เกร็ดน่ารู้จาก Doubt
เกร็ดน่ารู้
- เหตุผลที่ผู้กำกับและผู้เขียนบท จอห์น แพทริก แชนลีย์ เลือกเหตุการณ์นักบวชถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดลูกศิษย์มาใช้เป็นโจทย์ในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เป็นเพราะเขาต้องการให้ปมในเรื่องเป็นสถานการณ์สุดขั้วที่คนส่วนใหญ่มักไม่ลังเลในการประณามผู้ผิด เพราะ จอห์น ต้องการตั้งคำถามว่า เราจะมั่นใจอะไรได้โดยไม่เคลือบแคลงเลยจริงหรือ
- จอห์น แพทริก แชนลีย์ เขียนบทละครเวทีและบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากประสบการณ์วัยเด็กของเขา ที่เติบโตมาในโรงเรียนวัดนิกายคาธอลิกอันเข้มงวดในย่านบรองซ์ ที่เต็มไปด้วยชนชั้นแรงงานชาวไอร์แลนด์ เขาออกแบบตัวละครในเรื่องจากคนที่เขาเคยรู้จัก และยังนำบรรยากาศการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในยุค 60 มาสอดแทรกลงไปด้วย
- เหตุการณ์ในภาพยนตร์เกิดในยุค 60 อันเป็นยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการเสียชีวิตของประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ในปี 1964 ส่งผลให้ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันต่างๆ สั่นคลอน และทำให้เกิดการรณรงค์สิทธิพลเมือง นอกจากนี้องค์สันตะปาปาจอห์นที่ 23 ยังปฏิรูปวงการศาสนาไปมากมาย ทำให้โบสถ์ทันสมัยและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยยกเลิกพิธีรีตองที่เป็นทางการหรือเคร่งครัดมากเกินไปเสีย
- บทประพันธ์เรื่องนี้ของผู้กำกับและผู้เขียนบท จอห์น แพทริก แชนลีย์ เผยแพร่ครั้งแรกในรูปของละครเวที ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2004 จากนั้นก็กลายเป็นละครบรอดเวย์ โดยเปิดตัวที่โรงละคร วอลเตอร์ เคอร์ ในปี 2005 ก่อนจะได้รับความนิยมไปทั่วโลก แล้วในที่สุดก็กลายมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้
- ผู้กำกับและผู้เขียนบท จอห์น แพทริก แชนลีย์ นำบทละครเวทีเรื่องนี้ของตนมาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ โดยเพิ่มความสมจริงและความไร้ระเบียบเข้าไป ตามธรรมชาติอันแตกต่างกันของสื่อละครเวทีและภาพยนตร์
- องค์ประกอบที่ผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ อยากจะใส่ลงไปในละครเวทีเรื่องนี้มาตลอด แต่ทำไม่ได้ และได้นำมาใส่ในภาพยนตร์เรื่องนี้แทน คือการถ่ายทอดชุมชนในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของนางชี เด็กนักเรียน และโลกภายนอกในย่านบรองซ์ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมเข้าใจมากขึ้นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นภายในโบสถ์ส่งผลต่อโลกภายนอกอย่างไร
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วยการปะทะคารมของแม่ชี อลอยซิอุส ที่รับบทโดย เมอรีล สตรีป และบาทหลวง ฟลินน์ ที่รับบทโดย ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ทำให้เขียนบทยาก จนผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ ต้องทิ้งบทที่เขียนไปแล้วครึ่งเรื่อง แต่ในที่สุดเขาก็แก้ปัญหาได้ว่าควรเขียนบทโดยคำนึงถึงกล้องและองค์ประกอบภาพเป็นหลัก เช่น ฉากที่บาทหลวง ฟลินน์ เทศน์เรื่องขนนกในหมอน ภาพตัดไปที่ขนนกลอยล่องแทนที่จะจับภาพที่บาทหลวง ฟลินน์
- ผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในย่านที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในวัยเด็ก เขาให้แม่ชีและเพื่อนบ้านที่เขาเติบโตขึ้นมาด้วยกันได้มีส่วนร่วมในการถ่ายทำด้วย เพื่อนสมัยเด็กของเขาหลายคนได้มารับบทเป็นคุณพ่อคุณแม่ในภาพยนตร์เรื่องนี้
- ผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ อุทิศละครเวทีต้นแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับ ซิสเตอร์ส ออฟ ชาริตี ซึ่งเป็นคณะชีที่ดูแลโรงเรียน เซนต์ แอนโธนี โรงเรียนในย่านบรองซ์ที่เขาเคยเข้าเรียน และเป็นต้นแบบของโรงเรียน เซนต์ นิโคลัส ในเรื่องนี้ และเขายังอยากให้พวกเธอมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
- แม่ชี แมรี มาร์กาเร็ต แม็กเอนที หรือ เพ็กกี เคยทำหน้าที่สอนหนังสือผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ ที่โรงเรียน เซนต์ แอนโธนี ในสมัยที่ จอห์น เป็นเด็ก ซึ่ง จอห์น ประทับใจแม่ชี เพ็กกี มาก จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครแม่ชี เจมส์ ซึ่งรับบทโดย เอมี อดัมส์ และ เอมี เองก็ยอมรับว่าแม่ชี เพ็กกี ช่วยให้เธอเข้าถึงบทบาทของตนได้มากขึ้น
- แม่ชี แมรี มาร์กาเร็ต แม็กเอนที หรือ เพ็กกี เข้ามาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์ เธอคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเสื้อผ้าของนักบวช คอยตอบคำถามเรื่องวิถีปฏิบัติและธรรมเนียม รวมทั้งเล่าความทรงจำสมัยที่เธอสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน เซนต์ แอนโธนี ให้นักแสดงและผู้สร้างฟังเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ
- ผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ ไม่ใช้นักแสดงละครเวทีในภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะต้องการให้ผลงานออกมาแตกต่างจากละครเวที ซึ่งเป็นต้นแบบของภาพยนตร์เรื่องนี้
- เมอรีล สตรีป เตรียมตัวรับบทแม่ชี อลอยซิอุส โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับแม่ชีที่ คอลเลจ ออฟ เมาต์ เซนต์วินเซนต์
- เมอรีล สตรีป ที่รับบทแม่ชี อลอยซิอุส และ ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ที่รับบทบาทหลวง ฟลินน์ ต้องแสดงเป็นคู่ปรับกันในเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยแสดงเป็นแม่ลูกกันมาก่อน ในละครเวทีเรื่อง The Seagull
- ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน เคยชมละครเวทีที่เป็นต้นแบบภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง และยอมรับว่าไม่เคยจินตนาการภาพตัวเองรับบทเป็นบาทหลวง ฟลินน์ มาก่อน
- เอมี อดัมส์ ผู้รับบทแม่ชี เจมส์ รู้สึกประหม่าและถ่อมตัวเมื่อต้องร่วมแสดงกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง เมอรีล สตรีป ผู้รับบทแม่ชี อลอยซิอุส และ ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน ผู้รับบทบาทหลวง ฟลินน์ แต่อาการประหม่านี้ส่งผลดีต่อการแสดง เพราะคล้ายคลึงกับที่แม่ชี เจมส์ รู้สึก เมื่อต้องยืนอยู่ตรงกลางระหว่างแม่ชี อลอยซิอุส และบาทหลวง ฟลินน์
- หลังจาก เมอรีล สตรีป ที่รับบทเป็นแม่ชี อลอยซิอุส ร่วมแสดงกับ เอมี อดัมส์ ที่รับบทเป็นนางชี เจมส์ จนปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว พวกเธอได้ร่วมแสดงด้วยกันอีกครั้งในทันที ในภาพยนตร์ของ นอรา เอฟรอน เรื่อง Julie & Julia (2009)
- ละครเวทีที่เป็นต้นแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัล พูลิตเซอร์ สาขาบทละครแนวชีวิตในปี 2005
- ละครเวทีบรอดเวย์ที่เป็นต้นแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ จัดแสดงมากถึง 525 ครั้ง เป็นเวลานานกว่า 1 ปี นักแสดงชุดดั้งเดิม คือ เชอร์รี โจนส์ รับบทนางชี อลอยซิอุส, ไบรอัน เอฟ. โอเบรียน รับบทบาทหลวง ฟลินน์, ฮีเธอร์ โกลเดนเฮิร์ช รับบทนางชี เจมส์ และ เอเดรียน เลน็อกซ์ รับบทคุณนาย มิลเลอร์ พวกเขาทั้ง 4 ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง โทนี อวอร์ดส์ ซึ่ง เชอร์รี และ เอเดรียน คว้ารางวัลไป พร้อมกับรางวัลละครเวทียอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม โดย ดัก ฮิวจ์ส
- นาตาลี พอร์ตแมน ปฏิเสธบทแม่ชี เจมส์ ไป และสุดท้ายบทนี้ตกเป็นของ เอมี อดัมส์
- ในฉากที่บาทหลวง ฟลินน์ ที่รับบทโดย ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน สวมเสื้อคลุมพระสีเขียวนั้น เขาสวมผ้าพาดบ่าไว้ด้านนอกทับเสื้อคลุมตัวนอกสุด จริงๆ แล้ววิธีการเช่นนี้เป็นที่นิยมหลังยุควาติกัน 2 แต่ในปี 1964 ตามท้องเรื่องนั้น พระจะสวมผ้าพาดบ่าไว้ด้านในเสื้อคลุมตัวนอกสุด
- โอปราห์ วินฟรีย์ วิ่งเต้นเพื่อให้ได้แสดงบท คุณนายมิลเลอร์ แต่ผู้กำกับ จอห์น แพทริก แชนลีย์ ปฏิเสธ และไม่ยอมให้เธออ่านบท สุดท้ายแล้ว ผู้ที่ได้รับบทนี้ คือ วิโอลา เดวิส
- วิโอลา เดวิส ผู้รับบทคุณนาย มิลเลอร์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์นั้น ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้เพียงแค่ 2 ฉากเท่านั้น ฉากแรกคือฉากที่เธอพูดคุยกับแม่ชี อลอยซิอุส ซึ่งรับบทโดย เมอรีล สตรีป ส่วนฉากที่ 2 เธอปรากฏตัวเพียง 10 วินาที และไม่มีบทพูดเลย
advertisement
วันนี้ในอดีต
- แจ๋วเข้าฉายปี 2004 แสดง พรชิตา ณ สงขลา, จารุภัส ปัทมศิริ, จารุณี บุญเสก
- TRON: Legacyเข้าฉายปี 2010 แสดง Garrett Hedlund, Olivia Wilde, Jeff Bridges
- รักที่รอคอยเข้าฉายปี 2009 แสดง รัชวิน วงศ์วิริยะ, พิษณุ นิ่มสกุล, ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ
เกร็ดภาพยนตร์
- Cinderella - ชุดราตรีที่ ซินเดอเรลลา รับบทโดย ลิลี เจมส์ สวมไปงานเต้นรำ ตัดเย็บจากผ้ายาวกว่า 270 หลา ด้ายยาวกว่า 3 ไมล์ และคริสตัลจากสวารอฟสกีกว่า 10,000 เม็ด อ่านต่อ»
- Everly - เดิมที เคต ฮัดสัน ถูกวางตัวให้แสดงบท เอเวอร์ลี แต่ภาพยนตร์อยู่ในขั้นตอนพัฒนาเรื่องนานจน เคต ถอนตัว และภายหลัง ซัลมา ฮาเยก จึงเข้ามารับบทแทน อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Alita: Battle Angel เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 ไซบอร์กสาว อลิตา (โรซา ซาลาซาร์) ที่ถูก ดร.ไดสัน อิโดะ (คริสตอฟ วอลต์ซ) ศัลยแพทย์ไซบ...อ่านต่อ»