เกร็ดน่ารู้จาก ฝันโคตรโคตร
เกร็ดน่ารู้
- เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง ที่อยู่ในโครงการ ความรัก-ความศรัทธา-ความฝัน-ความเชื่อ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีประเด็นหลักอยู่ที่ ความฝัน ก่อนหน้านี้ พิง ได้สร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับ ความรัก และ ความศรัทธา มาแล้วในเรื่อง โคตรรักเอ็งเลย (2006) และ คนหิ้วหัว (2007) ตามลำดับ
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง ยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่ภาค 2 ของ โคตรรักเอ็งเลย (2006) อย่างที่หลายคนคิด แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับ โคตรรักเอ็งเลย อยู่บ้าง เพราะเขียนจากประสบการณ์ชีวิตรักของ พิง เองเช่นกัน และพูดถึงมุมมองความรักที่แตกต่างกันของคน 2 คนเช่นกัน นอกจากนี้ ยังอาจมองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใน โคตรรักเอ็งเลย ได้อีกด้วย
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง รับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากมุมมองเรื่องความรักของเขาเอง อีกทั้งยังถ่ายทอดปมด้อยของตัวเองผ่านทางตัวละครด้วย พิง ใช้เวลาเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เพียง 5 วัน แต่มีแรงบันดาลใจเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา 40 ปีของเขา
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง อยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมกล้าที่จะไล่ตามความฝัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ เหมือนครั้งหนึ่งที่ พิง ชมภาพยนตร์เรื่อง ฉลุย (1988) ที่กำกับโดย อังเคิล - อดิเรก วัฏลีลา แล้วได้รับแรงบันดาลใจในแบบเดียวกัน
- เหตุผลที่ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง แสดงนำเป็น ด่าง ด้วยตัวเอง เป็นเพราะเขาตั้งใจเขียนบทให้ตัวเองแสดงเป็นตัวละครที่เหมือนเขาเองตั้งแต่แรกแล้ว แม้จะมีคนรอบข้างทัดทาน รวมถึงผู้อำนวยการสร้าง เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ที่เสนอให้ใช้คนอื่นแสดงก่อน แล้วค่อยให้ พิง รับบทพระเอกในภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขา แต่ พิง ก็ยังยืนกรานว่าคนที่เหมาะสมกับบทนี้มีเพียงเขาเองเท่านั้น
- มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ผู้ชนะการประกวด สปาย เกิร์ล หรือตัวแทนโฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อ สปาย ประจำปี 2008 ได้มาประเดิมแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก โดยรับบทเป็น เปิ้ล นางเอกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ความฝันที่อยากเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็กของเธอกลายเป็นความจริง
- เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า เวลาตาย แต่งโดย บั๋ง - สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา เพื่อนสนิทของผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง ซึ่ง พิง ชอบเพลงนี้มากจนออกปากว่านี่ไม่ใช่เพลงประกอบภาพยนตร์ แต่เขาสร้างภาพยนตร์เพื่อนำมาประกอบเพลง
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง ร้องเพลง เวลาตาย เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยขณะที่บันทึกเสียง เขารู้สึกเศร้าไปกับเพลงมากจนร้องไห้
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง รู้สึกประทับใจบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีชื่อว่า ชะตาชีวิต มาก จึงเลือกเพลงนี้มาขับกล่อมตลอดเรื่องราวของภาพยนตร์ พร้อมทั้งไปหัดเรียนเปียโนอยู่หลายเดือนเพื่อแสดงฉากที่ ด่าง ตัวละครของเขาต้องเล่นเปียโนเพลงนี้
- บทภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่องหนึ่งที่ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง เคยเขียนเอาไว้เมื่อ 20 ปีก่อน ผสมผสานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายในชีวิตของเขา ทำให้รายละเอียดและเนื้อหาของภาพยนตร์แตกต่างจากต้นฉบับเดิมมาก ยังคงเหมือนกันแค่เค้าโครงเรื่องเท่านั้น
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง อุทิศบางส่วนของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แก่ภรรยาตามกฎหมายของเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีก่อน นั่นคือคุณ ติ๋ว - ชฎาพร พังสอาด ซึ่ง พิง เปรียบเปรยว่า ติ๋ว เป็นนักแสดงนำอีกคนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยมีตุ๊กตาปลาโลมาเป็นตัวแทนของเธอ
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง ให้นางเอก มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ผู้รับบท เปิ้ล ไปฝึกซ้อมเต้น เพื่อให้เธอพร้อมเข้าฉากที่ต้องเต้นด้วยความสดใสร่าเริง เพื่อให้ผู้ชมเห็นความเพียบพร้อมและเสน่ห์ในตัว เปิ้ล ซึ่งแม้จะฝึกซ้อมเป็นเวลานานมากกว่า 1 สัปดาห์ แต่ภาพปรากฏในภาพยนตร์แค่สั้นๆ เท่านั้น
- มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ เล่าว่าตอนที่เธอไปคัดเลือกตัวสำหรับบท เปิ้ล ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง บอกให้ มิลค์ ใช้มือตบศีรษะ พิง ซึ่งเธอก็ทำตามไปด้วยความงุนงง หลังจากนั้นเธอได้ลองพูดบทภาพยนตร์ โดยเน้นประโยคที่ว่า ความรักที่คือการให้มันมีอยู่จริงๆ มิลค์ พูดประโยคนี้โดยร้องไห้ไปด้วย เนื่องจากเธอเป็นคนศรัทธาในความรักอยู่แล้ว จึงทำอารมณ์ร่วมไปกับบทได้ง่ายขึ้น
- ครั้งแรกที่ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง เห็น มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ เขาคิดว่าจะไม่เลือกเธอมารับบท เปิ้ล แต่ทั้งผู้อำนวยการสร้าง ปุ๊กกี้ - สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์ และครูสอนการแสดง เงาะ - รสสุคนธ์ กองเกตุ ต่างก็บอกให้ พิง คิดทบทวนอีกครั้ง จากนั้นเมื่อ พิง ได้เห็นการแสดงของ มิลค์ โดยเฉพาะตอนที่พูดประโยคหนึ่งในบทภาพยนตร์ว่า "ไม่เชื่อใช่ไหมว่าความรักที่มีแต่ให้มันมีอยู่จริง" พิงก็เปลี่ยนใจเลือก มิลค์ มารับบท เปิ้ล ในทันที
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง สร้างบรรยากาศให้ฉากที่ มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ผู้รับบท เปิ้ล ต้องร้องไห้อย่างหนักให้ดูเศร้ามากขึ้นด้วยการให้มีฝนตก แต่ มิลค์ ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะแสดงได้ จึงขอหลบไปฟังเพลงเศร้าๆ คนเดียว เมื่อกลับมาแสดง เธอร้องไห้ออกมาอยู่นาน จน พิง ที่ชมการแสดงอยู่หลังมอนิเตอร์เผลอน้ำตาซึมไปด้วย และหลังจากถ่ายทำเสร็จ มิลค์ ก็ตาบวมช้ำอยู่พักหนึ่ง
- ผู้กำกับและผู้เขียนบท พิง ลำพระเพลิง เขียนบทให้ตัวละคร ด่าง ที่เขารับหน้าที่แสดงเองด้วย เป็นนักแสดงริมถนนที่ต้องแสดงความสามารถมากมาย ไม่ว่าจะเป็นละครใบ้ มายากล รวมทั้งลอดห่วงไฟ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ พิง สามารถทำได้เองอยู่แล้ว
- ผู้กำกับ พิง ลำพระเพลิง เชื่อว่าเพลงสามารถกล่อมอารมณ์คนได้เป็นอย่างดี เขาจึงนำเพลง เวลาตาย ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้มาเปิดในกองถ่ายบ่อยๆ รวมทั้งมีเครื่องเล่นไอพ็อดอยู่ข้างๆ กล้องตลอดเวลา เพื่อให้ มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ ผู้รับบท เปิ้ล สามารถมาฟังเพลงสร้างอารมณ์ก่อนแสดงได้
- ขณะซ้อมการแสดงฉากเศร้าๆ ที่ เปิ้ล ที่รับบทโดย มิลค์ - ภาวิณี วิริยะชัยกิจ และ ด่าง ที่รับบทโดย พิง ลำพระเพลิง ได้มาพบกันหลังจากไม่ได้พบกันนาน ทั้ง มิลค์ และ พิง ต่างก็แสดงได้ไม่ดีนัก มิลค์ จึงขอตัวไปฟังเพลง ห่างไกลเหลือเกิน จากเสียงร้องของ ป๊อด - ธนชัย อุชชิน เพื่อสร้างอารมณ์ รวมทั้งนำมาเปิดให้ฟังกันทั้งกองถ่าย ทำให้การแสดงฉากนั้นผ่านไปด้วยดีในที่สุด
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Let Me Inเข้าฉายปี 2010 แสดง Kodi Smit-McPhee, Chloe Moretz, Richard Jenkins
- Vampire Hunter Dเข้าฉายปี 2004 แสดง Hideyuki Tanaka, Ichiro Nagai, Koichi Yamadera
- Unstoppableเข้าฉายปี 2010 แสดง Denzel Washington, Chris Pine, Rosario Dawson
เกร็ดภาพยนตร์
- The Imitation Game - เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ผู้รับบท อลัน ทัวริง ยอมรับว่าเขาไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ตอนที่ถ่ายทำฉากท้ายๆ เรื่อง เพราะเขาชอบตัวละครตัวนี้มาก หลังจากทำความเข้าใจจิตใจของ อลัน ว่าเขาต้องทรมานแค่ไหน อ่านต่อ»
- เศียรสยอง - เดิมที ภาม รังสี คือผู้ที่รั้งตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์ แต่หลังจากมีข่าวฉาว ได้ระบุ บอย - สิทธิชัย ผาบชมภู ในฐานะผู้ควบคุมงานสร้างและนักแสดงของเรื่องนี้ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ อ่านต่อ»