เกร็ดน่ารู้จาก Angels & Demons
เกร็ดน่ารู้
- สร้างจากนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ แดน บราวน์ ผู้เขียน The Da Vinci Code ซึ่งเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ The Da Vinci Code (2006) แล้วโดย โคลัมเบีย พิคเจอร์ส
- ทอม แฮงค์ส กลับมารับบทตัวละครเดิมจาก The Da Vinci Code (2006) นั่นคือศาสตราจารย์ โรเบิร์ต แลงดอน ส่วน รอน โฮเวิร์ด ผู้กำกับ The Da Vinci Code ก็กลับมานั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
- พิธีคอนเคลฟ คือพิธีที่คณะคาร์ดินัลเลือกหนึ่งในบรรดาปริเฟอริติ (พระคาร์ดินัลที่มีคุณสมบัติ) ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ พิธีนี้จัดขึ้นอย่างเป็นความลับ มีเพียงการปล่อยควันออกมาจากโบสถ์เพื่อสื่อสารกับคนภายนอก หากเป็นควันสีดำหมายถึงคะแนนเสียงยังไม่มากถึงสองในสาม หากเป็นควันสีขาวและมีเสียงตีระฆังหมายถึงคะแนนเสียงมากถึงสองในสาม และพิธีเสร็จสิ้นสมบูรณ์
- คาเมอร์เลโย คือผู้มีหน้าที่ประกาศการมรณภาพของพระสันตะปาปาและทำลายแหวนแห่งชาวประมง ซึ่งเป็นตราประทับส่วนพระองค์ขององค์สันตะปาปา รวมทั้งเป็นผู้ปกครองนครวาติกันไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่
- ทหารองค์รักษ์สวิส คือผู้ปกป้องพระสันตะปาปาและคณะพระคาร์ดินัลภายในรั้วกำแพงนครวาติกันนับตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 1506 ผู้ที่จะได้รับเลือกให้เป็นทหารองครักษ์สวิสจะต้องเป็นชายโสดที่นับถือคาธอลิก อายุระหว่าง 19-30 ปี สูงอย่างน้อย 5 ฟุต 8 นิ้ว จบการศึกษาระดับมัธยม ผ่านการฝึกทหารสวิสเบื้องต้น และเป็นพลเมืองชาวสวิส
- เจนดาร์มารี คือผู้ทำหน้าที่ตำรวจภายในนครวาติกัน พวกเขาจะดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน การจราจร รวมถึงการสืบสวนคดีลักพาตัวและคดีฆาตกรรม
- อิลลูมินาติ คือสมาคมลับที่ก่อตั้งขึ้นในแคว้นบาวาเรียในปี 1776 มีสมาชิกเป็นพวกนักคิดอิสระจากแวดวงต่างๆ ทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ และรัฐบาล รวมแล้วมากถึง 2,000 คน สมาคมนี้ถูกยุบไปเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 อย่างไรก็ดี หลายคนเชื่อว่ารากเหง้าของสมาคมลับนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และเกิดขึ้นจากความกังวลในเรื่องความคิดเห็นทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ไม่ถูกต้องของคริสตจักรในเวลานั้น
- มีผู้อ้างว่าสมาคมลับอิลลูมินาติซึ่งเก่าแก่กว่าสี่ร้อยปีนี้ มีนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลก กาลิเลโอ และประติมากรและสถาปนิกแนวบาโรก เบร์นินี เป็นสมาชิกอยู่ด้วย
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ ทอม แฮงค์ส ผู้รับบท แลงดอน ได้ร่วมงานกับผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด เป็นครั้งที่ 4
- ตัวละคร วิตตอเรีย เวตรา ที่รับบทโดย ไอเยเลต ซูเรอร์ ทำงานอยู่ที่ เซิร์น หรือศูนย์ปฏิบัติการวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป ซึ่งเป็นห้องทดลองฟิสิกส์อนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1954 ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนประเทศฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้นครเจนีวา ตอนนี้มีประเทศสมาชิก 20 ประเทศ จุดมุ่งหมายของศูนย์วิจัยแห่งนี้คือค้นหาว่าจักรวาลเกิดขึ้นจากอะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยมีเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุด อย่างเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีและเครื่องตรวจจับอนุภาค
- ไอเยเลต ซูเรอร์ เตรียมตัวรับบท วิตตอเรีย เวตรา ด้วยการอ่านการทดลองทุกชนิดเกี่ยวกับเครื่องเร่งอนุภาคที่เซิร์น และดูวิดีโอเกี่ยวกับปฏิบัติการลาร์จ เฮดรอน โคลลิเดอร์ ของเซิร์นทางเว็บไซต์ยูทูบ และอ่านหนังสือของ บิล ไบรสัน เรื่อง A Hort History of Nearly Everything ตามคำแนะนำของ ทอม แฮงค์ส ผู้รับบท แลงดอน
- ทีมงานหลายคนชื่นชอบหนังสือของ บิล ไบรสัน เรื่อง A Hort History of Nearly Everything ที่ ทอม แฮงค์ส ผู้รับบท แลงดอน แนะนำให้ ไอเยเลต ซูเรอร์ ผู้รับบท วิตตอเรีย เวตรา อ่าน นอกจากนี้ในบรรดาทีมงานยังมีการแลกเปลี่ยนบันทึกกันในบางบท เช่น จักรวาลของไอน์สไตน์ อะตอมผู้ยิ่งใหญ่ และ ความคิดเรื่องเอกภาพของดาร์วิน
- นอกจาก ยวน แมกเกรเกอร์ จะรับบทเป็น คาเมอร์เลโย เพราะสนใจตัวละครตัวนี้แล้ว ยังเป็นเพราะเขาอยากร่วมงานกับผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด ซึ่งเขาได้พบหลายครั้งในร้านอาหารมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ ขณะที่ รอน มาถ่ายทำ The Da Vinci Code (2006) ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
- ผู้สร้างถ่ายทำในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นเวลา 1 เดือน โดยใช้สถานที่ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งเป็นฉากหลัง ได้แก่ เปียซซา เดล โปโปโล, เปียซซา นาโวนา, ปราสาทเซนต์แองเจโล, ภายนอกโบสถ์บาโรก ซานตา ซูซานนา และท้องถนนในกรุงโรม ซึ่งมักคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นที่อยากรู้อยากเห็น
- ผู้สร้างถ่ายทำฉากที่มีผลงานศิลปะมากมายหลายชิ้นในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ตามที่หนังสือของ แดน บราวน์ ระบุไว้ให้เป็นเงื่อนงำในการดำเนินเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลงานของ ราฟาเอล, ไมเคิลแองเจโล และ เบร์นินี ไปจนถึงโอเบลิสก์ที่สูงเสียดฟ้าในจัตุรัสหลายๆ แห่ง
- ฉากที่ ทอม แฮงค์ส ผู้รับบท แลงดอน และ ไอเยเลต ซูเรอร์ ผู้รับบท วิตตอเรีย เวตรา เดินข้ามเปียซซา เดลลา โรทอนดา ตรงหน้าวิหารแพนธีออนในกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนยืนหันหลังให้วิหาร และยืนมุงกันอยู่บนหน้ามุขของมัน เพื่อชมและถ่ายรูปการถ่ายทำ
- ครั้งหนึ่ง มีขบวนงานแต่งงานเดินเข้ามาในจัตุรัสเปียซซา เดลลา โรทอนดา ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ขณะที่ผู้สร้างกำลังจัดฉากเตรียมถ่ายทำ ทอม แฮงค์ส ผู้รับบท แลงดอน จึงอาสาช่วยนำทางเจ้าสาวและคุณพ่อของเธอเดินผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ของกองถ่ายไปยังวิหารแพนธีออน ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ถ่ายทำและสถานที่จัดงานแต่งงาน
- บรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คนภายในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการถ่ายทำ เพราะผู้กำกับภาพ ซัลวาโทเร โตติโน เห็นว่านักท่องเที่ยวทำให้บรรยากาศดูสนุกสนาน และผู้สร้างต้องการภาพที่ดูสับสนเร่งด่วนอยู่พอดี เช่น ฉากที่มีระเบิดอยู่ภายในวาติกัน
- ผู้กำกับภาพ ซัลวาโทเร โตติโน ต้องการให้กล้องเคลื่อนไปเรื่อยๆ ในฉากกู้ระเบิดอันสับสนวุ่นวาย เขาจึงใช้เลนส์ที่ยาวกว่าปกติ สเตดิแคม รางและล้อเลื่อนหรือที่เรียกว่า ดอลลี
- ถ่ายทำบางฉากกันที่ปราสาทเซนต์แองเจโล ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี จักรพรรดิเฮเดรียนสร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 128 เพื่อเป็นสุสานของพระองค์เอง ปราสาทแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นคุก ป้อมปราการ และที่ประทับของพระสันตะปาปามาก่อน
- ผู้กำกับภาพ ซัลวาโทเร โตติโน และช่างควบคุมไฟ ราฟาเอล ซานเชส ต้องจัดไฟแบบพิเศษให้รูปปั้นนางฟ้าแต่ละรูปในบริเวณปราสาทเซนต์แองเจโล ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี รวมทั้งจัดไฟที่ตัวปราสาทเองด้วย เพื่อให้ได้ภาพฉากตอนกลางคืนที่ดูกลมกลืนและตระการตา การจัดไฟนี้ช่วยให้การทำงานราบรื่นและเสร็จสิ้นภายใน 2 คืน โดยใช้คืนหนึ่งถ่ายทำที่สะพานและทางเข้า และอีกคืนหนึ่งถ่ายทำที่ระเบียง
- เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงของสมาคมนักเขียนบทภาพยนตร์แห่งอเมริกาเมื่อปี 2007 เรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จออกมาเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ ในตอนนั้นผู้เขียนบท อคิวา โกลด์สแมน เข้าร่วมประท้วงด้วย ทำให้กำหนดการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกเลื่อนออกไป
- เจ้าหน้าที่ของนครรัฐวาติกันไม่อนุญาตให้กองถ่ายเข้ามาทำงานภายในพื้นที่ของพวกเขา ผู้สร้างจึงต้องจำลองฉากจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ขึ้นเอง
- ในฉบับนิยาย เรื่องราวใน Angels & Demons เกิดขึ้นก่อนเรื่องราวใน The Da Vinci Code แต่ในฉบับภาพยนตร์ ผู้สร้างแปลงบทให้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากภาพยนตร์ The Da Vinci Code (2006)
- เดิมผู้สร้างเลือก นาโอมิ วัตตส์ มารับบท วิตตอเรีย เวตรา แต่สุดท้ายผู้ที่ได้รับบทนี้คือ ไอเยเลต ซูเรอร์
- อัลเฟรด โมลินา ซึ่งรับบทเป็น บิชอปอริงกาโรซา ใน The Da Vinci Code (2006) ได้มาบันทึกเสียงวอยซ์โอเวอร์ (เสียงพูดแบบไม่เห็นตัวแสดงในจอ) ในภาพยนตร์ตัวอย่างชุดแรกของเรื่องนี้ด้วย
- ธูร์เยอ ลินด์ฮาร์ดต์ พลาดบท สิลาส ให้กับ พอล เบตตานี ใน The Da Vinci Code (2006) แต่ผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด ก็ชอบการแสดงของ ธูร์เยอ ในระหว่างทดสอบหน้ากล้องมาก รอน จึงเลือกเขามารับบท ร้อยโทชาร์ตรองด์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้
advertisement
วันนี้ในอดีต
Quantum of Solaceเข้าฉายปี 2008
แสดง Daniel Craig, Olga Kurylenko, Mathieu Amalric
The Matrix Revolutionsเข้าฉายปี 2003
แสดง Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Laurence Fishburne
สวย ซามูไรเข้าฉายปี 2009
แสดง โสภิตา ศรีบาลชื่น, แจ็คเกอลิน อภิธนานนท์, เกศริน เอกธวัชกุล
เกร็ดภาพยนตร์
- The Hobbit: The Battle of Five Armies - นักแสดงหลายคนเก็บอุปกรณ์การแสดงกลับบ้านไปด้วยหลังจากถ่ายทำเสร็จ อาทิ มาร์ติน ฟรีแมน ผู้สวมบท บิลโบ เก็บดาบและหูปลอมของตัวเองกลับไป ริชาร์ด อาร์มิเทจ ผู้รับบท ธอริน นำดาบออร์คริสต์กลับ ส่วน ลี เพซ ผู้รับบท ธรันดูอิล นำดาบเอล์ฟไป อ่านต่อ»
- Stonehearst Asylum - สร้างจากเรื่องสั้นเมื่อปี 1844 เรื่อง The System of Doctor Tarr and Professor Fether เขียนโดย เอดการ์ แอลลัน โพ อ่านต่อ»
