เกร็ดน่ารู้จาก Drag Me to Hell
เกร็ดน่ารู้
- ผู้กำกับ แซม ไรมี และพี่ชายของเขา อิวาน ไรมี เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนที่จะได้ลงมือสร้างจริง ในตอนแรกพวกเขายังใช้ชื่อเรื่องว่า The Curse ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Drag Me to Hell หลังจากเขียนบทแล้ว แซม อยากสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ในทันที แต่เขาตกปากรับคำที่จะสร้างเรื่องอื่นก่อน ทำให้เขาต้องพักงานนี้ไว้จนกระทั่งถึงปี 2007
- แซม ไรมี และ อิวาน ไรมี เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Army of Darkness (1992)
- ปีศาจ ลาเมีย ซึ่งปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีอยู่ในเรื่องเล่าขานจริงๆ แต่มีเนื้อหาแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม เช่น เป็นเทพเจ้ากรีกที่เปลี่ยนเป็นปีศาจ เมื่อ เฮรา ขโมยลูกของเธอไปให้เผ่าพันธุ์กินเนื้อ หรือเป็นอสูรกายครึ่งมนุษย์ครึ่งแพะ ผู้กำกับ แซม ไรมี ออกแบบ ลาเมีย ในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเน้นจุดที่ทุกๆ ตำนานกล่าวตรงกัน คือเป็นปีศาจที่ลุกขึ้นมาด้วยความโกรธแค้น และลากเหยื่อให้ลงไปในนรกอย่างโหยหวน
- ผู้กำกับ แซม ไรมี และ อิวาน ไรมี พี่ชายและผู้ร่วมเขียนบทของเขา ตั้งกฎไว้ข้อหนึ่งว่า นอกจากฉากเปิดเรื่องแล้ว ตัวละคร คริสติน ที่รับบทโดย อลิสัน โลห์แมน จะต้องปรากฏตัวทุกฉาก เพื่อนำเสนอเรื่องจากมุมมองของ คริสติน นอกจากนี้ผู้กำกับภาพ ปีเตอร์ เดมมิง ยังจับภาพใกล้ที่ใบหน้าของ อลิสัน บ่อยครั้ง เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ คริสติน
- ร็อบ ทาเพิร์ต ผู้อำนวยการสร้างและหุ้นส่วนของผู้กำกับ แซม ไรมี ที่ โกสต์ เฮาส์ พิคเจอร์ส และผู้อำนวยการสร้าง แกรนต์ เคอร์ติส ที่เคยร่วมงานกับ แซม มาแล้วถึง 5 ครั้ง ช่วยกันผลักดันการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นรูปเป็นร่าง โดยได้บริษัท ยูนิเวอร์แซล มาช่วยจัดจำหน่ายในอเมริกา และบริษัท แมนเดต เป็นผู้จัดจำหน่ายไปทั่วโลก
- อลิสัน โลห์แมน ไม่ชอบชมภาพยนตร์สยองขวัญ เพราะเธอมักจะเก็บเอาไปคิด อีกทั้งยังต้องปิดตาเกือบทุกฉาก แต่เธอก็ตัดสินใจรับบท คริสติน ในเรื่องนี้ เพราะชอบบทภาพยนตร์
- เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของนักแสดงละครเวที ลอร์นา ราเวอร์ โดยในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น กานุช
- ในตอนแรกที่ ลอร์นา ราเวอร์ เข้ามาทดสอบบท กานุช ตามคำเชิญของผู้สร้าง เธอได้อ่านบทพูดเฉพาะส่วนที่เป็นหญิงชราผู้เข้ามาในธนาคารเพราะบ้านของเธอกำลังจะถูกยึด หลังจากที่ได้รับเลือกให้แสดงบทนี้แล้ว ลอร์นา จึงได้อ่านบทภาพยนตร์ทั้งหมด เธอตกใจเมื่อทราบว่าแท้จริงแล้ว กานุช ไม่ใช่หญิงชราธรรมดา แต่เป็นแม่มด
- ลอร์นา ราเวอร์ เตรียมตัวรับบท กานุช โดยฝึกพูดภาษาอังกฤษสำเนียงฮังกาเรียน และให้ครูฝึกภาษาแปลบทของเธอให้เป็นภาษาฮังกาเรียน ซึ่งเธอใช้ภาษานี้ในบางฉาก เช่น ฉากที่ กานุช กำลังโจมตีใส่ คริสติน ที่รับบทโดย อลิสัน โลห์แมน
- ผู้อำนวยการสร้าง แกรนต์ เคอร์ติส เล่าว่า แท้จริงแล้ว ดีรีป เรา มีอายุน้อยเกินไปที่จะแสดงเป็น แรม แจส แต่ผู้สร้างพอใจการแสดงขณะทดสอบบทของ ดีรีป มาก จึงคิดว่าอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
- นักแสดงเม็กซิกัน อาเดรียนา บาร์ราซา ตัดสินใจรับบทเป็นร่างทรงหญิง ชอน ซาน ดีนา เนื่องจากเธอชื่นชอบภาพยนตร์สยองขวัญมาตั้งแต่เป็นเด็ก และชอบมากจนที่บ้านของเธอมีห้องสมุดที่อุดมไปด้วยวรรณกรรมสยองขวัญมากมาย
- ผู้กำกับ แซม ไรมี ใช้เทคนิคหลากหลายในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นฉากสีเขียว การใช้หุ่น การแต่งหน้าขั้นสูง และวิชวลเอฟเฟกต์
- ผู้สร้างสร้างรถพิเศษขึ้นมาเพื่อใช้ถ่ายทำฉากในรถที่ กานุช ที่รับบทโดย ลอร์นา ราเวอร์ โจมตี คริสติน ที่รับบทโดย อลิสัน โลห์แมน รถพิเศษคันนี้สามารถถอดหน้ารถ หลังรถ และประตูทั้ง 4 บานออกและประกอบเข้าไปใหม่ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ หลังคาของรถยังสามารถแยกออกได้ 2 แบบ คือแยกไปซ้ายขวา หรือแยกไปหน้าหลัง ทำให้สามารถถ่ายจากมุมต่างๆ ในรถได้ง่ายขึ้น
- แผนกสเปเชียลเอฟเฟกต์สร้างผ้าเช็ดหน้าผี โดยโยงสายสลิงจาก 4 ทิศและใช้การเป่าลมช่วยให้ผ้าเช็ดหน้าขยับตามต้องการ นอกจากนี้ พวกเขาใช้สลิง 2 เส้นลากผ้าเช็ดหน้าไปตามเส้นทางรถวิ่ง เพื่อให้ผ้าเช็ดหน้าบินไล่ตามรถยนต์ด้วยความเร็ว 35 ไมล์ต่อชั่วโมงตามบท
- ฉากที่ลมปริศนาพัดเข้ามาในห้องของ คริสติน ที่รับบทโดย อลิสัน โลห์แมน ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายว่า ลาเมีย กำลังใกล้เข้ามา ผู้สร้างถ่ายทำโดยใช้กลไกพิเศษเปิดปิดประตู และเคลื่อนไหวโคมไฟและพรม อีกทั้งยังวางท่อจากทางหน้าต่าง เพื่อเป่าลมพัดม่านที่อยู่ภายในตัวบ้านให้สั่นไหว
- ผู้กำกับ แซม ไรมี ต้องการให้เลือดกำเดาที่ไหลพุ่งออกมาอย่างน่ากลัวของตัวละคร คริสติน ที่รับบทโดย อลิสัน โลห์แมน เป็นเลือดปลอมจริงๆ ไม่ใช่ภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิก หัวหน้าแผนกเอฟเฟกต์ เกร็ก นิโคเทอโร จึงใช้วิธีซ่อนสายยางไว้หลังหูของ อลิสัน และนำหลอดเล็กๆ มาติดในโพรงจมูกของเธอ เพื่อให้ดูเหมือนเลือดไหลออกมาจากจมูกจริงๆ ซึ่งอุปกรณ์นี้สามารถสร้างแรงฉีดได้ไกลถึง 12 ฟุตเลยทีเดียว
- ลอร์นา ราเวอร์ ที่รับบท กานุช ต้องถูกห่อหุ้มกาวบนใบหน้าขณะที่เธอแสดงสีหน้าหลายแบบ นอกจากนี้ยังต้องไปสแกนร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าที่บริษัท ไซเบอร์ เอฟเฟกต์ส รวมทั้งสแกนตอนที่เธออ้าปากกว้างสุดๆ ด้วย เพื่อให้ผู้สร้างได้ภาพสามมิติของเธอมา เพื่อใช้สร้างหุ่นของ กานุช ในหลายรูปแบบ เช่น ศพดอง ศพเน่าเฟะ และศพที่นอนอย่างสงบ
- เอลเลน เพจ ขอถอนตัวออกจากภาพยนตร์เรื่องนี้เพราะตารางเวลาการถ่ายทำไม่ลงตัว
- เพื่อนของผู้กำกับ แซม ไรมี ที่ชื่อ บรูซ แคมป์เบลล์ ปฏิเสธไม่รับบทในภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะยุ่งอยู่กับรายการโทรทัศน์ Burn Notice
- เพลง The Exorcist Symphony ของนักแต่งเพลง ลาโล ชิฟริน ซึ่งเคยใช้ประกอบภาพยนตร์ตัวอย่างของ The Exorcist (1973) เป็นเพลงประกอบช่วงนำเสนอรายชื่อนักแสดงในตอนท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้
- ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยตราสัญลักษณ์รุ่นเก่าของ ยูนิเวอร์แซล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้ในยุค 80 ยุคที่ผู้กำกับ แซม ไรมี เริ่มสร้างภาพยนตร์สยองขวัญเป็นครั้งแรก นั่นคือเรื่อง The Evil Dead (1981) และ Evil Dead II (1987) และในตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ มีข้อความเชิญชวนให้ไปเยี่ยมชม ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ข้อความเช่นนี้ใช้กันในภาพยนตร์ของยูนิเวอร์แซลในยุค 80 เช่นกัน เช่น An American Werewolf in London (1981)
- ผู้กำกับ แซม ไรมี ปรากฏตัวในภาพยนตร์ด้วยการสวมบทวิญญาณตนหนึ่งในฉากปราบวิญญาณ ส่วน เท็ด ไรมี น้องชายของ แซม แสดงบทรับเชิญเป็นคุณหมอคนหนึ่ง
- ผู้กำกับ แซม ไรมี ตั้งชื่อตัวละคร แจ็กส์ ที่รับบทโดย เดวิด เพย์เมอร์ ตามชื่อผู้อำนวยการสร้างที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา เจมส์ แจ็กส์
- ผู้กำกับ แซม ไรมี ยังคงใส่รถโอลด์สโมไบล์ เดลตา 88 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเขาเข้ามาในภาพยนตร์เรื่องนี้ เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่เขากำกับ
advertisement
วันนี้ในอดีต
- แจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
- TRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
- รักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
เกร็ดภาพยนตร์
- Paddington - นิโคล คิดแมน เรียนวิธีขว้างมีดเพื่อรับบท มิลลิเซนต์ โดยเฉพาะ แต่สุดท้ายฉากขว้างมีดก็ถูกตัดออก อ่านต่อ»
- Fast & Furious 7 - ต้องพักการถ่ายทำเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2013 เพราะ พอล วอล์กเกอร์ ผู้รับบท ไบรอัน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2013 เดิมทีภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดฉายวันที่ 11 กรกฎาคม 2014 แต่ต้องเลื่อนฉายเป็นเดือนเมษายนปี 2015 ผู้กำกับ เจมส์ วาน และ ผู้บริหารค่ายยูนิเวอร์แซลต้องประชุมปรับบทและหาทางถ่ายทำต่อ โดยยังคงให้เกียรติ พอล ผู้ล่วงลับ ที่ถ่ายทำส่วนของตัวเองไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วก่อนเกิดอุบัติเหตุ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Hello World เรื่องราวของชายหนุ่มจากโลกอนาคตที่ย้อนเวลากลับมาช่วยชีวิตรักแรกของเขา ผลกระทบจากการข้ามเวลาส่งให้โลกต้องเสี่ยงกับปรากฏก...อ่านต่อ»