เกร็ดน่ารู้จาก Fireflies in the Garden
เกร็ดน่ารู้
- เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ เดนนิส ลี จากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนขึ้นเอง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่เขาสูญเสียคุณแม่ไปเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 2002 และจากภาพยนตร์เรื่อง You Can Count on Me (2000) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับครอบครัวที่ต้องรับมือกับโศกนาฏกรรม
- แม้ผู้กำกับ เดนนิส ลี จะเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้โดยอ้างอิงจากชีวิตจริงของเขา แต่ เดนนิส คิดว่าคุณพ่อของเขาเป็นคนจิตใจดี ต่างจาก ชาร์ลส์ ที่รับบทโดย วิลเลม เดโฟ ซึ่งตามท้องเรื่องเป็นพ่อที่ชอบทำร้ายลูก
- ผู้กำกับ เดนนิส ลี และภรรยาของเขาต่างมีอาชีพหลักเป็นคุณครู เดนนิส จึงนำแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครหญิงในภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากบรรดานักเรียนหญิงชั้นเกรด 7 ที่เขาเคยสอน เขาเห็นว่าพวกเด็กๆ ขาดเอกลักษณ์ เขาจึงให้ตัวละครหญิงของเขาทุกตัวได้ค้นพบตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น ลิซา ที่รับบทโดย จูเลีย โรเบิร์ตส์, ไรนน์ ที่รับบทโดย แชนนอน ลูซิโอ, เคลลี ที่รับบทโดย แคร์รี-แอนน์ มอสส์ และ เจน ที่รับบทโดย เอมิลี วัตสัน
- ผู้อำนวยการสร้าง ซูกี ชิว ผู้ติดตามผลงานของผู้กำกับ เดนนิส ลี มาตั้งแต่สมัยที่ เดนนิส ยังเป็นนักเรียน เป็นคนแรกที่เอ่ยถามว่า เดนนิส มีบทภาพยนตร์ที่เขียนไว้บ้างหรือไม่ จากนั้น ซูกี ส่งบทภาพยนตร์ของ เดนนิส เรื่องนี้ไปให้ผู้อำนวยการสร้าง วาเนสซา คอย์ฟแมน ที่กำลังมองหามือเขียนบทหน้าใหม่ วันรุ่งขึ้น วาเนสซา โทรศัพท์มาขอรับหน้าที่อำนวยการสร้าง พร้อมกับที่ มาร์โค เวเบอร์ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอ ซีเนเตอร์ เสนอตัวจะออกทุนสร้างให้
- เดิมผู้กำกับ เดนนิส ลี เสนอขอทุนสร้างไปประมาณ 5-7 แสนเหรียญสหรัฐ แต่ผู้อำนวยการสร้าง มาร์โค เวเบอร์ แนะนำให้ใช้นักแสดงที่มีประสบการณ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นภาพยนตร์รวมดาวที่มีทุนสร้างมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
- จูเลีย โรเบิร์ตส์ ผู้รับบท ลิซา เป็นนักแสดงคนแรกที่เข้ามามีส่วนร่วม เนื่องจากสามีของเธอ แดเนียล โมเดอร์ เป็นผู้กำกับภาพภาพยนตร์เรื่องนี้ และ ฟิลิป โรส พี่เขยของเขาเป็นผู้ร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
- วิลเลม เดโฟ ชอบบทภาพยนตร์มาก แต่ในตอนแรกยังลังเลที่จะร่วมแสดง เนื่องจากเขาคิดว่าการร่วมงานกับผู้กำกับหน้าใหม่อย่าง เดนนิส ลี เป็นเรื่องเสี่ยง เพราะยังไม่รู้ว่าผู้กำกับจะทำตัวอย่างไรในกองถ่าย แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรับบทเป็น ชาร์ลส์ เพราะเห็นว่ามีนักแสดงชั้นนำคนอื่นๆ ร่วมแสดงมากมาย
- ทุกคนในกองถ่ายเป็นห่วงว่าผู้กำกับ เดนนิส ลี จะรู้สึกแย่กับการถ่ายทำฉากอุบัติเหตุรถยนต์ เนื่องจากคล้ายเหตุการณ์ที่เขาเคยประสบมาในชีวิตจริง แต่ เดนนิส ยืนยันว่าเขาไม่เป็นไร เพราะคิดว่าภาพยนตร์ไม่ใช่ความจริง อีกทั้งยังเป็นผลงานที่เขาสร้างเพื่ออุทิศให้คุณแม่ของเขาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าวอีกด้วย
- ตามบทภาพยนตร์ เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองเล็กๆ ในรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งมีทุ่งหญ้าสีทองกว้างใหญ่ ในตอนแรกผู้สร้างวางแผนถ่ายทำในลอสแอนเจลิส แต่เมื่อถ่ายแบบมุมกว้างจะเห็นทั้งภูเขาและต้นปาล์ม พวกเขาจึงเปลี่ยนใจไปถ่ายทำในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส แทน เนื่องจากมีทุ่งข้าวโพดกว้างสุดลูกหูลูกตา
- ผู้สร้างเลือกบ้านของ เทอร์รี ออร์ และ แพทริเซีย ออร์ ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก เนื่องจากมีขนาดเหมาะสมกับสถานะทางสังคมของตัวละคร และสามารถเชื่อมต่อระหว่าง 2 ยุคในภาพยนตร์ได้อย่างเหมาะเจาะ
- บ้านหลังที่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลักซึ่งอยู่ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา มีรูปแบบเหมือนบ้านสมัยสงครามปฏิวัติช่วงปลายทศวรรษที่ 1830 แต่แท้จริงแล้วสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1880 และถูกรื้อถอนเพื่อขยายถนนในปี 1910 จากนั้นเจ้าของบ้านคนก่อนที่ชื่อ มารี เฮสเลอร์ ก็สร้างบ้านขึ้นมาใหม่ เป็นบ้านที่มีขนาดปกติในยุคก่อน แต่ใหญ่กว่าบ้านทั่วไปในปัจจุบัน และมีกระจกหน้าบ้านที่ซื้อมาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์
- บ้านของ เทอร์รี ออร์ และ แพทริเซีย ออร์ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการประกาศให้เป็นบ้านอนุรักษ์จากทางการรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
- เทอร์รี ออร์ และ แพทริเซีย ออร์ เล่าว่า วันหนึ่งพวกเขาพบผู้หญิงแปลกหน้าแวะมาเยี่ยมที่บ้าน และบอกว่ายังมีอีกหลายคนต้องการพบพวกเขา พวกเขาจึงเชิญแขกเข้ามาทั้งหมด และพบว่ามีทั้งผู้อำนวยการสร้าง, ผู้กำกับ เดนนิส ลี, ผู้กำกับภาพ แดเนียล โมเดอร์ และผู้ออกแบบงานสร้าง โรเบิร์ต เพียร์สัน จากนั้นคณะผู้สร้างก็เริ่มเจรจาขอถ่ายทำภาพยนตร์ที่บ้านหลังนี้ด้วยความเป็นกันเอง
- แพทริเซีย ออร์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่ใช้ถ่ายทำ และเป็นศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยท้องถิ่น อนุญาตให้ผู้สร้างถ่ายทำในห้องสมุดที่บ้าน และใช้หนังสือจำนวนมหาศาลของเธอเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากได้ ทำให้ตัวละคร ชาร์ลส์ ที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย รับบทโดย วิลเลม เดโฟ ดูสมจริงยิ่งขึ้น
advertisement
วันนี้ในอดีต
- แจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
- TRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
- รักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
เกร็ดภาพยนตร์
- Night at the Museum: Secret of the Tomb - เป็นผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายของ โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงบท ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ส่วนใน Absolutely Anything (2015) โรบิน เพียงพากย์เสียงเท่านั้น อ่านต่อ»
- The Tale of The Princess Kaguya - มีความยาว 137 นาที ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ยาวที่สุดของสตูดิโอจิบลิ โดยยาวกว่า Princess Mononoke (1997) 3 นาที อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Section 375 ผู้กำกับภาพยนตร์อินเดียชื่อดัง Rohan Khurana (Rahul Bhat) ถูกกล่าวหาจาก Anjali Dangle (Meera Chopra) หนึ่งในทีมงานหญิงขอ...อ่านต่อ»