เกร็ดน่ารู้จาก The Reader

เกร็ดน่ารู้
  • ดัดแปลงมาจากนวนิยาย The Reader ของนักเขียนและอาจารย์สอนกฎหมายชาวเยอรมัน เบอร์นฮาร์ด ชลิงก์ ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1995 และโด่งดังอย่างมากในปี 1996 เมื่อ โอปราห์ วินฟรีย์ เลือกนวนิยายเล่มนี้มาแนะนำในช่วงบุ๊กคลับในรายการโทรทัศน์ของเธอ
  • โรงเรียนในประเทศเยอรมนีนำนวนิยายเรื่องนี้ไปใช้เป็นตำรา เนื่องจากมีเนื้อหาที่ทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ของชาติเยอรมัน
  • บริษัทผู้สร้าง มิราแม็กซ์ ฟิล์มส์ ได้ครอบครองลิขสิทธิ์เรื่องนี้เมื่อปี 1996 ผู้อำนวยการสร้าง ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน จึงชักชวน ซิดนีย์ พอลแลก และ แอนโธนี มินเกลลา มาร่วมงานด้วย โดย แอนโธนี สนใจที่จะเขียนบทและกำกับ แต่ต่อมาพวกเขายกหน้าที่ให้ เดวิด แฮร์ เขียนบท และให้ สตีเวน ดาลดรี กำกับ ส่วน ซิดนีย์ กับ แอนโธนี ย้ายตำแหน่งมาเป็นผู้อำนวยการสร้างแทน
  • ก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้เขียนบท เดวิด แฮร์ และผู้กำกับ สตีเวน ดาลดรี เคยร่วมงานกันจากเรื่อง The Hours (2002)
  • ผู้กำกับ สตีเวน ดาลดรี เคยเรียนภาษาเยอรมันตอนเด็กๆ ทั้งยังเคยใช้ชีวิตอยู่ในเบอร์ลิน จึงมีประโยชน์ต่อการสร้างภาพยนตร์ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในเยอรมันเรื่องนี้
  • เบอร์นฮาร์ด ชลิงก์ ผู้เขียนนิยายต้นแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ เจาะจงว่าเขาต้องการให้ เคต วินสเลต มารับบทเป็นตัวละครนำ ฮันนา เนื่องจากเขาคิดว่า เคต มีเสน่ห์เย้ายวนใจและพูดจาโผงผางเหมือน ฮันนา
  • เคต วินสเลต ผู้รับบท ฮันนา เป็นคนอ่านหนังสือช้า แต่กลับอ่านนิยายต้นฉบับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่เขียนโดย เบอร์นฮาร์ด ชลิงก์ จบภายในวันเดียว
  • เคต วินสเลต ยอมรับว่าบทบาท ฮันนา ที่เธอแสดงเป็นบทที่ยาก เพราะขณะถ่ายทำ เธอเพิ่งมีอายุเพียง 27 ปี ขณะที่ตัวละคร ฮันนา เป็นสาวใหญ่วัย 36 ปี
  • เป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของ เดวิด ครอสส์ นักแสดงชาวเยอรมันที่รับบทเป็น ไมเคิล ในช่วงวัยรุ่น
  • คุณแม่ของ เดวิด ครอสส์ ผู้รับบท ไมเคิล ช่วงวัยรุ่น กังวลว่าการรับงานนี้จะทำให้เขาเสียการเรียน เดวิด จึงตั้งใจเรียนหนังสือจนได้คะแนนดีเยี่ยม คุณแม่จึงอนุญาตให้เขารับงานนี้
  • เดวิด ครอสส์ ผู้รับบท ไมเคิล ช่วงวัยรุ่น ต้องฝึกพูดวันละ 7 ชั่วโมงกับครูฝึกภาษา วิลเลียม โคแนเชอร์ โดยจะต้องฝึกเลียนสำเนียง และฝึกอ่านออกเสียงกวีนิพนธ์ภาษาละตินของ โฮเรซ และกวีนิพนธ์ภาษากรีกของ แซฟโฟ
  • เดวิด ครอสส์ ผู้รับบท ไมเคิล ช่วงวัยรุ่น เริ่มแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่อายุ 15 ปี ซึ่งผู้สร้างต้องรอจนกว่า เดวิด จะอายุครบ 18 ปีเสียก่อน จึงเริ่มถ่ายทำฉากรักบนเตียงได้
  • ตัวละครนำในเรื่องเป็นคู่รักที่อายุห่างกันมาก จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่ฉบับนิยาย แต่ผู้กำกับ สตีเวน ดาลดรี ตัดสินใจไม่ปรับอายุของตัวละคร ยังคงให้ ไมเคิล ที่รับบทโดย เดวิด ครอสส์ มีอายุ 15 ปี และ ฮันนา ที่รับบทโดย เคต วินสเลต มีอายุ 36 ปี เพราะต้องการให้พวกเขาเป็นตัวแทนของคน 2 รุ่นที่ต่างกันมากอย่างแท้จริง
  • ไม่มีฉากที่นักแสดงหลักทั้งสามได้เข้าฉากร่วมกัน เนื่องจาก เรล์ฟ ไฟน์ส และ เดวิด ครอสส์ แสดงเป็นตัวละคร ไมเคิล เช่นกัน เพียงแต่ต่างช่วงเวลา ส่วน เรล์ฟ ไฟนส์ กับ เคต วินสเลต ผู้รับบท ฮันนา ก็ได้เข้าฉากด้วยกันเพียงแค่ฉากเดียวเท่านั้น
  • มีฉากที่ต้องถ่ายทำในนิวยอร์กเพียง 2-3 ฉากเท่านั้น ที่เหลือถ่ายทำตามเมืองต่างๆ ในเยอรมัน ทั้ง เบอร์ลิน กอร์ลิตซ์ และ โคโลญ จนถึงสุดพรมแดนประเทศเยอรมันกับสาธารณรัฐเชก
  • ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นชาวเยอรมันเป็นส่วนใหญ่ ทั้งผู้ทำงานเบื้องหลังและนักแสดงมากมาย อาทิ บรูโน แกนซ์ ผู้รับบท โรห์ล และ มัตติอาซ ฮาร์บิก ผู้รับบทพ่อของ ไมเคิล เป็นต้น
  • เคต วินสเลต เตรียมตัวรับบท ฮันนา ด้วยการชมวิดีโอและอ่านหนังสือเกี่ยวกับค่ายกักกันในเยอรมันช่วงสงครามโลก ทำให้เธอรู้สึกติดตากับภาพน่ากลัวเหล่านั้น
  • ช่างแต่งหน้าและทำผม อิวานา พริโมแรก ใช้เวลา 4 ชั่วโมงในแปลงโฉม เคต วินสเลต ให้กลายเป็นตัวละคร ฮันนา ในวัยชรา
  • ผู้กำกับ สตีเวน ดาลดรี พา เดวิด ครอสส์ ผู้รับบท ไมเคิล ช่วงวัยรุ่น ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชาวยิวในเบอร์ลิน อีกทั้งยังซื้อหนังสือถึง 5 ถุงให้เขานำไปอ่านเพื่อศึกษาบทของตัวเองเพิ่มเติมด้วย
  • ผู้สร้างออกแบบฉากในห้องพิพากษาคดีโดยอ้างอิงจากค่ายกักกันเอาชวิตซ์ในนครแฟรงก์เฟิร์ตช่วงปี 1963-1965 อันเป็นสถานที่ซึ่งคนงาน 22 คนของค่ายกักกัน เอาชวิตช์-เบอร์คีนู ถูกดำเนินคดี
  • ผู้สร้างเชิญอัยการและผู้พิพากษาอรรถคดีตัวจริงจากยุคนั้นมารับบทเป็นทนายและผู้พิพากษา อาทิ โธมัส บอร์ชาร์ดต์, โธมัส พาริชเก, บูร์กลินดี คินซ์ เป็นต้น อีกทั้งยังเชิญอัยการ เกร์ฮาร์ด ไวซ์ และผู้พิพากษา เกรกอร์ เฮร์บ มาเป็นที่ปรึกษาภาพยนตร์ด้วย
  • ช่วงต้นปี 2008 ระหว่างการถ่ายทำ ผู้อำนวยการ แอนโธนี มินเกลลา และ ซิดนีย์ พอลแลก ต่างก็เสียชีวิตลง แอนโธนี เสียชีวิตในเดือนมีนาคมด้วยวัย 54 ปี ส่วน ซิดนีย์ เสียชีวิตในอีก 2 เดือนถัดมาด้วยวัย 73 ปี
  • ผู้กำกับ สตีเวน ดาลดรี เลือก เคต วินสเลต มารับบท ฮันนา แต่ เคต ติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Revolutionary Road (2008) นิโคล คิดแมน จึงเข้ามาตอบรับบทนี้แทน โดยมีกำหนดเปิดกล้องหลังจากถ่ายทำเรื่อง Australia (2008) เสร็จ แต่หลังจากนั้นเธอกลับถอนตัวเนื่องจากตั้งครรภ์ เคต จึงหวนกลับมารับบท ฮันนา ใหม่อีกครั้ง
  • จูเลียตต์ บิโนช เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะเข้ามารับบท ฮันนา แต่สุดท้ายบทนี้ก็ตกเป็นของ เคต วินสเลต
  • เนื่องจากผู้อำนวยการสร้าง ซิดนีย์ พอลแลก และ แอนโธนี มินเกลลา เสียชีวิตลงก่อนจะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์ ผู้จัดงานประกาศรางวัลอคาเดมี อวอร์ดส์ หรือออสการ์ จึงอนุโลมให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าชิงโดยส่งชื่อผู้อำนวยการสร้างมากกว่า 3 คนได้ นั่นคือ ซิดนีย์ และ แอนโธนี และผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่แทนพวกเขาอีก 2 คน คือ ดอนนา จิจ์ลิอาต์ติ และ เรดมอนด์ มอร์ริส
  • ผู้สร้างพิจารณาระหว่าง นิโค มูห์ลี, ออซเรน เค. กลาเซอร์ และ อัลเบอร์โต อิเกลเซียส ว่าใครเหมาะสมจะทำหน้าที่แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ และในที่สุด นิโค ก็ได้รับหน้าที่นี้ไป
  • มีฉากหนึ่งที่ ฮันนา ซึ่งรับบทโดย เคต วินสเลต ต่อว่า ไมเคิล ซึ่งรับบทโดย เดวิด ครอสส์ ให้รู้สึกละอายใจที่อ่าน Lady Chatterley's Lover ให้เธอฟัง แต่หลังจากนั้นกลับขอให้เขาอ่านต่อไป ฉากนี้คล้ายกับฉากหนึ่งในเรื่อง Quills (2000 ) ซึ่ง เคต ที่แสดงเป็น แมเดอแลน อ่านเรื่องของ มาร์กิส เดอ ซาด ให้แม่ของเธอฟัง หลังจากแม่ต่อว่าว่ามันเป็นเรื่องที่แย่มาก แต่เร่งให้เธออ่านต่อ
  • สกอตต์ รูดิน ถอนตัวจากการอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะผู้อำนวยการสร้าง ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ไม่เห็นด้วยที่ สกอตต์ ต้องการเลื่อนไปฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 2009 เพื่อไม่ให้ต้องเข้าชิงรางวัลออสการ์แข่งกับภาพยนตร์ที่ สกอตต์ อำนวยการสร้างเองอีก 2 เรื่องคือ Doubt (2008) และ Revolutionary Road (2008) สุดท้ายแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้เข้าฉายในปี 2008 และได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขณะที่ Doubt และ Revolutionary Road ไม่ได้เข้าชิง

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Big Game - ผู้กำกับ ยาลมารี เฮแลนเดอร์ มองว่าสถานที่จริงที่ตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ไม่เหมือนภาพที่เขานึกไว้ในหัว จึงถ่ายทำที่เทือกเขาแอลป์แทน อ่านต่อ»
  • When Marnie Was There - เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายก่อนที่ค่ายจิบลิจะพักการสร้างภาพยนตร์ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

หมอลำมาเนีย เขย่าลูกคอ รอให้เธอมารัก หมอลำมาเนีย เขย่าลูกคอ รอให้เธอมารัก เรื่องราวของ อาจ (จิรายุ สูตรไชย) ชายหนุ่มผู้คลั่งไคล้หมอลำขนาดหนัก ขยับลูกคอเอื้อนลำกลอนทำนองแปลกใหม่ให้ไทบ้านได้ทึ่ง ...อ่านต่อ»