SIAMZONE.COM

ดูภาคแรกแล้วผมไม่ดูภาคนี้แน่ๆ

ก็ เล่นคิดได้ไง เนี้ย ก็ ฮา ฮา บวม บวม ดี นะ
อืม ก็ ดูก็ได้ไม่ดู ก็ได้ นะ เรื่อง (สำหรับตัวเรา)

หนัง มันส์ ดี แต่จะเอาอะไรกับหนังแอ็คชั่นละครับ

เป็นหนังที่เราไม่ชอบเป็นอย่างมาก
ดูแล้วรู้สีกเสียดายเงิน

ถ้าพูดถึงความตลกของหนัง ต้องบอกว่า ฮามาก
แต่ดูไปแล้วรู้สึกว่า หนังมันต้องการสื่ออะไรกับคนดูกันแน่

ยังไม่ดีเท่าที่ควร ให้ 5 เต็ม 10

หนังเรื่องนี้เป็นหนังเฉพาะกลุ่มจริงๆ เพราะความ Cult ที่ไม่ปรานีปราศัยของสองผู้กำกับนี้ มันมากกว่าภาคแรกหลายเท่านัก จึงไม่แปลกใจที่จะมีเสียงด่าของคนที่ไม่เคยดูหนังประเภทนี้อย่างหนาหู

ส่วนตัวผม ถึงแม้หนังมันจะเว่อร์ จะเพี้ยน จะสติแตกหรืออะไรก็ตามแต่ หนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่หนังห่วยแต่อย่า่งใด ถึงแม้หลายๆอย่างในหนังจะเหมือนกับเป็นอย่างนั้น แต่เพราะความ Cult ของมัน จึงทำให้ผมดูสนุกกับมันได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

สรุป หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร เป็นหนังที่พอดูได้อย่างไม่น่าเบื่อ


7/10 ก็พอ

ถ้าอยากหาความแปลกใหม่ใส่ชีวิต และอยากสัมผัสความ Cult ละก็
ทำใจให้กว้าง แล้วหาหนังเรื่องนี้มาดูนะ ดูเอามันส์
ป.ล.ควรหาภาค 1 มาดูก่อนน่ะ

Crank : High Voltage

หนังบ้าพลัง และความมันส์แบบ Non-Stop สม Concept ที่พวกเขาตั้งไว้
ใครที่เคยดูภาคแรกคงจะชอบความแปลกใหม่ สิ่งแปลกใหม่ต่างๆในหนัง และอีกมากมาย จนทำให้หนังธรรมดาเรื่องหนึ่งฮิตขึ้นมา
จนต้องเข็นภาคสองตามกันมา ซึ่งภาคแรกถือว่าเป็นอะไรที่เจ๋งและยากที่จะหาหนังบ้าและเจ๋งมาเทียบ ไม่เว้นแม้แต่ภาคต่อของตัวเอง!!

ใช่แล้ว ภาคนี้แม้จะมันส์ขึ้น ฮาขึ้น โหดขึ้น แต่เนื้อเรื่องไม่กลมกล่อมเหมือนแต่ก่อน
ไหนจะบทของแฟนพระเอก ที่ภาคนี้บทน้อยลงแล้วยังไม่เด่นเหมือนตอนภาคแรกด้วยซ้ำ
และที่สำคัญดราม่าแบบฉบับของเขาที่เคยมีในตอนท้าย ภาคนี้กลับไม่มีเลยสักนิด
ดราม่าฉากสุดท้ายของภาคแรกนั้นทำให้เราเห็นใจในการกระทำของพระเอกที่ทำมา
และสร้างความเห็นใจและไม่อยากให้เขาต้องตาย แต่พอมาภาคนี้มันเหมือนกับการดูการไล่ฆ่าธรรมดา
ซึ่งออกจะจืดไปนิด ซึ่งภาคนี้หากเปรียบเทียบคงได้กับ ผู้ชายหน้าตาดี มีฐานะ แต่ไม่มีเสน่ห์และแต่งตัวไม่เป็นเลยครับ

เรียกได้ว่าผู้กำกับยังคงมีความ Cult สูงเช่นเคยในภาคต่อพลังแรงสูงเรื่องนี้ หลังจากที่ภาคแรกสร้างปรากฏการณ์ความแปลกใหม่ให้กับวงการภาพยนตร์ด้วยการยัดเทคนิคเจ๋งๆต่างไว้ในเรื่องเดียว

ในภาคต่อนี้ก็เช่นกันผู้กำกับคงยังใส่เทคนิคพิศดาลขั้นเทพสุด Cult ที่หาดูได้ยาก แต่ที่เด็ดสุดคงเป็นการจับเอาเทคนิคการถ่ายทำหนังญี่ปุ่นอย่าง GodZilla มายำใส่ในหนังที่เรียกว่าฮากระจาย(ความ Cult+Creativeพุ่งกระฉูด)

มาว่ากันที่เนื้อเรื่องตัวหนังยังคงดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้วแบบวิต่อวิด้วยเนื้อเรื่องที่เว่ออยุ่แล้วทำให้อะไรก็เป็นไปได้ในเรื่องนี้ แทนที่พระเอกเราจะตายตั้งแต่ภาคที่แล้วจากการตกคอปเตอร์ แต่ดันโชคดีหรือซวยถูกพักฟืนซะนี่ ช่วงพักฟื้นสั้นๆนี่เหมือนเป็นการให้คนดูเตรียมตัวก่อนที่จะพบกัยการกนํ่าความมันส์แบบไม่ยั้งที่เรียกว่าเยอะและแน่นกว่าภาคแรกเป็นเท่าตัว กับภารกิจตามล่าหาหัวใจ ที่ระหว่างทางต้องหาไฟมาจั้มใส่ตัวเองเพื่อให้หัวใจเทียมทำงานต่อไปได้ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี่นำพาเราไปสู่ความเป็น Action Non Stop หยุดไม่อยู่จริงๆ แน่นอนครับว่าเนื้อเรื่องไม่สนเพราะหนังมีแกนหลักอย่างเดียวคือตามล่าเอาหัวใจคืนและระหว่างทางพระเอกของเราก็จะเจออะไรบ้าบอมากมาย แบบที่เรียกว่าเดาไม่ออกจริงๆ...

แต่หนังก็มีข้อเสียตรงที่ว่าการเล่นมุก และ ฉากแอ็คชั่น ดูไม่กลมกล่อมเท่าภาคแรกนักอะไรมันดูขาดๆเกินๆไปหน่อย แต่ข้อดีคือหนังไม่ทิ้งตัวละครจากภาคที่แล้วเลยแม้แต่ตัวเดียว (บุรุษพยาบาลผู้โชคร้ายก็ไม่เว้น) แถมยังมีเซอร์ไพรซ์ในตอนท้ายด้วย!!!

อีกจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือตัวละครที่อยู่ในขั้นหลุดโลกสร้างมาสร้างสีสันสุดฉูดฉาดและเสียงฮาได้อย่างดีโดยเฉพาะตัวละครของ ไป่หลิง ที่เรียกได้ว่าเธอทุ่มสุดตัวกว่าครั้งในไหนๆในอาชีพนักแสดงเลยทีเดียว

ผมให้ B หรือ 7.5/10 กับความเจ๋งและเก๋าที่อาจจะไม่เท่าภาคแรกแต่ก็แหวกแนวกว่าเรื่องไหนๆ (ภาคแรกให้ A หรือ 8.5/10)

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น หนังโหด ห่วย คือ คำจำกัดความของหนังเรื่องนี้ หนังไม่มีเนื้อเรื่องอะไรเลย เหมือนกับการเล่นเกมส์แอ็คชั่นสักเรื่องหนึ่ง ที่ให้ตัวเอกสู้ๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงด่านสุดท้าย แล้วก็จบเกมส์โดยไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ไม่มีอะไรเกินคาดเดา เหมือนหนังแอ็คชั่นเกรดซี ที่ควรจะลงแผ่นไปเลยด้วยซ้ำ

หนังอาศัยบารมีความสำเร็จ จากภาคแรก ทั้งดุ้น ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ ตัวละคร อารมณ์ขันแบบร้ายๆ มุขใต้สะดือ ที่ดูจะฝืดไปแล้ว ทั้งการทุบเป้ากางเกง การใช้ปืนยาวเสียบรูก้น การมีอะไรกันต่อหน้าฝูงชน ทำให้หนังไม่มีอะไรใหม่

ส่วนสถานการณ์ก็เป็นการตามเอาหัวใจแท้ๆ คืน โดยมีสถานการณ์ ที่หัวใจเทียมต้องการไฟมาชาร์จเรื่อยๆ ทำให้พระเอกมีพลังมหาศาลเหนือมนุษย์

แต่หนังก็ไม่มีอะไรเลย มีแต่ฉากยิงกัน ฆ่ากันตลอดทั้งเรื่องอย่างไร้เหตุผล แถมฉากที่มีอะไรกันก็ถูกตัดจนหมด ฉากแอ็คชั่นก็ยิงกันธรรมดา ไม่มีอะไรให้ลุ้นเหมือนหนังแอ็คชั่นเรื่องอื่น ซึ่งเทียบไม่ได้กับ transporter ผลงานของเจสัน ก่อนหน้านี้ พอถึงบทจะจบก็จบเอาดื้อๆ แถมจะทิ้งท้ายให้กลับมาในภาค3 อีก

ถ้าไม่ชอบภาคแรก คุณจะเกลียดภาคนี้มากกว่าภาคแรกหลายเท่า เพราะภาคนี้แย่กว่ามากๆ ถ้ามีตัวเลือกอื่น ควรไปดูเรื่องอื่นดีกว่า เช่น fast and furious โปรดักชั่น และ บทดีกว่าเรื่องนี้จมเลย เหตุผลถ้าจะดูเรื่องนี้มีเพียง หนังแอ็คชั่นห่วยๆ เป็นแบบไหน

ให้คะแนน 1 เต็ม 10 (ไม่อยากจะให้เลยนะเนี่ย เพราะ 1 คะแนนยังมากไปสำหรับหนังเรื่องนี้) ไม่แนะนำให้ไปดูอย่างยิ่ง ขออย่าให้สร้างภาค 3 อีกเลยนะเจ้าพระคู้น ลาแล้วลาลับ สาปส่งเลย

ตลกนะ แต่ ไร้สาระดีจัง - -"