เกร็ดน่ารู้จาก Dragonball Evolution

เกร็ดน่ารู้
  • เบน แรมเซย์ เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้โดยดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนเรื่องดัง Dragonball ที่เขียนโดย อากิระ โทริยามา และตีพิมพ์โดย เดอะ โชเนน จัมป์ คอมิกส์ กลุ่มบริษัทสิ่งพิมพ์ในเครือ ชูเออิฉะ จากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้โด่งดังจนถูกนำมาสร้างเป็นวิดีโอเกมและภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวทางโทรทัศน์
  • อำนวยการสร้างโดย โจวซิงฉือ หรือ สตีเวน ชาว นักแสดงจากฮ่องกง ที่เคยมีประสบการณ์ทั้งกำกับ เขียนบท และอำนวยการสร้างภาพยนตร์ นอกจากนี้ อากิระ โทริยามา ผู้สร้างสรรค์การ์ตูน Dragonball ได้มารับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างบริหารด้วย
  • ผู้สร้างเปิดกว้างต่อนักแสดงทุกเชื้อชาติ โดยคัดตัวแสดงทั้งในนิวยอร์กและลอสแอนเจลิสของสหรัฐอเมริกา แวนคูเวอร์ในแคนาดา ลอนดอนในอังกฤษ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ผลก็คือคณะนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติ อาทิ จัสติน แช็ตวิน ชาวแคนาดา ในบท โงคู, เอริโกะ ทามุระ ชาวญี่ปุ่น ในบท มาอิ, ปาร์กจุนฮยอง หรือ จุน ปาร์ก ชาวเกาหลี ในบท หยำฉา, โจวรุ่นฟา ชาวฮ่องกง ในบท ผู้เฒ่าเต่า เป็นต้น
  • ขณะที่ผู้ชื่นชอบการ์ตูน Dragonball ต่างคุ้นตากับทรงผมแหลมชี้ของ โงคู พระเอกของเรื่อง แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จัสติน แช็ตวิน ผู้รับบท โงคู จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงทรงผมไปเรื่อยๆ สอดรับกับเรื่องราวที่ดำเนินไป
  • โจวรุ่นฟา ไม่ได้มีลักษณะภายนอกเหมือน ผู้เฒ่าเต่า ตัวละครที่เขารับบทเลยแม้แต่น้อย เนื่องจาก ผู้เฒ่าเต่า ในการ์ตูนเป็นชายชราร่างเตี้ย หลังค่อม ศีรษะโล้น มีหนวด และสวมแว่นตา อย่างไรก็ตาม โจวเหวินฟะ เป็นผู้เสนอความคิดให้ตนเองใส่คอนแทกเลนส์สีเทา เพื่อเสริมบุคลิกคนชราที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้าน
  • โจวรุ่นฟา เตรียมพร้อมสำหรับการรับบทเป็น ผู้เฒ่าเต่า ด้วยการฝึกออกกำลังกายแบบไทชิ และทำสมาธิเป็นประจำ ตลอดเวลาที่อยู่ในช่วงถ่ายทำ
  • เอ็มมี รอสซัม ผู้รับบท บูลม่า ต้องเรียนวิธีการขับขี่รถจักรยานยนต์รุ่นเฉพาะของ บูลม่า ซึ่งผู้สร้างดัดแปลงมาจากรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮาร์เลย์
  • เดิมผู้สร้างตั้งใจทำให้ตัวละครมีลักษณะเหมือนในการ์ตูนให้มากที่สุด จึงให้นักแสดงย้อมผม ต่อผม และสวมผมปลอม แต่หลังจากนั้นพวกเขาเปลี่ยนใจมาถ่ายทำโดยเน้นความสมจริง เอ็มมี รอสซัม ผู้รับบท บูลม่า จึงไม่ได้ไว้ผมบ๊อบสีฟ้าเหมือนในการ์ตูน เพียงแค่ย้อมปอยผมกระจุกหนึ่งเป็นสีฟ้า และเสริมสีฟ้าและม่วงเข้าไปในเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
  • ที่ปรึกษาด้านวิชวลเอฟเฟกต์ แอเรียล เวลาสโก ชอว์ นำเทคนิคการถ่ายภาพที่เรียกว่า มุมหมัด ซึ่งบริษัท ไอคอนิกซ์ คิดค้นขึ้นมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นคือการนำกล้องขนาดเล็กจิ๋วไปติดไว้กับกำปั้นของนักแสดง เพื่อใช้ถ่ายทำฉากที่ดูเสมือนว่าตัวละครปล่อยหมัดเปรี้ยงเข้าเต็มๆ หน้าของผู้ชม ซึ่งเป็นมุมกล้องที่เป็นที่นิยมในฉบับการ์ตูน
  • ในฉากต่อสู้หลายฉาก ผู้กำกับภาพ โรเบิร์ต แมกล็อกแลน ใช้เทคนิคการถ่ายทำภาพดิจิตอลความเร็วสูงผ่านกล้อง แฟนทอม เพื่อสร้างภาพช้าพิเศษ หรือซูเปอร์สโลว์โมชัน ซึ่งมีความละเอียดของภาพสูงถึง 1,000 ภาพต่อวินาที ความช้าระดับนี้สามารถถ่ายทำภาพลูกโป่งใส่น้ำที่ถูกเข็มเจาะแตก แล้วน้ำในลูกโป่งยังคงเกาะตัวกันเป็นทรงกลมอยู่ระยะหนึ่งได้
  • ก่อนเปิดกล้องราว 6 สัปดาห์ จัสติน แช็ตวิน ต้องฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว และจังหวะการต่อสู้กับบริษัท 87อีเลเวน อย่างน้อยวันละ 5 ชั่วโมง ทั้งคาราเต้ กังฟู คาโปอิรา และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของบราซิล นอกจากนี้เขายังต้องเข้าหลักสูตรเตรียมความพร้อมด้านโภชนาการ โดยงดบริโภคน้ำตาล ข้าวสาลี และพาสตา ยาวนานไปถึงตลอดช่วงที่ถ่ายทำ
  • แจ็กสัน สไปเดลล์ ทำหน้าที่เป็นตัวแสดงแทนของ จัสติน แช็ตวิน ในบท โงคู ในฉากท่าต่อสู้ยากๆ รวมทั้งท่าตีลังกากลางอากาศแล้วบิดตัวครึ่งรอบ ก่อนจะพลิกตัวลงแข้งใส่คู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นลีลาเลื่องชื่อของ แจ็กสัน นั่นเอง
  • ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวที่ เจมี ชุง ต้องฝึกเพื่อรับบทเป็น จีจี้ นั้น ได้แก่ ลีลาการเตะต่อย คาราเต้ มวยไทย รวมถึงกังฟูที่ใช้ในฉากที่เธอต้องแสดงเป็นศัตรูที่แปลงร่างเป็น จีจี้ มาต่อสู้กับ จีจี้ ตัวจริง
  • ในฉากที่ โงคู ซึ่งรับบทโดย จัสติน แช็ตวิน และคุณปู่ โงฮัง ซึ่งรับบทโดย แรนแดลล์ ดุก คิม ฝึกวิทยายุทธกันบนราวตากผ้าซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินหลายฟุตนั้น ต้องใช้สลิงถึง 5 ตัว นักแสดงแทนและผู้ดูแลความปลอดภัยอีก 11 คน
  • ใช้เวลา 10 วันในการถ่ายทำฉากต่อสู้ที่วิหารมังกรระหว่าง โงคู ซึ่งรับบทโดย จัสติน แช็ตวิน กับ พิคโกโร่ ซึ่งรับบทโดย เจมส์ มาร์สเตอร์ส ทั้ง จัสติน และ เจมส์ ต้องใช้สลิงแสดงท่ากระโดดขึ้นสูงจากพื้นกว่า 20 ฟุต บินไปตามแง่งหินที่อยู่รอบๆ วิหาร แสดงท่าประมือกันกลางอากาศหน้าฉากสีเขียว ก่อนผู้สร้างจะนำภาพไปตัดต่อกับภาพจากคอมพิวเตอร์ในภายหลัง
  • ท่าต่อสู้ท่าสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการปล่อยพลังคิ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักปรัชญาตะวันออก ว่าด้วยการผนึกกำลังแล้วปล่อยพลังออกมาจากช่องอก ทำให้อากาศรอบๆ ตัวบิดผัน ก่อนจะปล่อยพลังซัดเข้าใส่คู่ต่อสู้ พลังคินี้จะแกร่งกล้ายิ่งขึ้นเมื่อได้พลังของจักรวาลเข้ามาสู่ตัวของผู้ฝึกที่มีทักษะชั้นสูง ซึ่งพลังคิขั้นสุดยอดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือท่าไม้ตายของ โงคู ที่รับบทโดย จัสติน แช็ตวิน เรียกว่าท่า คาเม-ฮาเม-ฮา หรือ พลังคลื่นเต่าสะท้านฟ้า นั่นเอง
  • เริ่มเปิดกล้องกันในเม็กซิโก ซิตี ของประเทศเม็กซิโก และถ่ายทำที่นี่เป็นเวลา 6 วัน ทั้งฉากโรงเรียนมัธยมศึกษาเอกชน ซึ่งมีทั้งห้องเรียน ลานจอดรถ และทางเดินในอาคาร ฉากบ้านในย่านชุมชนหรูหรา และฉากเมืองเปาซู ที่มีกระท่อมของ ผู้เฒ่าเต่า ที่รับบทโดย โจวเหวินฟะ ตั้งอยู่ท่ามกลางอาคารสูงเสียดฟ้า
  • ผู้สร้างถ่ายทำฉากสถานที่ฝึกวิทยายุทธลับสุดยอด ทอยซาน กันบนเทือกเขาหินผาสูงใหญ่ที่ห่างไกลผู้คน ในเมืองเม็กซิคิลโล ประเทศเม็กซิโก ผู้มีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวจากเมืองดูแรงโกกว่า 200 ชีวิตมาร่วมเข้าฉากเป็นนักแสดงสมทบ
  • อุปสรรคสำคัญของการถ่ายทำฉากทอยซาน ที่เทือกเขาในเมืองเม็กซิคิลโล ประเทศเม็กซิโกคือสภาพอากาศอันแปรปรวน โดยช่วงเช้ามีอากาศหนาวเหน็บถึง 30 องศาฟาเรนไฮต์ แต่ช่วงบ่ายกลับมีอุณหภูมิร้อนแรงขึ้นไปถึง 80 องศาฟาเรนไฮต์ อีกทั้งยังมีพายุฝุ่นกรรโชกแรงเป็นครั้งคราวอีกด้วย
  • ฉากหลังของการเดินทางไปยังถ้ำร้าง อันเป็นที่พำนักของ หยำฉา ซึ่งรับบทโดย ปาร์กจุนฮยอง หรือ จุน ปาร์ก คือ ดอนทรายขนาดมหึมาที่เรียกว่า ลาส ดูนาส เดอ บิลเบา อยู่ทางตอนเหนือของเมืองดูแรงโก ประเทศเม็กซิโก
  • เจมส์ ไคสัน ลี เข้ามาทดสอบบท หยำฉา แต่สุดท้ายผู้ที่ได้รับบทนี้ไป คือ ปาร์กจุนฮยอง หรือ จุน ปาร์ก
  • รอน เพิร์ลแมน ได้รับข้อเสนอให้มาแสดงเป็น พิคโกโล่ แต่เขาปฏิเสธ และไปแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Hellboy II: The Golden Army (2008) ผู้ที่มารับบท พิคโกโล่ แทนเขา คือ เจมส์ มาร์สเตอร์ส
  • ผู้อำนวยการสร้าง โจวซิงฉือ หรือ สตีเวน ชาว ชื่นชอบการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball มาก เดิมเขาอยากรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจอำนวยการสร้างเพียงอย่างเดียว เพราะเขาต้องการกำกับแต่ภาพยนตร์ที่เขาคิดเรื่องขึ้นเองเท่านั้น
  • ผู้อำนวยการสร้าง โจวซิงฉือ หรือ สตีเวน ชาว, เจมส์ มาร์สเตอร์ส ผู้รับบท พิกโกโล และ เจมี ชุง ผู้รับบท จีจี้ เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนโทรทัศน์ Dragon Ball (1986)
  • เดิมช่างแต่งหน้า เอ็ดเวิร์ด เฟรนช์ ใช้เวลา 17 ชั่วโมงในการติดอวัยวะเทียมให้ เจมส์ มาร์สเตอร์ส กลายเป็น พิคโกโร่ แต่การแต่งหน้านั้นดูมากเกินไปและทำให้ เจมส์ หายใจลำบาก เอ็ด จึงนำอวัยวะเทียมบางส่วนออก ทำให้ภายหลังเขาใช้เวลาแต่งหน้า เจมส์ เพียง 4 ชั่วโมงต่อครั้ง
  • ผู้กำกับ เจมส์ หว่อง ต้องการให้เพลงประกอบหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาษาญี่ปุ่นที่ร้องโดยชาวญี่ปุ่น เพราะ Dragonball มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เขาจึงออกปากชวนให้นักร้องเพลงป๊อป อายูมิ ฮามาซากิ มาแต่งและร้องเพลงดังกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่ง เจมส์ ก็พอใจกับเพลง Rule ของ อายูมิ มาก จึงตั้งใจจะให้เพลงนี้อยู่ในภาพยนตร์ทุกๆ ฉบับ ไม่ว่าจะออกฉายในประเทศใด
  • ทอม เวลลิง เกือบได้รับบท โงคู แต่สุดท้ายบทนี้ตกเป็นของ จัสติน แช็ตวิน
  • ค่ายภาพยนตร์ ฟ็อกซ์ ได้ลิขสิทธิ์สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มานานแล้ว แต่กลับเก็บเงียบไว้เฉยๆ หลายปี จากนั้นการประท้วงของสมาคมนักเขียนบทเมื่อปี 2007-2008 ก็บีบให้บริษัทอนุมัติการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เช่นเดียวกับเรื่อง The X Files: I Want to Believe (2008)
  • จัสติน แช็ตวิน เตรียมตัวรับบท โงคู โดยอ่านหนังสือการ์ตูนชุด Dragon Ball และอ่านนิยายจีน The Journey to the West หรือ สามก๊ก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ อากิระ โทริยามา เขียนการ์ตูน Dragon Ball นอกจากนี้เขายังต้องปรับบุคลิกให้ขี้เล่นเหมือนเด็ก โดยการเล่าเรื่องตลกให้เพื่อนนักแสดงฟังขณะพักการถ่ายทำในกองถ่าย ซึ่งช่วยให้ทุกคนปรองดองกันมากขึ้น
  • เดิม เจมี ชุง ต้องการรับบท บูลม่า และมาเข้าร่วมคัดตัวนักแสดงด้วย แต่เธอก็ยอมรับว่า เอ็มมี รอสซัม เหมาะสมกับบท บูลม่า ที่สุดแล้ว ในขณะที่เธอโยกไปรับบทเป็น จีจี้ แทน
  • เอ็มมี รอสซัม เตรียมตัวรับบท บูลม่า โดยศึกษาผลงาน Dragon Ball ฉบับเก่าๆ ทั้งการ์ตูนโทรทัศน์และหนังสือการ์ตูน
  • ปาร์กจุนฮยอง หรือ จุน ปาร์ก ยอมรับว่าเขาไม่คิดว่าจะได้รับบท หยำฉา เพราะตนไม่ได้โด่งดังในประเทศสหรัฐอเมริกา เขาจึงมาคัดตัวโดยสวมหมวกและกางเกงขาสั้น และไม่ได้เตรียมอะไรมาเป็นพิเศษเลย
  • อากิระ โทริยามา ผู้สร้างการ์ตูน Dragon Ball ชื่นชอบนักแสดงฮ่องกง เฉินหลง หรือ แจ็กกี ชาน มาก เขาจึงให้ตัวละคร ผู้เฒ่าเต่า มีฉายาว่า แจ็กกี ชุน และเมื่อมีการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาก็อยากให้ เฉินหลง มารับบทเป็น ผู้เฒ่าเต่า แต่ต้องผิดหวัง เพราะ เฉินหลง ติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องอื่น จากนั้นผู้สร้างก็ได้ โจวรุ่นฟา มารับบทนี้แทน
  • ในภาพยนตร์ บูลม่า ซึ่งรับบทโดย เอ็มมี รอสซัม สวมเสื้อผ้าสีดำและม่วง ซึ่งเป็นสีเดียวกับเสื้อผ้าของ ทรังก์ส ลูกชายของ บูลม่า ในการ์ตูนโทรทัศน์ภาค Dragon Ball Z
  • ฉากที่ยานแคปซูลของ บูลม่า ซึ่งรับบทโดย เอ็มมี รอสซัม เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นรถจักรยานยนต์ มีเสียงประกอบอันโด่งดังจาก Transformers ดังขึ้น Transformers นี้เป็นการ์ตูนชุดที่โด่งดังในญี่ปุ่นช่วงยุค 80 เช่นเดียวกับ Dragon Ball
  • เดิมผู้สร้างจะตั้งชื่อภาพยนตร์แบบเรียบง่ายว่า Dragonball แต่ภายหลังเติมคำว่า Evolution เข้ามา เพื่อบ่งบอกว่าภาพยนตร์มีบางอย่างแตกต่างไปจากฉบับการ์ตูน
  • ในการ์ตูน Dragon Ball ภาคแรก ซึ่งเป็นต้นแบบของภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครหลัก โงคู ยังคงเป็นเพียงเด็กชายวัย 11 ปี แต่ผู้สร้างต้องการให้ภาพยนตร์ดูมีเหตุผลและเข้มข้นขึ้น พวกเขาจึงเปลี่ยน โงคู เป็นวัยรุ่น โดยให้ จัสติน แช็ตวิน เป็นผู้แสดง
  • ผู้สร้างพยายามลดจำนวนตัวละครให้น้อยที่สุด เพื่อให้เรื่องราวกระชับและให้ตัวละครหลักชัดเจนโดดเด่น จึงมีการตัดตัวละครบางตัวออกไปจากเนื้อเรื่อง ได้แก่ เทนชินฮัง และ คุริลิน รวมถึงตัวละครที่เป็นสัตว์อย่างหมูชื่อ อูลอน และสัตว์รูปร่างคล้ายแมว ปูอัล เพื่อให้ภาพยนตร์ดูสมจริงขึ้น
  • โงคู ในการ์ตูน สวมเสื้อคลุมสีส้มอยู่เสมอ แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ จัสติน แช็ตวิน ที่รับบท โงคู เปลี่ยนมาสวมเสื้อคลุมสีเข้ม แบบเดียวกับที่นักเรียนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวทั้งหลายสวมกันในญี่ปุ่น เพราะผู้สร้างต้องการความสมจริง
  • ในโอกาสที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในทวีปอเมริกาเหนือ บริษัท โทเอะ แอนิเมชัน จึงจัดฉายการ์ตูน Dragon Ball Kai ทางสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2009 Dragon Ball Kai นี้คือการนำการ์ตูนชุด Dragon Ball Z ที่มีความยาว 200 ตอน มาย่อให้เหลือ 100 ตอน และปรับปรุงภาพและเสียงใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล
  • มีฉากหนึ่งที่ เอ็มมี รอสซัม ผู้รับบท บูลม่า ต้องขับรถจักรยานยนต์บนกองทรายหนา 4 ฟุต ด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก เพราะรถจักรยานยนต์ยุบตัวลงไปในทรายจนต้องหยุดถ่ายทำเพื่อดึงรถขึ้นมาบ่อยครั้ง
  • ผู้อำนวยการสร้าง โจวซิงฉือ หรือ สตีเวน ชาว อยากให้ คิตตี จางหยีฉี มารับบทเป็น จีจี้ แต่สุดท้ายแล้ว บทนี้ตกเป็นของ เจมี ชุง

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • แจ๋วแจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
  • TRON: LegacyTRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
  • รักที่รอคอยรักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ

เกร็ดภาพยนตร์

  • Life Partners - คริสเตน เบลล์ ถูกวางตัวให้มารับบท ซาชา แต่จำเป็นต้องถอนตัวเพราะตั้งครรภ์ อีวาน ราเชล วูด จึงเป็นนักแสดงคนถัดไปที่จะเข้ามารับบทนี้แทน แต่ อีวาน ก็ตั้งครรภ์เช่นกันจึงต้องถอนตัวออกไปอีกคน ภายหลังบทนี้ก็ได้ เลห์ตัน มีสเตอร์ มาแสดงในที่สุด อ่านต่อ»
  • Pitch Perfect 2 - รีเบล วิลสัน ผู้รับบท แฟต เอมี อยากให้นักร้อง เดมี โลวาโต มารับบทสมาชิกวง เบลลาส์ แต่ตอนนั้น เดมี อยากทุ่มเทให้กับผลงานเพลงและการเดินทางแสดงคอนเสิร์ตมากกว่า อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Long Walk The Long Walk เรื่องราวของชายวัยกลางคน ใช้ชีวิตท่ามกลางความแร้นแค้นในชนบทของประเทศลาว และมักเหลือบเห็นวิญญาณของหญิงสาวนางหนึ่ง ที่เขา...อ่านต่อ»