เกร็ดน่ารู้จาก จีจ้า ดื้อสวยดุ
เกร็ดน่ารู้
- เพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อ ยังไหว ขับร้องโดย 3 หนุ่มฮิปฮอป บุดดาเบลส แต่งเนื้อร้องโดย บุดดาเบลส แต่งทำนองโดย อุ๋ย แต่งดนตรีและเรียบเรียงโดย สไปด้ามังกี้
- ผู้กำกับ ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ริเริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้จากแนวคิดที่ต้องการนำภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้กับภาพยนตร์รักมาผสมผสานกัน เพราะเขาคิดว่ายังไม่มีภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้เรื่องไหนที่ใช้ความรักระหว่างหนุ่มสาวเป็นตัวผลักดันเรื่องราว
- ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล และ สมภพ เวชชพิพัฒน์ ร่วมกันเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ประมาณ 1 ปีกว่าๆ
- ก่อนที่จะเปิดกล้อง จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ ผู้รับบท ดื้อ ต้องฝึกเรียนการแสดงเพิ่มเติมกับครูเงาะ - รสสุคนธ์ กองเกตุ เป็นเวลาถึง 4 เดือน รวมแล้วประมาณ 10 ครั้ง ครั้งละ 2-3 ชั่วโมง
- คาซู แพทริก แทง ที่รับบท สนิม เป็นหนุ่มฝรั่งเศสผู้ชนะรางวัลศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่า ทริกซ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างยิมนาสติก เทควันโด คาโปเอลา ฟรีรันนิง บีบอย ฯลฯ
- คาซู แพทริก แทง ที่รับบท สนิม ใช้เวลากว่า 4 ปีในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ และการแสดงภาพยนตร์ต่อสู้ร่วมกับนักแสดงผาดโผนที่มีความสามารถด้านมวยไทย
- หลังจากที่ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ แสดงบทต่อสู้ปะทะกับผู้ร้ายแบบ 1 ต่อ 1 ไปในภาพยนตร์เรื่อง ช็อคโกแลต (2008) เมื่อมารับบท ดื้อ ในเรื่องนี้ จีจ้า ได้ปรับมาต่อสู้แบบเป็นคู่ร่วมกับ คาซู แพทริก แทง ที่รับบท สนิม นอกจากนี้ยังมีฉากการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 2 และ 3 ต่อ 3 อีกด้วย
- ตัวจริงของ รุ้งตะวัน จินดาซิงห์ ที่รับบท ลอนดอน เป็นผู้ชนะเพาะกายหญิงระดับเอเชียที่มีความสามารถทางด้านยูโด
- ผู้สร้างได้นักเต้นบีบอยฝีมือดี 3 คนมารับบทสมทบที่สำคัญ ได้แก่ หนุ่ย แสนแดง ผู้รับบท ขี้หมู เป็นผู้ชนะอันดับ 3 ในการแข่งบีบอยระดับประเทศ แบตเทิล ออฟ เดอะ เยียร์ 5 ปีซ้อน เฮส - สมพงษ์ เลิศวิมลเกษม ผู้รับบท ขี้หมา เป็นผู้ชนะบีบอยภาคเหนือ 3 สมัย และได้ที่ 5 ในระดับประเทศ 4 สมัย คนสุดท้ายคือ โอมาน - บุญประเสริฐ ศาลางาม ผู้รับบท ขี้ควาย เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการบีบอยมานับ10 ปี
- หนุ่ย แสนแดง ผู้รับบท ขี้หมู, เฮส - สมพงษ์ เลิศวิมลเกษม ผู้รับบท ขี้หมา, โอมาน - บุญประเสริฐ ศาลางาม ผู้รับบท ขี้ควาย และ คาซู แพทริก แทง ที่รับบท สนิม พระเอกของเรื่อง ไม่เคยทำงานแสดงมาก่อนเลย นอกเหนือจากแสดงความสามารถพิเศษของพวกเขาตามที่ต่างๆ พวกเขาจึงต้องมาฝึกแสดงอารมณ์และฝึกตีความตัวละครกับ ครูเงาะ - รสสุคนธ์ กองเกตุ
- จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ ผู้รับบท ดื้อ และ คาซู แพทริก แทง ผู้รับบท สนิม ต้องถูกส่งตัวไปเรียนเต้นบีบอยก่อนการถ่ายทำประมาณ 1-2 เดือน โดยพวกเขาจะต้องศึกษาจากวิดีโอจนเข้าใจลีลาครัมปิงและป็อปปิน รวมทั้งสามารถแยกแยะบีบอยและเบรกแดนซ์ออกจากกันได้
- ฉากต่อสู้แบบบีบอยที่หาดทรายและในน้ำทะเล ซึ่งถ่ายทำในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นมีอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่อากาศร้อนจัดจนน้ำทะเลมีอุณหภูมิกว่า 40 องศาเซลเซียส การถ่ายทำแบบสลับระหว่างในน้ำกับบนบกที่ทำให้ตัวนักแสดงหนาวสั่น คลื่นแรงที่ทำให้พื้นทรายอ่อนยวบจนทรงตัวลำบาก เปลือกหอยแหลมๆ ที่ตำเท้า และทรายกับน้ำทะเลที่สาดเข้าตาของนักแสดง
- ฉากลีลาการต่อสู้แบบเต้นไปสู้ไปของ จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ ผู้รับบท ดื้อ เกิดขึ้นใต้ท้องเรือที่เต็มไปด้วยฝุ่นสนิม ผสมกับฝุ่นที่ทีมงานโรยเพิ่มเข้าไป ทำให้ทุกคนหายใจลำบากมาก โดยเฉพาะ จีจ้า ที่ต้องแสดงบทเด่นจึงไม่สามารถใส่หน้ากากได้ จีจ้า จึงต้องขึ้นไปสูดอากาศข้างบนเป็นพักๆ นอกจากนี้ หน่วยพยาบาลยังได้เตรียมถังออกซิเจนไว้เพื่อความปลอดภัยของทุกคนด้วย
- ใช้เวลาถ่ายทำฉากการต่อสู้ใต้ท้องเรือประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ฉากนั้นปรากฏในภาพยนตร์ประมาณ 2 นาทีเท่านั้น
- ฉากต่อสู้ในสวนสนุกร้างที่มีการใช้เพาเวอร์สกิป หรือขาจิงโจ้ที่ช่วยในการกระโดดให้สูง ถ่ายทำกันในสนามกีฬาแห่งหนึ่ง อุปสรรคของฉากนี้สำหรับเหล่านักแสดงคือพื้นปูนที่ร้อนระอุเพราะอากาศยามเที่ยง อีกทั้งยังเป็นที่ปิดที่ไม่มีลมพัดอีกด้วย
- ฉากต่อสู้บนสะพานเชือกเก่าๆ เป็นอีกฉากหนึ่งที่โดดเด่น สะพานนี้สูงจากพื้นประมาณ 15 เมตร เทียบเท่ากับตึก 2-3 ชั้น เป็นสะพานที่เล็ก แคบ มีร่องที่พื้นสะพานมากมาย และตัวสะพานก็เคลื่อนไหวไปมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้การเคลื่อนไหวต่อสู้บนสะพานเป็นเรื่องยากมาก
- ฉากต่อสู้บางฉากปรากฏบนจอภาพยนตร์เพียงแค่ 2-3 นาที แต่นักแสดงต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานถึงครึ่งปี
- จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ ต้องรับบท ดื้อ ซึ่งเป็นมือกลอง แต่ในชีวิตจริง จีจ้า ไม่เคยตีกลองมาก่อน เธอจึงต้องฝึกตีกลองแบบเป็นท่อนๆ เมื่อถ่ายทำจริงผู้สร้างให้ จีจ้า ตีไปเรื่อยๆ โดยเปิดเพลงคลอไป แล้วให้ จีจ้า หาจังหวะตีให้เข้ากับเพลงให้ได้ พร้อมทั้งโยกหัวและขยับเท้าตามจังหวะที่ควรเป็น
- จีจ้า - ญาณิน วิสมิตะนันทน์ ผู้รับบท ดื้อ เล่าว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาในการถ่ายทำประมาณครึ่งปี รวมทั้งการออกแบบฉากต่อสู้ด้วย
- ระหว่างถ่ายทำฉากที่ทะเลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้กำกับ ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะโดนไรทะเลกัด
- เมื่อรู้ว่าผู้อำนวยการสร้าง องค์บาก (2003) ปรัชญา ปิ่นแก้ว จะมาร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ในปี 2005 คาซู แพทริก แทง ก็ใช้เวลา 3 เดือนฝึกซ้อมร่างกาย และทำประวัติการงานเตรียมเอาไว้ จากนั้นเขาตามหา ปรัชญา ในงานจนได้พบพูดคุย อีกทั้งยอมทิ้งโอกาสที่จะได้ร่วมงานแสดงศิลปะการต่อสู้ทริกซ์ที่จัดโดย เซิร์ก ดู โซเลยล์ ทำให้ในที่สุด คาซู ได้แสดงภาพยนตร์กับ ปรัชญา สมความตั้งใจ โดยรับบทเป็น สนิม พระเอกในเรื่องนี้
- คาซู แพทริก แทง หนุ่มฝรั่งเศสผู้รับบท สนิม เล่าว่าเขาไม่มีปัญหากับอากาศที่ร้อนมาก เพราะเขาชอบอากาศร้อนอยู่แล้ว แต่เขามีปัญหาด้านอาหารการกิน เพราะรับประทานเผ็ดไม่ได้ และมีปัญหาด้านภาษา เพราะไม่สามารถพูดไทยและอังกฤษได้ จึงต้องเริ่มหัดใหม่ตั้งแต่ต้น จนกระทั่งสามารถสื่อสารกับคนไทยได้
advertisement
วันนี้ในอดีต
เปิงมาง กลองผีหนังมนุษย์เข้าฉายปี 2007 แสดง เขตต์ ฐานทัพ, วรนุช วงษ์สวรรค์, สุคนธวา เกิดนิมิต
ขอให้รักจงเจริญเข้าฉายปี 2007 แสดง อนันดา เอเวอริงแฮม, ฉายนันทน์ มโนมัยสันติภาพ, พุทธชาด พงษ์สุชาติ
ความรัก ความสุข ความทรงจำเข้าฉายปี 2012 แสดง เพ็ญพักตร์ ศิริกุล, เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์, ศิรพันธ์ วัฒนจินดา
เกร็ดภาพยนตร์
- The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
- Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Dragon Rider
เมื่อมังกรหนุ่มสีเงิน ไฟร์เดรก (โทมัส โบรดี แซงสเตอร์) ภูตภูเขา ซอร์เรล (เฟลิซิตี โจนส์) และ เด็กกำพร้าผู้อ้างว่าขี่มัง...อ่านต่อ»