เกร็ดน่ารู้จาก Largo Winch

เกร็ดน่ารู้
  • สร้างจากหนังสือการ์ตูนภาษาฝรั่งเศสจากประเทศเบลเยียม เขียนโดย ชอง แวน อามม์ และ ฟิลิปป์ ฟรองก์ ซึ่งได้รับความนิยมจนได้รับการแปลหลายภาษา ได้แก่ อังกฤษ ฮอลแลนด์ เยอรมัน โปรตุเกส และอื่นๆ ทั้งยังได้รับการดัดแปลงเป็นวิดีโอเกมและละครโทรทัศน์ด้วย
  • ได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์ที่ฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์ฝรั่งเศสกรุงเทพฯ ครั้งที่ 6
  • ผู้อำนวยการสร้าง นาธาลี กัสตัลโด ริเริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะอยากร่วมงานกับผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ มาตั้งแต่ตอนที่ เจอโรม เตรียมกำกับเรื่อง Anthony Zimmer (2005)
  • ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตภาพยนตร์อิสระ เซอร์จ ซิลแบร์มาน เป็นผู้ถือลิขสิทธ์ในการดัดแปลงหนังสือการ์ตูน Largo Winch มานานกว่า 20 ปีแล้ว เขาตั้งใจจะนำการ์ตูนเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์แข่งกับภาพยนตร์ชุด James Bond แต่ เซอร์จ เสียชีวิตไปเสียก่อน
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ สนใจหนังสือการ์ตูน Largo Winch มาตั้งแต่ 6 ปีก่อนที่จะได้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในตอนแรกเขาคิดจะนำเรื่องราวมาดัดแปลงเป็นนวนิยาย เนื่องจากในตอนนั้นเขายังไม่มีประสบการณ์ในการกำกับภาพยนตร์ รวมทั้งตระหนักว่าภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะใช้ต้นทุนสูงอยู่ไม่น้อย
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ ได้ลิขสิทธิ์การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มาหลังจากถ่ายทำ Anthony Zimmer (2005) เสร็จ
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ คัดเลือกนักแสดงที่จะมารับบท ลาร์โก โดยพิจารณานักแสดงชาวแคนาดา อเมริกัน และโมรอกโค อายุระหว่าง 20-35 ปี ที่สามารถพูดภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ และเซอร์เบีย-โครเอเชียได้อย่างคล่องแคล่ว และมีความสามารถด้านกีฬา ในที่สุดผู้ที่ได้รับบทนี้ไป คือ โตเมร์ ซิสเลย์ เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอก ความสามารถในการพูด 4 ภาษา การเป็นนักกีฬากระโดดร่ม และความสามารถในการขับรถยนต์ เรือ และเฮลิคอปเตอร์
  • ผู้เขียนบท ชอง แวน อามม์ มีความเห็นว่า โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก มีบุคลิกแตกต่างจาก ลาร์โก ในหนังสือการ์ตูนต้นฉบับที่วาดโดย ฟิลิปป์ ฟรองก์ แต่คล้ายกับ ลาร์โก ฉบับนวนิยาย
  • มิกิ มาโนจโลวิก เข้ามาพบผู้สร้างในสำนักงานด้วยทรงผมกระเซิงดูโดดเด่น ผู้สร้างตัดสินใจใช้เวลาครึ่งชั่วโมงลองแปลงโฉม มิกิ โดยตัดผมและให้เขาสวมเสื้อผ้าของตัวละคร เนริโอ หลังจากนั้นทุกคนรู้สึกประทับใจมาก เพราะ มิกิ ดูเหมือน เนริโอ ทั้งบุคลิก น้ำเสียง และรูปกาย
  • กิลแบรต์ เมลกิ รับบทเป็น เฟรดดี ซึ่งมีแผลเป็นใหญ่บนใบหน้า ทำให้ กิลแบรต์ ต้องตื่นแต่เช้ามืดบ่อยครั้ง เพื่อใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการแต่งหน้า
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ แบ่งบรรยากาศของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งมีลักษณะเป็นเรื่องเล่า และเป็นมุมมองโลกของเด็ก เรื่องราวในส่วนนี้จะดำเนินไปอย่างช้าๆ อีกส่วนหนึ่งเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ ซึ่งมีความร่วมสมัย และเป็นโลกของผู้ใหญ่ เรื่องราวส่วนนี้จะดำเนินไปอย่างรวดเร็วขึ้น
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ เล่าว่าการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากการกำกับ Anthony Zimmer (2005) ที่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา เนื่องจากในเรื่อง Anthony Zimmer เขาใช้กล้องเพียงตัวเดียว และจินตนาการฉากที่จะถ่ายทำในแต่ละวันไว้คนเดียวได้อย่างละเอียด ส่วน Largo Winch เรื่องนี้ เขาใช้กล้อง 2 ตัว และมีการปรับเปลี่ยนแผนการถ่ายทำอย่างยืดหยุ่น รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของนักแสดงมากขึ้นกว่าเดิม
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ มีโอกาสได้แวะที่ฮ่องกงขณะนั่งเครื่องบินกลับจากเวียดนาม เขาคิดว่าเมืองฮ่องกงถ่ายทอดความเป็นศตวรรษที่ 21 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดูน่าหลงใหล ตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ดูไม่น่าไว้วางใจเช่นกัน เขาจึงตัดสินใจให้เรื่องราวในภาพยนตร์เริ่มต้นขึ้นในฮ่องกง
  • ใช้เวลาถ่ายทำนาน 86 วัน จากวันที่ 20 สิงหาคม 2007 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2008 ที่ประเทศมอลตา เกาะซิซิลีของประเทศอิตาลี เกาะฮ่องกง และ มาเก๊า ของประเทศจีน และในโรงถ่ายในประเทศฝรั่งเศส
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ เชื่อว่าบรรยากาศในการถ่ายทำวันแรกจะเป็นตัวกำหนดจังหวะการทำงานในวันต่อๆ มา เขาจึงเริ่มงานหนักตั้งแต่วันแรก โดยถ่ายทำ 2 ฉากในสถานที่ 2 แห่ง หนึ่งในนั้นคือฉากที่ถ่ายทำที่ประเทศมอลตา ซึ่งมีเด็กๆ ร่วมเข้าฉากถึงกว่า 40 คน
  • ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ ใช้สตอรีบอร์ดช่วยให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
  • ผู้สร้างแบ่งกองถ่ายเป็น 2 กอง และทำงานพร้อมๆ กันทั้ง 2 กองเกือบตลอดเวลา เพื่อเร่งให้ผลงานเสร็จเร็ว
  • ฮ่องกงไม่อนุญาตให้ผู้สร้างถ่ายทำในตัวเมือง และไม่อนุญาตให้ปิดถนน ปิดห้องโถง หรือปิดสนามบิน ผู้สร้างจึงต้องทำงานอย่างรวดเร็วและหลบๆ ซ่อนๆ โดยไม่ให้ยามและตำรวจรู้ รถบรรทุกอุปกรณ์ต่างๆ จะขับไปมาตามมุมถนน เมื่อกองถ่ายต้องการใช้ของ จะติดต่อผ่านวิทยุสื่อสารให้รถจอด เมื่อเอาของเสร็จ รถก็จะขับออกไปทันที
  • ผู้สร้างแอบถ่ายทำฉากหนึ่งในสนามบินฮ่องกง โดยซ่อนกล้องเล็กๆ ไว้ในกระเป๋าเดินทางล้อลาก โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก แสดงอยู่ท่ามกลางผู้โดยสารจริงๆ เจ้าหน้าที่แผนกเสียงที่อยู่ไกลออกไปอีกเล็กน้อย วางเครื่องบันทึกเสียงไว้บนล้อลากกระเป๋า ส่วนช่างทำผมและช่างแต่งหน้านั่งอยู่ในร้านกาแฟ
  • ฝาแฝดชาวบราซิล 2 คนที่ชื่นชอบภาพยนตร์กังฟูมาก ลงทุนขายรถยนต์เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน 2 ใบ เดินทางมาร่วมแสดงเป็นตัวละครประกอบฉากที่ฮ่องกง พวกเขาเจียดเงินเดือนที่ได้รับไปใช้ชีวิตในช่วงการถ่ายทำ และเก็บอีกส่วนไว้ซื้อรถคันใหม่เพื่อขับกลับบ้าน
  • ก่อนหน้านี้ โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก ไม่เคยอ่านทั้งหนังสือการ์ตูนและนวนิยายที่เป็นต้นแบบของภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อน เขาเพิ่งซื้อและอ่านการ์ตูน 3 ตอนแรกก่อนหน้าที่จะไปพบผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ เป็นครั้งแรก
  • โตเมร์ ซิสเลย์ เข้ารับการทดสอบบท ลาร์โก โดยลองแสดงบทในวันแรก และลองสวมเสื้อผ้าของตัวละครในวันต่อมา หลังจากนั้นไม่นาน ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ ก็เรียก โตเมร์ เข้าไปพบ และบอกว่าเขาได้รับบทนี้ ด้วยการถามว่าติดธุระอะไรในช่วงฤดูร้อนหรือไม่ เพราะภาพยนตร์จะถ่ายทำกันในช่วงนั้น
  • ก่อนเปิดกล้อง 5 เดือน โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก เตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมโดยฝึกซ้อมร่างกายเกือบทุกวัน และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ นอกจากนี้ยังต้องงดดื่มช็อกโกแลตใส่นมซึ่งเป็นของโปรดของเขาด้วย
  • เนื่องจากตัวละคร ลาร์โก มีบุคลิกง่ายๆ สบายๆ โตเมร์ ซิสเลย์ จึงต้องแต่งตัวแบบเรียบง่าย ซึ่งตรงกันข้ามกับชีวิตจริงของเขา
  • โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก เสนอแนะให้ผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ เพิ่มฉากที่แสดงอารมณ์ดึงดูดระหว่าง ลาร์โก กับ เลอา ที่รับบทโดย เมลานี เธียร์รี หลังจากนั้น เจอโรม และผู้เขียนบท จูเลียง รัปเปอนู ก็ตัดสินใจเพิ่มฉากหนึ่งที่น่าสนใจเข้าไป
  • ฉากแรกของภาพยนตร์ที่ โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก แสดง คือฉากในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ ลาร์โก บุกเข้าไป เป็นฉากที่ไม่มีบทพูดมากนัก แต่บทพูดนั้นเป็นภาษาเซอร์เบีย โตเมร์ จึงต้องใช้พจนานุกรมด้วย ความท้าทายนี้และความประทับใจที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้กำกับ เจอโรม ซาลล์ ทำให้ โตเมร์ ยังจำบทพูดนั้นไปได้อีกนาน
  • โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก รู้สึกกังวลเรื่องการแสดงฉากตลกและฉากชีวิตเครียดๆ มากกว่าฉากต่อสู้ เนื่องจากเขารู้สึกว่าการแสดงอารมณ์เป็นงานที่เขาต้องทำเพียงลำพัง ขณะที่ฉากต่อสู้มีผู้ร่วมงานมากมายคอยช่วยเหลือ จนเขารู้สึกมั่นใจว่าสามารถทำได้ แม้จะเป็นฉากเสี่ยงๆ อย่างการห้อยตัวบนหลังคารถที่วิ่งด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และฉากกระโดดจากหน้าผาสูง
  • โตเมร์ ซิสเลย์ ผู้รับบท ลาร์โก รู้สึกประทับใจในตัวเพื่อนนักแสดง คริสติน สก็อตต์ โธมัส ที่รับบท แอน เนื่องจากมีฉากหนึ่งที่เธอไม่ได้ร่วมแสดงโดยตรง แต่เธอก็ยอมยืนชมการแสดงของ โตเมร์ อยู่ด้านนอกพื้นที่การถ่ายทำเป็นเวลายาวนาน ทั้งที่นักแสดงหลายคนแยกไปพักในห้องของตัวเองแล้ว
  • แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกที่ โตเมร์ ซิสเลย์ ได้รับบทนำ อีกทั้งยังต้องทำงานหนักมากโดยตื่นนอนเวลา 4.00 น. หลังจากได้นอนเพียง 3 ชั่วโมง แต่ โตเมร์ กล่าวว่าเขาไม่รู้สึกถึงภาระหนักหนาใดๆ ในการรับบท ลาร์โก เพราะเขามีความสุขกับการทำงานครั้งนี้มาก
  • คริสติน สก็อตต์ โธมัส เห็นว่าผลงานของผู้ออกแบบเสื้อผ้า ราดิจา เซกเก และช่างทำผม ปาทริก ชิโรลต์ ซึ่งพยายามรักษาลักษณะดั้งเดิมของตัวละครจากหนังสือการ์ตูนไว้ ช่วยให้เธอเข้าถึงบทบาท แอน มากขึ้น
  • การรับบทเป็น แอน ในเรื่องนี้ ทำให้ คริสติน สก็อตต์ โธมัส ได้มีโอกาสกลับไปเยือนฮ่องกง ที่ซึ่งเธอเคยไปเมื่อตอนเป็นเด็ก เธอเล่าว่าเมืองนี้เปลี่ยนแปลงไปมากจนแทบจำไม่ได้ แต่ยังมีรายละเอียดเล็กๆ หลายอย่างที่ยังเหมือนเดิม ได้แก่ ถนนแคบๆ สะพานกว้างๆ รถโดยสารประจำเมืองที่วิ่งผ่านทางลาดด้วยความเร็ว หมู่เรือที่จอดเทียบท่า และตึกระฟ้ามากมาย
  • ผลงานของแผนกงานสร้างที่ คริสติน สก็อตต์ โธมัส ผู้รับบท แอน ประทับใจมากที่สุด คือฉากชั้น 38 ของโรงแรมซึ่งมีองค์ประกอบมากมาย ได้แก่ ห้องพักหรูหรา เก้าอี้นอนชายหาดที่อ่าว เรือหลายลำ และตึกหลายตึกที่ส่องแสงระยิบระยับ
  • เนื้อหาในภาพยนตร์ส่วนใหญ่อ้างอิงจากหนังสือการ์ตูน 2 เล่มแรก และมีรายละเอียดจากอีก 2 เล่มถัดไปปะปนอยู่ด้วย
  • โตเมร์ ซิสเลย์ ต้องเรียนภาษาเซอร์เบียเพื่อรับบท ลาร์โก นอกจากนี้เขายังแสดงฉากผาดโผนเองหลายต่อหลายฉาก
  • ในภาพยนตร์ สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัท ดับเบิลยู ตั้งอยู่ในฮ่องกง แต่ในหนังสือการ์ตูน ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
  • เหตุการณ์ในภาพยนตร์ส่วนที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิลนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศตุรกีในฉบับหนังสือการ์ตูน
  • ในภาพยนตร์ เนริโอ ที่รับบทโดย มิกิ มาโนจโลวิก และ ลาร์โก ที่รับบทโดย โตเมร์ ซิสเลย์ อาศัยอยู่ในเรือยอช์ตซึ่งจอดอยู่ที่ชายฝั่งเกาะฮ่องกง แต่ในหนังสือการ์ตูน พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านแบบเพนต์เฮาส์ที่อยู่บนยอดตึกสำนักงานของกลุ่มบริษัท ดับเบิลยู
  • ภาพยนตร์เล่าว่า เนริโอ ที่รับบทโดย มิกิ นาโนจโลวิก เกิดมายากจน แต่สามารถสร้างฐานะจนมั่งคั่งได้ด้วยตัวเอง แต่ในหนังสือการ์ตูนเล่าว่าคุณพ่อของ เนริโอ เป็นมหาเศรษฐีพันล้านมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
  • ในภาพยนตร์ ลาร์โก ซึ่งรับบทโดย โตเมร์ ซิสเลย์ ถูกเลี้ยงดูโดยคู่สามีภรรยาชาวโครเอเชีย แต่ในหนังสือการ์ตูน คุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดูเขามาเป็นชาวลิกเตนสไตน์

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • แจ๋วแจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
  • TRON: LegacyTRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
  • รักที่รอคอยรักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

เกร็ดภาพยนตร์

  • Night at the Museum: Secret of the Tomb - เป็นผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายของ โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงบท ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ส่วนใน Absolutely Anything (2015) โรบิน เพียงพากย์เสียงเท่านั้น อ่านต่อ»
  • The Tale of The Princess Kaguya - มีความยาว 137 นาที ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ยาวที่สุดของสตูดิโอจิบลิ โดยยาวกว่า Princess Mononoke (1997) 3 นาที อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

พี่นาค พี่นาค เรื่องราวของ โหน่ง (วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์) หนุ่มหล่อวัยเบญจเพสสุดซวย ที่ถูกหักอกและตกงานในเวลาเดียวกัน เขาหอบหิ้วความเ...อ่านต่อ»