วิจารณ์ X-Men Origins: Wolverine
-
maawthai
(เลขที่ 86810)
เมื่อ 4 พ.ค. 52 16:47
ไม่ได้ออกแนวดราม่ามากมาย ความสนุกมันยังมีอยู่ เป็นการอธิบาย 3 ภาคที่แล้วได้อย่างสมบูรณ์ ถึงว่าทำไมภาค1-3 โลแกนถึงปวดหัวบ่อย ชอบ ให้ 10/10
-
below
(เลขที่ 184263)
เมื่อ 4 พ.ค. 52 15:35
ดูแล้วก็ชอบอยู่นะ ตอนที่ในหนังทำเป็นฉากถ่ายมุมสูง อาการมันแบบ วืด... กลัวความสูงขึ้นมาเลย ก็ไม่เสียดายตังค์หรอก เรื่องก็เดินไปได้ดี มีแอบน่าประทับใจอยู่ด้วย
-
Puyu
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 4 พ.ค. 52 14:32
โอเคนะ แต่ฉากต่อสู้จะอลังการน้อยกว่าภาคก่อนๆ แล้วตัวละครเด่นๆจะไม่เยอะเหมือนภาคก่อน สนุกดีค่ะ ไม่เสียดายเงิน ให้ 8/10
-
birdyboy
(เลขที่ 178420)
เมื่อ 4 พ.ค. 52 03:30
คำวิจารณ์จากต่างประเทศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนไปดูก็เลยไม่คาดหวังอะไรมาก แต่ออกจากโรงแล้ว รู้สึกว่าหนังทำได้ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ เนื้อเรื่องอาจจะดูขาดๆเกินๆไปนิดหน่อย แต่มันก็ต่อเข้ากับเนื้อเรื่องของ X-men ได้ดี เอ็ฟเฟ็คก็ถือว่าเยี่ยม(เว้นบางฉากที่ดูแปลกๆ) ดาราก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดี เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ให้ความบันเทิงได้ดีทีเดียว
-
jude
(เลขที่ 45057)
เมื่อ 1 พ.ค. 52 22:25
หนังเริ่มเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนวูฟเวอรีนเป็นเด็กเลย และ อยู่ในช่วงประมาณ 150 ปีก่อน ผ่านชีวิต ทั้งสงครามกลางเมืองในอเมริกา สงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และ สงครามเวียดนาม และ เหตุการณ์หลัก เกิดในช่วงปี70
คนที่เคยดู x-men มาแล้วทั้งสามภาค น่าจะพอเดาออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถัดไป และ เหตุการณ์ทั้งหมดจะไปจบ่ลงที่ตรงไหน
ความสนุก ถ้าเทียบกับx-men ทั้งสามภาค โดยความคิดผม น่าจะอยู่ประมาณภาค1 กับ ภาค3 เพราะเหตุการณ์ยังไม่ลุ้นสนุกเท่าในภาค2 และ ประเด็นในเรื่องก็เอามาจากภาค2 เพราะตัวร้ายคนเดียวกัน แต่อยู่คนละยุค ถือว่าฉากแอ็คชั่น ทำได้ดูสนุก สเปเชียลเอฟเฟค ถือว่าทำได้ดี มีเหตุการณ์พลิกผัน ในช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้รู้สึกว่าเซอร์ไพรส์มากมาย และ ตอนจบยังสามารถ ต่อเรื่องได้กับx-menภาค1 แถมยังมีศาสตราจารย์xavier มารับเชิญให้อีกต่างหาก
ถือว่าทำออกมาได้ดูสนุก แฟนx-men ไปดูได้เลยครับ น่าจะไม่ผิดหวัง และ ตอนท้าย อย่าพึ่งลุกไปไหน รอจนจบend credit ก่อนครับ มีฉากที่สามารถต่อเรื่องไปถึง x-men origins :wolverine ภาค 2 ได้ครับ ซึ่งถ้าใครเคยอ่านหนังสือการ์ตูน เกี่ยวกับ wolverine น่าจะพอเดาออกว่าเหตุการณ์หลังจากนี้ ก่อนจะไปต่อกับ x-men ภาค 1 wolverine จะไปทำอะไรต่อในช่วง20 ปีนี้
ให้คะแนน 8 เต็ม 10 ครับ
ปล. ผมเป็นแค่คนที่ดูหนังคนหนึ่ง รสนิยมความชอบของการดูหนังแต่ละคนย่อมแตกต่างกันตาม นิสัย ใจคอ ประสบการณ์ในการดูหนัง ดังนั้น ไม่แปลกเลยที่ความคิดเห็นจะไม่ตรงกับเพื่อนบางท่าน แต่ผมก็ไม่เคยวิจารณ์ ผู้วิจารณ์หนังคนอื่น เพราะ ผมคิดว่า ความชอบคนเราต่างกัน เหมือน การชอบรสไอศครีม บางคนชอบรสช็อคโกแลต บางคนชอบวนิลา ดังนั้น จึงไม่มีใครผิดถูก ดังนั้นถ้าอ่านที่ผมเขียนแล้วไม่ตรงใจไม่ชอบ เพื่อนก็ลองแสดงเหตุผลมาว่าชอบหนังเรื่องนั้นอย่างไร และตรงไหน ไม่ใช่วิจารณ์คนอื่น เพราะบอร์ดนี้ เราควรมาวิจารณ์หนังกัน แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกัน ไม่ใช่ มาวิจารณ์คนวิจารณ์หนังกันเอง -
kelene
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 พ.ค. 52 21:56
ผมว่ารวมๆ มันก็ดีนะครับให้ 7.5 อ่ะ
แต่ผมว่าถามว่ามันส์มั้ย มันส์นะ แต่ไม่ถึงจุดที่จะบอกว่ามันส์มากว่ะนายควรไปดู ก็แบบโอเคไม่แย่ แต่ก็ใช่ว่าจะดีเด่นอะไรขนาดนั้น
ถ้าถามว่าดราม่ามากมั้ย ผมก็ตอบว่ามันกึ่มๆน่ะ เนื้อเรื่องดำเนินแบบหนังทั่วไปอะครับขึ้นเรื่องก็รู้ว่าจบยังไง ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นฮีโร่ที่พิเศษแบบพวกแบ็ทแมน หรือดราม่าเท่าเรื่องนั้น ส่วน special effect ก็โอเคครับ สวยดี แต่ก็ยังใช่ว่าจะเนียนกันสุดๆ
ถ้าเทียบกับภาคเก่าที่เป็น x men แล้ว ผมว่าก็โอเคน่ะ เนื้อเรื่องเบย์ๆ เรื่อยๆ ไม่เสียดายตังครับ แต่ใช่ว่าจะคุ้มซะสุดๆ -
SouL_SlaYer
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 พ.ค. 52 20:05
ชอบมากกกกกกก
ทั้งหนัง ทั้งพระเอก
เอาไป 9/10 -
yukinbc
(เลขที่ 53292)
เมื่อ 1 พ.ค. 52 19:28
สนุกดี หนังซุปเปอร์ฮีโร่ มันต้องมันส์ๆแบบนี้สิ ถึงจะสะใจคนดู
-
Lovebucks..
(เลขที่ 97956)
เมื่อ 1 พ.ค. 52 18:39
ก็ดีครับ แต่ภาคนี้ดราม่าหนักมากๆ ทำให้เดินเรื่องช้า
-
alien
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 1 พ.ค. 52 16:40
แฟนพันธ์ x ย่อมไม่น่าพลาดครับ มันส์แน่นอน มีหักมุมด้วย 9/10
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- เขาชนไก่เข้าฉายปี 2006 แสดง วศิษฎ์ ผ่องโสภา, ทวีรัตน์ จุลศิริ, อภิพล ตรีเทวะวงษา
- เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเข้าฉายปี 2006 แสดง มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, แอนดี้ เขมภิมุก
- Happy Feetเข้าฉายปี 2006 แสดง Robin Williams, Hugh Jackman, Elijah Wood
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
777 นะชาลีติ เรื่องราวของ ป๊อบ (โชตณภร บวรมหาบุญบารมี) ที่ได้ตั้งจิตอธิฐาน จะมอบพระสีวลี ให้วัดทั่วประเทศไทย หลังจากเสร็จพิธีสมโภช ช...อ่านต่อ»