เกร็ดน่ารู้จาก Terminator Salvation

เกร็ดน่ารู้
  • นับเป็นภาคที่ 4 ของภาพยนตร์ชุด Terminator ต่อจาก The Terminator (1984) Terminator 2: Judgment Day (1991) และ Terminator 3: Rise of the Machines (2003) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาหลักเกิดขึ้นในปี 2018 นับเป็น 14 ปีหลังจากตอนจบของภาค 3
  • ตอนที่ Terminator 2: Judgment Day (1991) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ คริสเตียน เบล ผู้รับบท คอนเนอร์ ในเรื่องนี้ เพิ่งอายุ 17 ปี และเพิ่งเดินทางมาตั้งตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา
  • จอห์น แบรนคาโต และ ไมเคิล เฟอร์ริส ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผู้เขียนบท Terminator 3: Rise of the Machines (2003)
  • ผู้สร้างเลือก คริสเตียน เบล มารับบท คอนเนอร์ ระหว่างที่เขาอยู่ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อถ่ายทำ The Dark Knight (2008) พวกเขาจัดเวลาให้ คริสเตียน ได้มาคุยกับผู้กำกับ แมกจี ในตอนแรก คริสเตียน ลังเลที่จะรับงานนี้ เพราะเขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพียงภาพยนตร์ต่อสู้ธรรมดาๆ หรือไม่
  • ไมเคิล ไอร์ออนไซด์ ที่รับบทนายพล แอชดาวน์ ผู้นำของกองกำลังต่อต้าน เคยร่วมงานกับ คริสเตียน เบล ผู้รับบท คอนเนอร์ มาก่อนแล้วในเรื่อง The Machinist (2004)
  • ผู้กำกับ แมกจี อุทิศภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับ สแตน วินสตัน ผู้ออกแบบคนเหล็กรุ่น ที-800 ซึ่งได้มาช่วยควบคุมงานสร้างกองทัพเครื่องจักรกลในภาพยนตร์เรื่องนี้ และเสียชีวิตไประหว่างการถ่ายทำ แมกจี เล่าว่า สแตน เคยสารภาพกับเขาว่าจุดเริ่มต้นของงานออกแบบนี้มาจากการสร้างเพื่อนในจินตนาการสมัยเด็กของเขา
  • หัวหน้าแผนกเอฟเฟกต์ จอห์น โรเซนแกรนต์ สร้างคนเหล็กรุ่นต่างๆ ในเรื่องด้วยวัสดุน้ำหนักเบา ได้แก่ ยูรีเธนผสมกับพลาสติก แล้วนำมาทาสีด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่เพื่อให้วัสดุนั้นดูเหมือนโลหะ
  • ผู้กำกับ แมกจี กล่าวว่าหุ่นทหารภาคพื้นดิน ที-600 นั้นใหญ่โตและร้ายกาจกว่ารุ่น ที-800 โดย แมกจี เปรียบหุ่น ที-600 ว่าเป็นเสมือนรถบูอิก ปี 1957 ขณะที่หุ่น ที-800 เป็นรถเมอร์ซีเดซ เบนซ์ ปี 2009
  • หุ่น ที-600 ที่ทำหน้าที่สำรวจหามนุษย์นั้น มีร่างสูงใหญ่ 7 ฟุต 3 นิ้ว มีผิวยางง่ายๆ ปกคลุมหน้า มีเศษผ้ารุ่งริ่งปิดบังโครงร่าง มีอาวุธเป็นปืนเล็ก เอ็ม 203 ที่ยิงกระสุนได้ 3,000-6,000 นัดต่อนาที พร้อมกระสุนสำรองครบถ้วน เนื่องจาก ที-600 เป็นเครื่องจักรล้าสมัยคร่ำคร่า ผู้สร้างจึงใช้กลไกหุ่นชักผสมผสานกับคอมพิวเตอร์กราฟฟิกสร้าง ที-600 ในลักษณะพังยับเยินหลายๆ แบบ เช่น ขากรรไกรล่างแยกออก หรือผิวหนังบางส่วนหลุดลอกจากใบหน้า
  • แอโรสแตตส์ เป็นหุ่นยนต์ทหารยามอากาศที่มีความยาว 4 ฟุต ทำหน้าที่บินวนเวียนใกล้ๆ พื้นดิน เพื่อสืบหาสัญญาณที่บ่งบอกถึงชีวิตมนุษย์ พวกมันใช้กล้องดิจิตอลและเทคโนโลยีบันทึกภาพแบบเลเซอร์ ในการส่งรายงานผ่านทางระบบสัญญาณไร้สายกลับไปยังสกายเน็ต
  • ฮาร์เวสเตอร์ เป็นเครื่องจักรกลที่คอยจับตัวมนุษย์ มีร่างสูงประมาณ 80 ฟุต มีแขนขาโลหะหลายข้างยืดออกมาจากส่วนตัวคล้ายแมงมุม และตามขาเหล่านั้นจะมีตาหรือกล้องติดอยู่เพื่อใช้มองภาพความเสียหาย หน้าที่ของมันคือบุกเข้าไปในที่ที่มนุษย์ซ่อนตัวอยู่ และใช้กรงเล็บจับพวกเขาใส่ยานขนส่งกลับไปยังสกายเน็ต
  • บริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ ดูคาติ มอบรถจักรยานยนต์ไฮเปอร์มอเตอร์ 4 คันมาให้ใช้ถ่ายทำ นอกจากนี้นักออกแบบของ ดูคาติ กับผู้สร้างยังได้ร่วมกันออกแบบหุ่น โมโต-เทอร์มิเนเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องจักรกลติดอาวุธปืนที่ทำหน้าที่ไล่ตามจับตัวมนุษย์ โดยใช้เค้าโครงจากรถจักรยานยนต์ ดูคาติ จากนั้นพวกเขาก็ส่งแบบไปสร้างที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • รถจักรยานยนต์ ดูคาติ ซึ่งเป็นต้นแบบของหุ่น โมโต-เทอร์มิเนเตอร์ เป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อโปรดของผู้กำกับ แมกจี
  • หุ่น ไฮโดรบ็อต เป็นเครื่องจักรกลใต้น้ำ มีลักษณะคล้ายงูตัวยาว 4 ฟุต มีศีรษะคมกริบที่เจาะเข้าไปในตัวเหยื่อ และตอบสนองต่อเสียงและการสั่นสะเทือนในน้ำ หุ่นชนิดนี้มีบทโดนทำลายอย่างสมบุกสมบัน ผู้สร้างจึงต้องใช้วัสดุที่ทนทานพอสมควร โดยพวกเขาใช้โครงสร้างเหล็กที่น้ำหนักเบาที่สุด ผสมเข้ากับชิ้นส่วนยูรีเธนน้ำหนักเบาที่ทาสีให้ดูเหมือนโลหะ
  • รูปลักษณ์ครึ่งมนุษย์ครึ่งเครื่องจักรของตัวละคร มาร์คัส เกิดขึ้นจากชิ้นส่วนเทียมที่หัวหน้าแผนกเอฟเฟกต์ จอห์น โรเซนแกรนต์ พัฒนาขึ้น ผสมผสานกับการแต่งหน้าและคอมพิวเตอร์กราฟฟิก แซม เวิร์ตธิงตัน ผู้รับบท มาร์คัส ต้องนั่งนิ่งๆ ให้ช่างแต่งหน้า 3 คนแปลงโฉมของเขาเป็นเวลาครั้งละ 6 ชั่วโมง
  • ตัวละคร แบลร์ ที่รับบทโดย มูน บลัดกูด ได้ขับเครื่องบินเร็วของทหารรุ่น เอ-10 ธันเดอร์โบลต์ ทู หรือที่เรียกว่า ไมตี วอร์ธอก, เดอะ ฟลายอิง กัน และ เดอะ แทงก์บัสเตอร์ กัปตัน เจนนิเฟอร์ โชก จากกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นนักบินประจำเครื่องบินนี้ ให้คำแนะนำแก่ มูน ว่า เครื่องบินชนิดนี้จะร่อนลงต่ำเรี่ยพื้นดิน และบินช้าๆ เพื่อสนับสนุนกองทัพภาคพื้นดิน
  • เครื่องบินที่กองทัพอากาศเคิร์ตแลนด์ มอบให้ผู้สร้างใช้ถ่ายทำ ได้แก่ เอ-10 ธันเดอร์โบลต์ ทู, ซีวี-22 ออสเปรย์ ซึ่งมีเทคโนโลยีแกนใบพัดหมุนเอียง ทำให้สามารถบินขึ้นลงได้เหมือนเฮลิคอปเตอร์, เครื่องบินขนส่ง ซี-130 เฮอร์คิวลิส และ เฮลิคอปเตอร์ เอชเอช -60 เพฟ ฮอว์ก ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่ติดตั้งปืนไว้ภายนอก
  • ไมเคิล วิลคินสัน ออกแบบเครื่องแต่งกายให้ตัวละครโดยอ้างอิงถึงเสื้อผ้าจากภาพยนตร์ภาคก่อนๆ ด้วย เช่น คอนเนอร์ ที่ในภาคนี้รับบทโดย คริสเตียน เบล ยังคงได้สวมกางเกงทหารลายเสือเหมือนในภาคก่อน ส่วนตัวละคร ไคล์ ที่รับบทโดย แอนตัน เยลชิน สวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อ ไนกี้ ในหลายฉาก ซึ่งคล้ายคลึงกับรองเท้ารุ่น ไนกี้ แวนดาลส์ ที่ตัวละครเดียวกันนี้ที่รับบทโดย ไมเคิล บีห์น สวมใน The Terminator (1984)
  • ตัวละคร คอนเนอร์ ที่รับบทโดย คริสเตียน เบล มีอาวุธเป็นปืนเยอรมันรุ่น เอชเค 416ดี ส่วน บาร์นส์ ที่รับบทโดย คอมมอน แบกปืนยักษ์ กริซซ์ลี 50 และ แบลร์ ที่รับบทโดย มูน บลัดกูด ใช้ เดเซิร์ต อีเกิล 50 ขนาดเหมาะมือ
  • ผู้สร้างใช้เวลา 12 สัปดาห์เตรียมการถ่ายทำฉากระเบิดในปั๊มน้ำมัน เริ่มจากระเบิดรถน้ำมันที่บรรจุน้ำมันประมาณ 250 แกลลอน จนเกิดลูกไฟในรัศมี 160 ฟุตและสูง 200 ฟุต ตามมาด้วยการระเบิดอีกครั้งที่หัวจ่ายน้ำมัน ผู้กำกับ แมกจี ถ่ายทำฉากดังกล่าวโดยบังคับกล้องผ่านเครื่องควบคุมทางไกล ทั้งกล้องที่อยู่ในกล่องกันกระแทกสำหรับถ่ายภาพใกล้ กล้องที่ตากล้องควบคุมอยู่หลังหลุมหลบภัย และกล้องบนเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้เลนส์ยาวมากๆ
  • ผู้สร้างสร้างฉากแม่น้ำใจกลางทะเลทรายด้วยตู้เก็บน้ำความสูง 18 ฟุต เพื่อใช้ถ่ายทำฉากที่เฮลิคอปเตอร์ร่วงลงในแม่น้ำเพราะระเบิดนาปาล์ม พวกเขาสร้างกลไกคานเพื่อใช้ขยับเฮลิคอปเตอร์ขึ้นลง และนำต้นไม้คอนกรีตที่ติดตั้งท่อน้ำมันเพื่อสร้างเปลวเพลิง ลงไปวางปะปนกับต้นไม้จริงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ในวันที่ถ่ายทำซึ่งมีพนักงานดับเพลิงมาคอยเตรียมรับสถานการณ์ ผู้สร้างทิ้งระเบิดนาปาล์มลงมาต่อเนื่องตามความยาวของแม่น้ำเป็นเวลา 7 วินาที ระเบิดแต่ละครั้งใช้น้ำมัน 100 แกลลอน และมีเปลวเพลิงสูงขึ้นไปหลายร้อยฟุต
  • หลังจาก แคลร์ เดนส์ ปฏิเสธไม่กลับมารับบท เคต นักแสดง ชาร์ลอตต์ เกนสเบิร์ก ก็ได้เข้ามารับบทนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องถอนตัวไปเพราะมีปัญหาเรื่องตารางเวลา และยกบทนี้ให้กับ ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด แทน
  • เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ มารับบท เซเลนา โคแกน แทน ทิลดา สวินตัน เพียงไม่กี่วันก่อนเปิดกล้อง จากนั้นเธอถ่ายทำบทนี้โดยใช้เวลา 10 วัน
  • ขณะถ่ายทำ เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ ผู้รับบท เซเลนา โคแกน สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป 4 คนจากอุบัติเหตุรถชน กองถ่ายจึงต้องหยุดถ่ายทำชั่วคราว เพื่อให้เธอกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่สหราชอาณาจักร
  • ผู้กำกับ แมกจี ขอให้นักแสดงและทีมงานอ่านนิยายเรื่อง The Road ของ คอร์แมก แมกคาร์ธี และ Do Androids Dream of Electric Sheep? ของ ฟิลิป เค. ดิก ที่เป็นนิยายต้นแบบของภาพยนตร์ Blade Runner (1982) เพราะเขาต้องการให้ทุกคนซึมซัมบรรยากาศของโลกที่เยือกเย็นเปล่าเปลี่ยวในงานเขียนดังกล่าว
  • ผู้สร้างเสนอให้ จอช โบรลิน รับบทเป็น มาร์คัส แต่เขาปฏิเสธ สุดท้ายผู้ที่ได้รับบทนี้ คือ แซม เวิร์ตธิงตัน
  • ขณะถ่ายทำในช่วงฤดูร้อนปี 2008 คริสเตียน เบล ผู้รับบท คอนเนอร์ ตะโกนถ้อยคำหยาบคายใส่ผู้กำกับภาพ เชน เฮิร์ลบุต ซึ่งกำลังจัดแสงในฉากหลัง และไปรบกวนสมาธิของ คริสเตียน ขณะแสดงฉากที่ตึงเครียด ภาพการต่อว่าอย่างเผ็ดร้อนนั้นหลุดออกมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต คริสเตียน จึงออกมากล่าวขอโทษต่อหน้าสื่อมวลชน และยืนยันว่าเขากับ เชน ยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
  • เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในบรรดาภาพยนตร์ชุด Terminator ที่ไม่มี เอิร์ล โบเอน ร่วมแสดงในบท ดร. ซิลเบอร์แมน
  • คริสเตียน เบล รับบทเป็น จอห์น คอนเนอร์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้มีคนรับบทนี้มาแล้วถึง 6 คน ในภาค Terminator 2: Judgment Day (1991) ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ รับบท จอห์น คอนเนอร์ วัยผู้ใหญ่ เอ็ดเวิร์ด เฟอร์ลอง รับบท จอห์น คอนเนอร์ วัยรุ่น ดาลตัน แอบบอตต์ รับบท จอห์น คอนเนอร์ วัยทารก ในภาค Terminator 3: Rise of the Machines (2003) นิก สตาห์ล รับบท จอห์น คอนเนอร์ เป็นคนที่ 4 ส่วน โธมัส เดกเกอร์ และ จอห์น เดอวิโต แสดงเป็น จอห์น คอนเนอร์ วัยผู้ใหญ่และวัยเด็กกว่าตามลำดับ ในฉบับละครโทรทัศน์ Terminator: The Sarah Connor Chronicles (2008)
  • ชื่อของตัวละคร มาร์คัส ไรต์ ที่รับบทโดย แซม เวิร์ตธิงตัน ในเรื่องนี้ ยังเป็นชื่อของทหารเรือเผ่าพันธุ์เทอร์แรนคนหนึ่ง ที่แหกคุกออกมาระหว่างอยู่ในโครงการปรับการเข้าสังคมใหม่ ในนวนิยายไตรภาค Starcraft: The Dark Templar Saga ที่เขียนโดย คริสตี โกลเดน และเป็นส่วนหนึ่งของเกมดัง Starcraft
  • เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในบรรดาภาพยนตร์ชุด Terminator ที่ได้รับเรต พีจี-13 ขณะที่ภาคก่อนๆ ล้วนได้เรต อาร์
  • ใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมดมากกว่า 77 วัน
  • เป็นภาคแรกที่ตัวละคร จอห์น คอนเนอร์ และคุณพ่อของเขา ไคล์ ปรากฏตัวพร้อมกัน รับบทโดย คริสเตียน เบล และ แอนตัน เยลชิน ตามลำดับ
  • ตัวละคร ไคล์ ปรากฏตัวในภาพยนตร์ชุด Terminator เพียง 2 ภาคเท่านั้น นั่นคือภาคนี้ที่รับบทโดย แอนตัน เยลชิน และในภาคแรก The Terminator (1984) ที่รับบทโดย ไมเคิล บีห์น แม้ ไมเคิล จะกลับมาแสดงบทเดิมนี้ในภาค Terminator 2: Judgment Day (1991) แต่สุดท้ายแล้ว ฉากของเขาก็ถูกตัดออกไป
  • เพลง You Could Be Mine ของวง กันส์ แอนด์ โรสเซส ซึ่งเคยใช้ประกอบภาค Terminator 2: Judgment Day (1991) มาแล้ว ถูกนำมาใช้ประกอบในภาคนี้อีกครั้ง
  • ภาพยนตร์ชุด Terminator ทุกภาคมีฉากต่อสู้สำคัญเกิดขึ้นในฉากโรงงานทั้งสิ้น ใน The Terminator (1984) มีฉากต่อสู้ในโรงงานที่เครื่องจักรทำงานโดยอัตโนมัติ ใน Terminator 2: Judgment Day (1991) มีฉากต่อสู้ในโรงงานเหล็กกล้า ใน Terminator 3: Rise of the Machines (2003) มีฉากต่อสู้ในระบบวิจัยไซเบอร์ที่มีเครื่องเร่งอนุภาค ส่วนในภาคนี้ มีฉากต่อสู้สำคัญเกิดขึ้นในโรงงานของ สกายเน็ต
  • ในตอนหนึ่งมีคำบรรยายในภาพยนตร์ว่า "อนาคตเริ่มขึ้นแล้ว" (The Future Begins.) ซึ่งบังเอิญตรงกับคำโปรยของภาพยนตร์ Star Trek (2009) ซึ่งออกฉายไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้าภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ตอนที่พบกันครั้งแรก ไคล์ ที่รับบทโดย แอนตัน เยลชิน กล่าวกับ มาร์คัส ที่รับบทโดย แซม เวิร์ตธิงตัน ว่า "มากับฉันถ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่" (Come with me if you want to live.) ขณะที่ในภาค The Terminator (1984) ไคล์ กล่าวประโยคเดียวกันนี้กับ ซาราห์ ที่คลับเทก-นัวร์ ส่วนใน Terminator 2: Judgment Day (1991) เทอร์มิเนเตอร์ กล่าวประโยคนี้กับ ซาราห์ ตอนพบกันครั้งแรกที่สถาบันจิตเวช
  • ผู้สร้างออกแบบตัวตลกที่เป็นตัวแทนของโรงงานของเล่นที่ถูกทิ้งร้าง โดยอ้างอิงถึงฆาตกรที่มีอยู่จริง จอห์น เวย์น แกซี ซึ่งล่อใจเด็กๆ ที่เป็นเหยื่อด้วยตัวตลกที่ชื่อ โพโก เดอะ คลาวน์
  • ฉากที่ จอห์น คอนเนอร์ ที่รับบทโดย คริสเตียน เบล ต่อสู้กับหุ่น ที-800 เขาบาดเจ็บเป็นแผลที่ใบหน้า รอยแผลนั้นตรงกับรอยแผลเป็นของ คอนเนอร์ ในอนาคตในภาค Terminator 2: Judgment Day (1991)
  • มีหลายฉากที่ผู้สร้างมุ่งถ่ายที่เท้าของตัวละคร การถ่ายเช่นนี้เป็นเอกลักษณ์ของ เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับ 2 ภาคแรก The Terminator (1984) และ Terminator 2: Judgment Day (1991)
  • ลินดา แฮมิลตัน ผู้รับบท ซาราห์ ในภาคก่อนหน้า มาบันทึกเสียงพูดของ ซาราห์ ตามบทพูดจาก The Terminator (1984) ให้ผู้สร้างได้ใช้ในภาคนี้ แม้จะไม่ได้รับการบันทึกชื่อลงเป็นหนึ่งในบรรดานักแสดงก็ตาม
  • เป็นภาคแรกที่เนื้อเรื่องเน้นที่ตัวละคร จอห์น คอนเนอร์ ขณะที่ไตรภาคก่อนหน้าเน้นที่ตัวละคร เทอร์มิเนเตอร์
  • อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้รับบท เทอร์มิเนเตอร์ ในไตรภาคแรก ปฏิเสธที่จะกลับมารับบทเดิมในภาคนี้ เพราะเห็นว่าการปรากฏตัวที่น้อยเกินไปถือเป็นการหลอกลวงผู้ชม
  • ในภาคแรก The Terminator (1984) ตัวละคร ไคล์ ถามตำรวจว่า "วันนี้วันที่เท่าไร ปีอะไร" (What day is it? What year?) ส่วนในภาคนี้ คำพูดแรกที่ มาร์คัส ที่รับบทโดย แซม เวิร์ตธิงตัน กล่าวกับ ไคล์ ที่รับบทโดย แอนตัน เยลชิน คือคำพูดเดียวกันดังกล่าว

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • AlexanderAlexanderเข้าฉายปี 2004 แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
  • Puss in BootsPuss in Bootsเข้าฉายปี 2011 แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
  • ฝนตกขึ้นฟ้าฝนตกขึ้นฟ้าเข้าฉายปี 2011 แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Demonic - ประกาศสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยชื่อ House of Horror เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2011 โดย เจมส์ วาน รับหน้าที่อำนวยการสร้าง อ่านต่อ»
  • Child 44 - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ที่ ทอม ฮาร์ดี ผู้รับบท เลโอ และ แกรี โอลด์แมน นักแสดงบท มิกเฮล ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน เรื่องก่อนหน้านี้คือ Tinker Tailor Soldier Spy (2011) Lawless (2012) และ The Dark Knight Rises (2013) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Love At The Second Sight Love At The Second Sight เรื่องราวของ ราฟาเอล (ฟรองซัว ซีวีล) เป็นนักเขียนนิยายชื่อดัง ยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็เริ่มกลายเป็นคนหลงตัว...อ่านต่อ»