริหารของสถานีโทรทัศน์ขึ้นในสถานีตำรวจเกลนเดลที่ไม่ใช้งานแล้ว
- ฉากที่ แอบบี ริชเตอร์ ที่รับบทโดย แคเธอรีน ไฮเกิล เกิดอารมณ์เร่าร้อนขึ้นมาระหว่างรับประทานอาหารเย็นเพื่อเจรจาธุรกิจ นับเป็นฉากหนึ่งที่ถ่ายทำยาก ผู้กำกับ โรเบิร์ต ลูเคติก อธิบายว่า ฉากรับประทานอาหารเป็นฉากที่ถ่ายยากอยู่แล้ว เพราะมีมุมกล้องที่หลากหลาย และบทของ แคเธอรีน ก็ยิ่งทำให้ถ่ายทำยากขึ้น ส่วน แคเธอรีน เล่าว่าการถ่ายทำฉากนี้ทำให้เธอเหนื่อยมาก เพราะต้องถ่ายซ้ำถึง 37 ครั้ง
- ฉากที่ แอบบี ริชเตอร์ ที่รับบทโดย แคเธอรีน ไฮเกิล ไปเที่ยวครั้งแรกกับ โคลิน ที่รับบทโดย เอริก วินเทอร์ ที่สนามเบสบอลนั้นถ่ายทำยากมาก เพราะไม่มีการแข่งขันเบสบอลจริงๆ ในเมืองที่ผู้สร้างสามารถถ่ายทำได้ พวกเขาจึงใช้สนามท้องถิ่นในลอง บีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา และรวบรวมทีมนักกีฬาขึ้นมาเอง จากนั้นผู้กำกับ โรเบิร์ต ลูเคติก ต้องกำกับพร้อมๆ กันหลายส่วน ทั้งการแข่งขัน กลุ่มคนจำนวนมาก และการแสดงของนักแสดง
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Lone Survivorเข้าฉายปี 2014 แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
- The School of Rockเข้าฉายปี 2004 แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
- มหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004 แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»