วิจารณ์ My Sassy Girl

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 22 พ.ค. 45 17:20

    เหอๆๆ เด๋ซ จา ปาย ดู หลาย ๆ รอบ เลย

  • เมื่อ 22 พ.ค. 45 10:36

    หนุก หนาด นั้น เลยเหรอ

  • เมื่อ 21 พ.ค. 45 22:34

    เคยดู ilmare มาแล้และชอบมากๆทั้งเนื้อเรื่องของหนังและนางเอก ติดใจต้องไปดูให้ได้ อยากให้ดูกันแล้วจะหลงรักนางเองเรื่องนี้

  • เมื่อ 21 พ.ค. 45 16:37

    พวกเราไปดูมาแล้วเหมือนกัน หนุกมาเลย ชอบๆๆๆมากๆๆๆ พระเอกตลกดีน่ารักด้วย ดูกันตั้งหลายรอบเลย อยากดูอีกรอบอ่ะ อย่าลืมไปดูนะ ที่เมือง....มีแผ่นdvd,vcdซื้อแล้วด้วยฮิๆๆพวกเราซื้อกันเรียบร้อย

  • เมื่อ 20 พ.ค. 45 22:48

    อยากดูอ่ะ

  • เมื่อ 17 พ.ค. 45 14:28

    ได้มีโอกาสดูแล้วค่ะ จากที่ siamzone จัดให้ชมรอบ preview เมื่อหลายเดือนก่อน สนุกมากๆๆๆๆๆ ยังเชียร์ให้เพื่อนๆๆของตัวเองไปดูเลยค่ะ สนุกกว่า il mare เยอะเลย ดูแล้ว ชอบพระเอกมากๆๆๆ แสดงได้ดีมาก นางเอกก็ดูสวยกว่าที่แสดงเรื่อง il mare มากค่ะ ก็ต้องขอขอบคุณ web siamzone มากๆค่ะที่จัดให้ชมภาพยนต์ดีๆฟรีแบบนี้
    และอยากให้มีหนังเกาหลีมาฉายในบ้านเราเยอะๆด้วยค่ะ หนังเกาหลี น่ารัก ตลก และสนุกมากค่ะ ที่ผ่านมาก็ติดตามดูหนังเกาหลีทุกเรื่องค่ะ แต่เรื่อง my sassy girl สนุกมากที่สุด ไปดูกันนะค่ะไม่ผิดหวังหรอกค่ะ

  • เมื่อ 16 พ.ค. 45 10:40

    My Sassy Girl เป็นหนังเกาหลีเรื่องที่ 3 ที่มีโอกาสได้ดู ต่อจาก บีชุนมู และ อิล มาเร ซึ่งผมเองสามารถบอกได้เลยว่าใน 3 เรื่องที่ได้ดูมานี้ เรื่อง My Sassy Girl ดีที่สุด สนุกที่สุด และอยากแนะนำให้คนไปดูกันมากที่สุด

    My Sassy Girl เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากการเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งถึงผู้หญิงที่ตนรัก ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้เล่นอินเตอร์เน็ตของเกาหลี โดยเรื่องเล่าถึง ชายหญิงคู่หนึ่งที่มาพบกันโดยบังเอิญบนรถไฟขบวนหนึ่ง เวลาผ่านไป สองคนนี้ยิ่งใกล้กันมากขึ้น มีเหตุการณ์มากมายที่ทำให้ทั้งสองคนประทับใจซึ่งกันและกัน หากแต่ความรักคงไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะว่าฝ่ายหญิงยังติดอยู่กับอดีตคนรัก ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนที่จะมาเจอกับพระเอก

    ในเรื่องนี้จะมีการแทรกเรื่องย่อยๆ ซึ่งเกิดมาจากจินตนาการอันกว้างไกลของนางเอก ซึ่งสร้างความตลกให้กับคนดูได้มาก อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าตัวนางเอกเอง อยากที่จะเดินต่อไปในอนาคตและทิ้งอดีตไปมากแค่ไหน เนื่องจากเรื่องที่นางเอกเขียนขึ้นมานั้นมักจะสมมติตัวเอกให้เดินทางมาจากอนาคต

    เรื่องนี้ได้ Ji-hyun Jun มาแสดงนำ ซึ่งเธอเคยสร้างบทบาทไว้ใน อิล มาเร มาก่อนแล้ว มาเรื่องนี้ เธอได้แสดงครบรสมากขึ้น ได้ทั้งดีใจ เสียใจ บู้ ห้าว และหวาน ซึ่งคนที่เคยดูเรื่อง อิล มาเร แล้วชอบเธอ ในเรื่องนี้จะชอบเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะว่าจะได้เห็นเธอแสดงความสามารถทางการแสดงอย่างครบถ้วน

    พระเอกในเรื่องได้นักแสดงฝีมือดีของเกาหลี ชื่อ Tae-hyun Cha มาแสดง ซึ่งบอกได้เลยว่าบุคลิกเหมาะสมกับภาพยนตร์เป็นอย่างมาก แสดงได้ดีเสียจนรู้สึกเหมือนกับเจ้าของเรื่องมาเล่นเองยังไงยังงั้น หน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมของพระเอกทำให้เราตลกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ขณะเดียวกันความรักย่อมทำให้อยากเป็นคนที่ดีขึ้น เหมาะสมกับเธอมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบทที่จะต้องแสดงให้ดูดีพระเอกคนนี้ก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน

    หลากๆฉาก เช่น โทรศัพท์เสีย เปลี่ยนรองเท้า สวนสนุก นัดบอด ในคุก และในโรงแรม ทำได้ตลกมาก ขณะที่ อีกหลายๆ ฉากเช่น ตะโกนข้ามเขา เล่นเปียโน สถานีรถไฟฟ้า ต้นไม้ของเธอ และ บัญญัติ 10 ประการ ก็ทำได้ประทับใจมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณเคยประทับใจกับภาพยนตร์รักโรแมนติกปนตลก เรื่องใดก็ตาม คุณจะต้องประทับใจ และชอบเรื่อง My Sassy Girl ด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ถ้าได้ไปดูกับคู่รักจะยิ่งดีมาก แต่ไปดูกับเพื่อนๆ ก็ไม่ผิดอะไร (แนะนำให้ไปดู รอบที่เป็นเสียงในฟิล์ม บรรยายไทย เพราะว่าหนังคงจะสนุกน้อยลงไปมาก ถ้าไม่ได้ยินเสียงนางเอก และพระเอก)

  • เมื่อ 12 พ.ค. 45 19:21

    ไปที่หน้าโรงหนังแห่งหนึ่งมาเห็นว่าเข้าฉายวันที่ 24 พฤษภาคม 2545 ยังงัยต้องไปดูให้ได้เลย เพราะชอบนางเอกน่ารักมากกก

  • เมื่อ 10 พ.ค. 45 01:27

    ไปดูมาแล้วเหมือนกัน เป็นหนังที่ตลกมาก ฮาทั้งเรื่องเลย อยากไปดูอีกรอบเหมือนกัน

  • เมื่อ 21 เม.ย. 45 10:56

    เรื่องนี้เหรอ เราเพิ่งเห็นแผ่นโปสเตอร์ มาแปะไว้ที่หน้าโรงหนัง พอดีว่า นางเอกเป็น Jeon Ji-Hyeon เป็นนางเอกคนเดียวกับเรื่อง IL MARE ที่เคยเข้าฉายที่ในบ้านเราไปแล้วครั้งนึง ตั้งแต่ก่อนหนังเรื่องนั้นฉาย ประมาณ หกเดือนเห็นจะได้ เราเผอิญได้เข้าไปเว็ปไซต์เว็ปนึงรู้สึกว่า ประมาณว่าจะเป็น Lycos มั้ง เห็นเค้ากำลังมีเกมส์ให้เล่นแล้วร่วมเข้าชม หนังเรื่อง IL Mare ซึ่งตอนนั้นกำลังจะมีการจัดฉายรอบพิเศษให้ชมก่อน พอเรารู้ มันก็ช้าไปแล้วประมาณเดือนนึง เพราะว่าเว็ปเขาไม่ได้อัพเดท บ่อย ๆเราก็เลย เสียใจ แล้วก็เลยตั้งหน้าตั้งตา รอดูภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในโรง แต่จนแล้วจนรอดหนังเรื่องนี้ก็มีอันต้องเลือนจากที่จะเข้าฉายในอีกเดือนหน้า ก็กลายเป็น อีกสี่เดือนต่อมา เราก็เลยเข้าไปหาข้อมูลของหนังเรื่องนั้นว่าเป็นยังไง ระหว่างที่เรารอหนังเรื่องนี้เข้าฉาย (จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่ามันจะเข้าฉายหรือเปล่า หนังรอโปรแกรมเข้าฉายเมืองไทย ประกาศไว้แล้วมันก็เลื่อนประจำเลย อย่างหนังบางเรื่องเมืองนอก ฉายไปกว่าปีแล้วเพิ่งจะเข้ามา บางเรื่องบริษัทหนังในไทยก็ซื้อมาเก็บไว้แล้วก็ไม่ยอมฉายสักที เราไม่ค่อยชอบเลยที่ทำแบบนี้) เราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ แล้วก็หาว่ามีที่ไหนที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายไปแล้ว แล้วก็ดูว่า มีซีดีขายหรือเปล่า เพราะว่าเท่าที่ได้ไปอ่าน Preview หรือว่า เนื้อหาวิจารณ์ในเว็ปของต่างประเทศแล้ว ดูน่าสนใจมาก ๆ ก็เลยเข้าไปที่เว็ปไซต์เว็ปนึงปรากฏว่า เขาก็มีหนังเรื่องนี้ขายด้วย ทั้งในรูปแบบของซีดี ดีวีดี แล้วก็ วีดีโอ ซึ่งดูราคาแล้วก็ไม่แพงเท่าไหร่ ตกประมาณ 7$ แต่ว่า ค่าส่งเข้ามาที่เมืองไทย รู้สึกว่า จะประมาณ 13$ ซึ่งมันก็ออกจะแพงเอาการอยู่สักหน่อย สำหรับถ้าจะสั่งเข้ามาเรื่องเดียวผมก็เลยคิดว่าจะสั่งหนัง เรื่องอื่น ๆ เข้ามาด้วยเช่นกัน เพราะว่า ถึงแม้จะสั่งน้อยหรือว่าเยอะ ค่าจัดส่ง DHL ก็ราคาเท่าเดิม แต่จนแล้วจนรอดพอจะสั่งวีซีดี เขาก็บอกว่า วีซีดีของหนังเรื่องนี้หมด ผมก็เลยได้แต่ตั้งหน้าตั้งตารอดู ระหว่างนั้นก็ได้เข้าไปโหลด ตัวอย่างหนังที่เว็ปของเกาหลี เอามาดู ซึ่งก็จะเหมือนกันกับ หนังสือ jumpcut ที่ขายราคาเล่มละ 50 บาทที่ข้างในหนังสือไม่ค่อยมีอะไร แต่ว่าขายราคาแพงเหลือเกิน จนถึงวันที่เข้าฉายผมเข้าไปดูเรื่อง IL MARE แล้วประทับใจมากทีเดียว รู้สึกว่าอยากจะซื้อวีซีดีหนังเรื่องนี้เก็บเอาไว้ดู ซึ่งก็พยายามหาเผื่อว่าจะมีขายสักที่ใดที่หนึง ก็ไม่มีให้พบเห็น ตั้งแต่หลังจากหนังฉายเป็นต้นมา (แต่เห็นว่ามีเพื่อนผมคนนึง เมื่อวานนี้เขาไปร้านวีดีโอ แถวๆ บ้านแล้วได้ไปเช่ามาดูแล้ว) จนกระทั่งวันนึง (กลับไปตอนต้นเรื่องนะครับ)เราไปเดินหน้าโรงหนังแล้วก็เจอ โปสเตอร์เรื่องนี้ my sassy girl ซึ่งก็เห็นว่าเป็นนนทนันท์ บริษัทเดิมที่ซื้อหนังเรื่องนี้เข้ามาฉาย (จริง ๆ หนังที่เขาซื้อลิขสิทธ์เข้ามาฉายก็ดีนะ แต่ว่า ไม่รู้ทำไมกว่าจะเข้าฉายก็รอนาน ประกาศล่วงหน้า พอถึงวันกำหนดฉายก็เลื่อนอีก ไม่รู้ว่าจะเลื่อนกันทำไม งั้นไปประกาศตอนก่อนจะฉายเลยไม่ดีเหรอ ผมพูดในฐานะคนชอบดูหนัง) ผมก็เลยเข้ามาหา ๆ ดูข้อมูลว่าหนังเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับอะไร ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็มีนางเอกคนเก่าที่แสดงไว้ในเรื่อง IL MARE ซึ่งก็ดูแล้วน่าประทับใจ ผมมาก ผมก็เลยเข้าไปดูเว็ปที่มี preview หนังเรื่องนี้ ก็เลยประทับใจก็เลยคิดว่า ยังไงเราคงไม่รออีกแล้ว ก็เลยเข้าไปสั่งซื้อวีซีดีเรื่อง My sassy girl กับเรื่อง IL MARE อีกครั้งที่เว็ปเดิม (www.yesasia.com) ซึ่งคราวนี้มีหนังทั้งสองเรื่องให้สั่งซื้อได้ ผมก็เลยสั่งซื้อมาทั้งสองเรื่อง เรื่อง IL MARE จะเป็นเรื่องที่มีภาษาอังกฤษบรรยายด้วย แล้วส่วนอีกเรื่องนึงเรื่อง My sassy girl จะไม่มีภาษาอังกฤษบรรยาย เมื่อผมดูผมก็เลย ไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่ แต่เมื่อดูจากภาพรวม ๆ แล้วก็เนื้อหาบางส่วนที่ได้อ่านจาก preview ในที่ต่าง ๆ แล้วก็รู้สึกว่าเข้าใจถึงเนื้อหา ถึงแม้ว่าบางตอนจะมีบทพูดของตัวแสดงนำชาย กับตัวแสดงนำหญิง ซึ่งพูดเกาหลี กัน แล้วก็อย่างบางตัวละครที่โผล่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นทหารที่หนีออกมา หรือว่า จะเป็นบุคคลอีกสองคนที่เจอในร้านอาหาร ทั้งผู้ชายที่นั่งอยู่ในร้านอาหารกับนางเอก แล้วก็ฉากสุดท้าย ที่นางเอกนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนึงแล้วสักพัก พระเอกก็เดินเข้ามา ในตอนท้าย บางตอนเนื้อหาอาจจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร เนื่องจากส่วนนึงคงจากผมไม่สามารถฟังภาษาเกาหลีได้เข้าใจด้วย สองสามวันหลังจากได้ดูวีซีดี เรื่องนี้ผมก็เลยรู้สึกว่า คงต้องหาวิธี ที่เราจะได้เข้าใจเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ให้ชัดเจน ก็เลยหาวิธี โดยการเข้าไปที่ ICQ แล้วหาใครสักคนที่เคยดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว แล้วก็ให้เขาอธิบายเรื่องราวให้ฟังสักหน่อย คุณคิดว่าจะหาคนที่ดูหนังเรื่องนี้จากเมืองไทยได้เหรอ หนังเรื่องนี้ยังไม่เข้าฉายในเมืองไทยเลยนาาา (จริง ๆ แล้วมันก็เข้าฉายไปตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่ว่าผมไม่ทราบ ก็รอบที่คนที่เขียนวิจารณ์ไว้ข้างบนนี้ก่อนหน้าผมได้ไปดูมาน่ะแหล่ะ แต่ใครจะรู้แหม มีฉายรอบพิเศษก็ประกาศกันเงียบ ๆ กว่าจะได้มาเห็นที่เขียนไว้ในเว็ป ก็ฉายไปแล้ว) ผมก็เลยหาคนเกาหลี ที่อยู่ในเมืองไทย แล้วก็หาคนไทยที่อยู่ในเกาหลี แล้วก็หาคนที่อยู่ในสิงคโปร ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว เพราะว่าช่วงนี้หนังเรื่องนี้เข้าฉายอยู่ในสิงคโปร (ว่าจะบินไปดูหนังเรื่องนี้ในสิงคโปรก็กะไรอยู่ ค่าเครื่องบินไปกลับก็แพงอยู่) ก็เลยหาใครที่เล่าให้ฟังสักคน กว่าจะหาได้ ก็เป็นน้องที่เรียนโรงเรียน INTER ในไทย เป็นน้องอายุ 17 ปี เขาก็บอกว่าเขาเคยดูในเกาหลี มาเมื่อนานแล้ว ก็เลยสอบถามว่า เนื้อหาบางช่วงแต่ละตอนเป็นยังไง (ก็ลำบากเหมือนกันเพราะว่า ต้องพิมพ์คำถาม ถามน้องเขาเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนน้องเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเป็นลูกครึ่ง ไทยเกาหลี หรือเปล่า หรือว่า เกาหลีเลยก็ไม่รู้ แต่ก็รู้สึกดีที่น้องเขาช่วยเล่าเรื่องให้ฟังทำให้ เข้าใจรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งก็รู้สึกว่า หนัง มีเนื้อหาที่ทำให้รู้สึกได้อารมณ์ ตามที่ผู้สร้าง หรือว่า ตามความต้องการที่คนเขียนคอลัมน์ที่เป็นชาวเกาหลี ที่เป็นคนที่เป็นต้นเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องนี้ ไว้ได้ดีทีเดียว เท่าที่ผมได้ไปอ่านมาก็เห็นว่าหลังจากหนังเรื่องนี้ฉาย ทางต่างประเทศ (ยุโรปหรืออเมริกา ไม่แน่ใจว่าเป็นฮอลลีวูดหรือเปล่าไม่รู้) เห็นว่าจะขอเอาหนังเรื่องนี้ไปทำบ้างคงเป็นการของซื้อลิขสิทธิ์ไปทำบ้าง ยังไงซะผมก็อยากให้หนังเรื่องนี้เข้าฉายในเมืองไทยเร็ว ๆ ผมกะว่าอยากจะไปดูอีกสักครั้งนึง เพราะว่าคงมีรายละเอียดอีกมาก ในหนังเรื่องนี้ ที่ทำให้ประทับใจมากยิ่ง ๆ ขึ้น หนังเท่าที่ดูก็น่ารักดี ทั้งตัวแสดง ฉาก หรือว่า อารมณ์ความรู้สึกของหนัง ถ้าคุณเป็นผม คุณจะไม่ไปดูหนังเรื่องนี้อีกสักครั้งเหรอ

    ใครที่ชอบดูหนัง แล้วก็มีความคิดเห็นอะไรที่เสนอแนะ
    ก็ส่งเมล์เข้ามาพูดคุยกันได้นะครับ

    spongpat@ksc.th.com
    ตั้ม

มีทั้งหมด 179 วิจารณ์ หน้าที่ 17 [ก่อนหน้า] 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • เขาชนไก่เขาชนไก่เข้าฉายปี 2006 แสดง วศิษฎ์ ผ่องโสภา, ทวีรัตน์ จุลศิริ, อภิพล ตรีเทวะวงษา
  • เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเข้าฉายปี 2006 แสดง มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, แอนดี้ เขมภิมุก
  • Happy FeetHappy Feetเข้าฉายปี 2006 แสดง Robin Williams, Hugh Jackman, Elijah Wood

เกร็ดภาพยนตร์

  • Blackhat - ชื่อภาพยนตร์อ้างอิงถึงลักษณะของตัวร้าย ซึ่งวายร้ายในแถบตะวันตกมักจะสวมหมวกสีดำ อ่านต่อ»
  • Maps to the Stars - วิกโก มอร์เทนเซน และ ราเชล ไวส์ซ ต่างก็เคยถูกพิจารณาให้รับบท สแตฟฟอร์ด และ ฮาวานา ก่อนที่จะถอนตัวออกไปทั้งคู่เนื่องจากปัญหาตารางงาน สุดท้าย จอห์น คูแซก และ จูเลียนน์ มัวร์ จึงเข้ามารับบท สแตฟฟอร์ด และ ฮาวานา ตามลำดับ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Wet Season Wet Season เรื่องราวของ หลิง (เยียวหยานหยาน) เป็นครูโรงเรียนมัธยมปลายที่ชีวิตสมรสกับ แอนดรูว์ (คริสโตเฟอร์ ลี) และการงานไปด้วยกันไ...อ่านต่อ»