เกร็ดน่ารู้จาก Home

เกร็ดน่ารู้
  • ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ เป็นช่างภาพทางอากาศที่เคยเปิดนิทรรศการภาพถ่าย Earth From Above ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นนิทรรศการที่รวบรวมภาพถ่ายอันงดงามจากทั่วโลกมานานถึง 10 ปี มีทั้งภาพอันโด่งดังอย่าง หัวใจแห่งเมืองโวห์ นิวคาลีโดเนีย, ดวงตาแห่งมัลดีฟส์ และชาวนากลางทุ่งนาในพื้นที่รอยต่อจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เป็นต้น
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอภาพวิดีโอแปลกตา ซึ่งรวบรวมมาจากเหนือพื้นดินของ 54 ประเทศ โดยใช้เวลาถ่ายทำ 217 วัน ได้ภาพวิดีโอยาว 488 ชั่วโมง รวมเวลาการสร้างทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นเวลาเกือบ 3 ปี
  • เมื่อผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ ได้แนวคิดในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2006 เขารีบไปปรึกษาผู้อำนวยการสร้าง เดอนีส์ กาโรต์ จาก เอลซีเวียร์ ฟิล์มส์ หลังจากนั้นก็มีตัวแทนผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ติดต่อเข้ามามากมาย แต่ก็ขอถอนตัวไปกันหมดเมื่อทราบว่า ยานน์ ต้องการฉายภาพยนตร์โดยไม่เก็บค่าเข้าชม กระทั่ง ลุก เบซซง จากบริษัท ยูโรปาคอร์ป ติดต่อเข้ามาขอร่วมงาน และส่งต่องานไปให้บริษัท พีพีอาร์ ซึ่งมีศักยภาพเพียงพอ
  • ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ พอมีพื้นเพความรู้เกี่ยวสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกมาตั้งแต่ก่อนถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เนื่องจากเขาเคยออกเดินทางเสาะหาข้อมูลในการเขียนหนังสือหลายเล่ม โดยเฉพาะหนังสือขายดีอย่าง The Earth From The Air นอกจากนี้ เขายังเคยเดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายทำรายการโทรทัศน์ชื่อ Seen From The Air อีกด้วย
  • ผู้ที่เคยร่วมงานกับผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ ในรายการโทรทัศน์ Seen From The Air ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้หลายคน ได้แก่ นักข่าว อิซาเบลล์ เดอลันนัว ทำหน้าที่เขียนบทบรรยาย ผู้หาข่าว โดโรธี มาร์แตง เป็นผู้ช่วยผู้กำกับที่ 1 ผู้จัดการงานสร้าง ฌอง เดอ เทรโกแมง และผู้จัดหาสถานที่ถ่ายทำ โคลด กานาเปลอ เข้ามาช่วยกันวางตารางการทำงาน
  • องค์กรต่างๆ ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ร่วมแรงร่วมใจกันจัดหาลูกมือภาคสนามมาช่วยงานผู้สร้างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดตารางเวลาหรือแผนการเดินทาง แต่การทำงานบนเฮลิคอปเตอร์นั้น มีเพียงผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ หรือไม่ก็หนึ่งในผู้ช่วยผู้กำกับ ช่างกล้อง และผู้คุมงานภาพเท่านั้น เนื่องจากกล้องและอุปกรณ์ทั้งหมดมีน้ำหนักรวมมากถึง 120 กิโลกรัม และยังกินพื้นที่อีกด้วย
  • ผู้สร้างถ่ายทำด้วยกล้อง ซีเนเฟลกซ์ หรือชื่อเต็มว่า ไจโร-สตาบิไลซ์ด ซีเนเฟลกซ์ เอชดี ซึ่งทำให้ภาพนิ่งมากแม้จะถ่ายในที่สั่นสะเทือน และยังมีประสิทธิภาพในการซูมดีเยี่ยม เนื่องจากเดิมเป็นกล้องสอดแนมของทหาร บางประเทศ อาทิ ซีเรีย ถึงกับสั่งห้ามไม่ให้ใช้กล้องรุ่นนี้เด็ดขาด
  • ทังกี จูด์ หนึ่งในช่างกล้องที่มาร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ มีประสบการณ์การถ่ายทำทางอากาศมาแล้ว 12 ปี และเคยขึ้นบินกับผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ สมัยถ่ายทำรายการ Seen From The Air มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
  • ตากล้อง ทังกี จูด์ กล่าวว่าการถ่ายทำทางอากาศนั้น ร้อยละ 60 ของผลงานขึ้นอยู่กับกำลังของเฮลิคอปเตอร์และความสามารถในการควบคุมเครื่องของนักบิน โดยที่ยังไม่พูดถึงปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ สภาพอากาศ และการสื่อสาร พวกเขาจึงต้องทำงานอย่างยืดหยุ่น เช่น ในภารกิจแรก ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ ทำหน้าที่ถ่ายภาพนิ่ง ขณะที่ ทังกี ถ่ายภาพเคลื่อนไหว เพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกันว่าต้องการภาพแบบไหน
  • ปัญหาใหญ่ที่สุดในการถ่ายทำบนเฮลิคอปเตอร์คือเชื้อเพลิงที่มีอยู่อย่างจำกัด การขึ้นบินครั้งหนึ่งมีเวลาเพียง 2 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง และผู้สร้างมักถ่ายทำในจุดที่ไกลจากที่เติมน้ำมัน จึงมีเวลาถ่ายภาพที่ต้องการเพียง 30 นาทีเท่านั้น พวกเขาจึงต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและขจัดโอกาสที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันให้เหลือน้อยที่สุด
  • อินเดียเป็นประเทศที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยเข้มงวดที่สุด ผู้สร้างต้องยื่นคำขออนุญาตถ่ายทำไปยังกระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ สถานทูต กองทัพบก และกองทัพอากาศ จากนั้นรอคำอนุญาตนานถึง 1 ปี เพื่อเข้าไปถ่ายทำวิดีโอความยาวเพียง 2 นาทีครึ่ง ในวันที่ถ่ายทำ มีเจ้าหน้าด้านความปลอดภัยของอินเดียติดตามไปด้วย และหลังจากนั้น เทปวิดีโอ 2 ม้วนครึ่งจากจำนวนทั้งหมด 15 ม้วนยังถูกกองตรวจสื่อลบภาพทิ้งไปหมด
  • เริ่มต้นถ่ายทำกันโดยไม่มีบทภาพยนตร์ จนกระทั่งถ่ายทำไปแล้ว 1 ปี อิซาเบลล์ เดอลันนัว จึงเข้ามารับหน้าที่เขียนบทบรรยาย รวมถึงเสริมข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องลงไป โดยอาศัยความร่วมมือของ ทิวฟิก แฟร์ นอกจากนี้ ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ เองก็มีส่วนร่วมในการเขียนบทด้วย โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจแรกเริ่มมาจากงานเขียน State of the World ของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เลสเตอร์ บราวน์
  • ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ ริเริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ An Inconvenient Truth (2006) ที่อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา อัล กอร์ นำมาฉายให้สมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสได้ชมกัน ปฏิกิริยาของผู้ชมหลายคนโดยเฉพาะการร้องไห้น้ำตาไหล ทำให้ ยานน์ ตระหนักว่าภาพยนตร์เข้าถึงผู้ชมได้มากกว่ารายการโทรทัศน์
  • เป็นภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์
  • ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ ต้องการเผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ครบทุกรูปแบบ โดยไม่เก็บค่าเข้าชมเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาจึงโน้มน้าวจนผู้อำนวยการสร้าง ลุก เบซซง เห็นด้วยและอนุมัติให้มีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่เก็บค่าเข้าชม 1 วันพร้อมกันทั่วโลก คือในวันที่ 5 มิถุนายน 2009 ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยมี ฟรองซัวส์-อองรี ปิโนลต์ ประธานของบริษัท พีพีอาร์ เป็นแรงผลักดันสำคัญ
  • ดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นฝีมือการแต่งของ อาร์มองด์ อมาร์ นักดนตรีชาวฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญด้านเวิลด์มิวสิก และเป็นเพื่อนของผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ อีกทั้งยังเป็นคนแนะนำให้ ยานน์ นำความคิดที่จะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ไปปรึกษาผู้อำนวยการสร้าง เดอนีส์ กาโรต์ ในตอนแรกเริ่มอีกด้วย
  • ผู้อำนวยการสร้าง ลุก เบซซง เป็นผู้ริเริ่มตั้งชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า Home เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เรากับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งแวดล้อมก็ถือเป็นบ้านของเรานั่นเอง
  • ผู้สร้างคำนวณปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาในระหว่างกระบวนการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ จากนั้นก็ใช้เงินจำนวนหนึ่งไปซื้อหาพลังงานสะอาดซึ่งไม่ก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์มาทดแทน ผู้กำกับ ยานน์ อาร์ธุส์-แบร์ทรองด์ เปิดเผยว่าเขาทำเช่นนี้กับงานทุกชิ้นของเขามาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
  • ผู้อำนวยการสร้าง ลุก เบซซง เคยอ่านบทความเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมามากมาย เขาจึงตระหนักถึงปัญหานี้ และอยากให้ผู้คนร่วมมือกันแก้ปัญหาโดยไม่ปัดให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น เขาจึงตอบตกลงเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในระดับนานาชาติให้แก่ภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ฉากประทับใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้ของผู้อำนวยการสร้าง ลุก เบซซง คือฉากที่ ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างขึ้นบนทะเลทราย ต้องหมดเปลืองน้ำเป็นพันๆ ลิตรไปกับสระน้ำและสนามกอล์ฟ ซึ่งขัดแย้งกับฉากที่ผู้หญิงอินเดียในชุดส่าหรีกำลังขุดหาน้ำในผืนดินที่แตกระแหง
  • 5 พันคนต่อวันเสียชีวิตเพราะน้ำดื่มที่ปนเปื้อน และ 1 พันล้านคนไม่มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม (ข้อมูลจากแผนงานสหประชาชาติเพื่อการพัฒนา หรือ ยูเอ็นดีพี ปี 2006)
  • 1 ใน 4 ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 1 ใน 8 ของนก และ 1 ใน 3 ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำใกล้จะสูญพันธุ์ นอกจากนี้ สัตว์หลายๆ สายพันธุ์ยังเสียชีวิตเร็วกว่าอายุขัยตามธรรมชาติถึง 1 พันเท่า (ข้อมูลจากสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น ปี 2008 และการประชุมพฤกษศาสตร์นานาชาติครั้งที่ 16 ในเซนต์หลุยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1999)

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • Lone SurvivorLone Survivorเข้าฉายปี 2014 แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
  • The School of RockThe School of Rockเข้าฉายปี 2004 แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
  • มหัศจรรย์...พันธุ์รักมหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004 แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ

เกร็ดภาพยนตร์

  • Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
  • Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Leap Leap เรื่องราวของ หลางผิง (กงลี่) ผู้ฝึกสอนและนักวอลเลย์บอลหญิงแกร่งชาวจีนที่ได้รับการยกย่องในระดับโลก หยาดเหงื่อและการเสียส...อ่านต่อ»