SIAMZONE.COM

ตอนแรกไม่คิดจะดูเลย....เพราะหนังที่จาแสดงเท่าที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยประทับใจ (ทั้งบทของหนัง และบทของจา)

แต่เมื่อวานไปเช่าหนัง เห็นว่าองค์บากออกเป็นวีซีดีแล้ว ประกอบกับมีโปรฯ เช่า ๓ แถม ๑ ก็เลยเอาองค์บากเป็นเรื่องแถม

ระหว่างที่กำลังเขียนคำวิจารณ์นี้ก็กำลังดูอยู่ ถึงตอนรำแล้ว....บอกได้คำเดียวว่า "ไม่ประทับใจครับ" มันเหมือนเป็นหนังที่ตัดๆ เอาการต่อสู้มายำรวมกันซะมากกว่า ขาดที่มาที่ไป ฉากบางฉากก็ไม่รู้ว่าจะมีไปทำไม ดูๆ ไปเหมือนจากำลังเล่นเกม คือสู้จบสเตทนึงก็ไปต่ออีกสเตทนึงไปเรื่อยๆ ความผูกพันของตัวละครหรือที่มาที่ไปของตัวละครต่างๆ ไม่ชัดเจน ทำให้ดูไม่รู้เรื่องและไม่ได้อรรถรสครับ~

หนังเรื่องนี้ยกงานโปรดักชั่นเอาไปเต็ม 10 เลยครับ สำหรับหนังไทย ผมถือว่าก้าวกระโดดจริงๆครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมว่าทำได้ดีคือคิวบู๊ครับทำได้ต่อเนื่องไหลลื่นดีมากโดยเฉพาะฉากที่ทดสอบวิทยายุทธไม่ด้อยกว่าหนังฮอลีวูดดีอีกครับ ที่จะดูขาดๆเกินๆก็ในฉากสุดท้ายนี่ละครับที่ยังไม่ลงตัวแต่การเข้าบุกของศัตรูถือว่าใช้ได้ครับ เทียบกับพวกหนังกำลังภายในเรามักจะมีคำถามว่า"ทำไมมันไม่เข้ามาพร้อมกัน" องค์บาก 2 ทำได้ดีพอสมควรครับ
ในแง่ของบทโดยรวมถือว่าโอเคครับสำหรับหนังประเภทนี้ไม่ต้องการอะไรอยู่แล้ว มีขาดๆเกินๆบ้างแต่ก็ไม่เสียหายอะไรก็มีช่วงสุดท้ายที่หลายคนคาใจว่าจบแย่ สำหรับการที่มีภาค 3 ต่อ ถือว่าโอเคครับเพียงแต่รงบรัดไปนิดนึง ยาวกว่านี้อีก 5 นาที คงไม่เป็นไร
สรุปดูคิวบู๊ก็คุ้มแล้วครับ

ภาคนี้การบู๊ก็สนุกดีเหมือนกัน แต่การเอากลยุทธ์วิชาต่างชาติมาใช้ยังดูไม่ลื่นไม่เนียน มันแข็งๆยังไงไม่รู้ครับ(อาจจะเพราะการตัดภาพจากกล้องด้วย)

ยังชอบภาค 1 มากกว่าครับ นำเสนอตัวเองได้ยอดเยี่ยมมาก ในภาค 2 เนื้อเรื่องดูชอบกล และพูดน้อยเหมือนเดิม

ยังไงก็ชอบพี่จาครับ แอ็คชั่นได้มันจริงๆ จะติดตามภาค 3 ต่อไป

ปล. เห็นมีคนบอกว่าภาค2 ทำออกมาได้ไม่สมบูรณ์เท่าไร เพราะรีบขายให้ฝรั่ง ไม่รู้จริงรึป่าว ^^

จา มีพัฒนาด้านการแสดงอารมณ์ ทางสีหน้าดีขึ้น แต่ว่าก็ไม่เน้นบทพูดเหมือนเดิม เน้นบู๊ซะมากกว่า โดยเฉพาะฉากสุดท้ายที่แสดงออกให้เห็นถึงความสับสน สูญเสีย เรื่องแอ็กชั่นคนดูหวังไว้สูงก็ทำออกมาได้ดี แปลกแตกต่างจากที่ จา เคยเล่นมา มีการผสมศิลปะการป้องกันตัวของหลายๆ ชาติคงต้องดูภาคต่อไปว่าจะมีอะไรใหม่ๆ มาให้คนดูอีก ฉากก็ดูอลังการให้รายละเอียดของฉากดี เคยดูเรื่องปืนใหญ่จอมสลัด พอเวลาถ่ายใกล้เหมือนภาพจะแตกๆ ทำให้เสียอรรถรสไปนิดหน่อย เนื้อเรื่องมีหักมุมพลิกไปพลิกมาที่คิดเอาไว้ก็ไม่ใช่ ตอนแรกดูแล้วงงๆ ว่าเกี่ยวอะไรกันกับองค์บาก เห็นมีตอนท้ายเรื่องโผล่มาอยู่หน่อยเก็บไว้ให้เป็นปริศนาต่อในภาค 3 ตอนจบเหมือนตัดๆ ให้จบไปทั้งที่ตอนต้นเรื่องดำเนินเรื่องมาแบบเรื่อยๆ ท่าจะให้ดีน่าจะทำให้กระชับเท่าๆ กัน

ชมภาพยนตร์แล้ว ยอมรับว่า งงๆ กับงานสร้างมาก อาจเพราะต้องการอิงประวัติศาสตร์ (ที่ไม่มีจริง) ผสมแฟนตาซี เรื่องดูอ่อนไปหน่อย เหมือนขาดการเชื่อมโยงระหว่างเด็กจนโตไปนิด จบเร็ว ไม่ตื่นเต้น แต่ดีที่สุดที่ผมชมภาพยนตร์มาในรอบปีนี้ ต้องยกนิ้วให้ในงานบู๊แอ็คชั่น และไม่รู้สึกเสียดายเงินในการชมภาพยนตร์

ภาพสวยครับ อย่างที่ว่ากันให้ข้างต้น เนื้อหาของเรื่องไม่ดีพอ

หนัง เครียด โคตร แบบว่า "คนดูหลับไปครึ่งโรง" ถ้าบู๊ที่ไหนไม่มีที่ไหนสุดยอดเท่าเรื่องนี้แล้ว หักมุม ด้วย ทึ่งมาก

แต่ที่อยากติคือ
-บทแบบว่าแย่มาก ยิ่งตอนจบ แบบว่า รับไม่ได้ จนเสียความรู้สึก และ รู้สึกเสียดายตังค์ขึ้นมาแลย(คงต้องทำภาค 3 แหละ)
-ภาพมืดมาก ตัวละครแทบมองไม่เห็น แทบกล้องไม่นิ่งจนคนดู มืนจนหลับเลย(ยังไม่รวมเครียดนะครับ)
-จาไม่มีบทพูด มีแต่สู้แก้ไขหน่อยดิครับ
-ไม่ Go Inter แน่ (ภาคแรก Go ภาค 2 คอนเฟิร์มแลยว่าไม่มีทาง Go หรือ ถ้า Go ก็รายได้น้อยแหละครับ)
-ภาพบาดแผล จะไม่มี ช่วงฉากสู้รบ
-มีที่ติอีกเยอะแต่ไม่ได้จำ เพราะ จำแล้วมันเครียด
-เข้าใจเรื่องยาก
-สู้กันมั่วงง และ ฉากหนึ่งดูแล้วก็ข้ามไปอีกฉากหนึ่งแบบงงมาก

สรุป
ไม่ถือว่าเปลืองตังค์เลยนะ แต่ไม่ถือว่าคุ้ม ให้ 8 ก็น่าจะพอแล้วนะครับ

ถ้าเค้าบอกว่าเป็นแอ็คชั่น คุณดูแล้ว มัน สะใจ สนุก ก้อถือว่าหนังตอบโจทย์และสนองคนดูที่ต้องการเสพหนังแอ็คชั่นเพียงแล้วนะครับ ผมว่า จา พนมทำออกมาได้ดีมากแล้วนะครับสำหรับคนที่เพิ่งก้าวมากำกับครั้งแรก ตอนแรกผมยังนึกเป็นห่วงไม่ได้ว่าเรื่องจะโอเคไหม ถ้าไม่ใช่ปรัชญาแล้ว แต่หนังดูออกมาแล้ว หายห่วงครับ เรียกว่าเป็นอีกรสชาติหนึ่งที่ต่างไปจากปรัชญา ปิ่นแก้ว

งานโปรดัคชั่น กำกับภาพถือว่าโอเค คุณภาพอยู่ในระดับหนังเอเชียดีดีสักเรื่องนึงครับ (ผมใช้คำว่าระดับ เอเชีย เพราะ งานเราสู้ใครๆในเอเชียได้สบายครับ) การสร้างโจทย์ใหม่ๆในการต่อสู้ การผสมผสานระหว่างนาฏศิลป์ และโขน แปลกใหม่ และมีการทำการบ้านมาดีนะครับ และที่สำคัญ การประมือระหว่าง จา พนม กับ เดี่ยว ชูพงษ์ สุดยอดครับ ยุคที่ เฉินหลง หยวนเปียว เจ็ทลี เริ่มแก่ คุณจะหาใครเล่นแอ็คชั่นได้มันเท่าสองคนนี้ในโลกจากที่ไหนได้อีกครับ

หนังเรื่องนี้ฉากอลังการมาก คุ้มกับการรอคอย

บอกเลยว่า เพิ่งดูเมื่อวาน ตกเทรนด์มาก ที่จริงจะไม่ดูแล้ว เพราะคำวิจารณ์ แต่พอไปดูบอกเลยว่าดีกว่าที่คิดและที่ทุกคนพูดไว้
1. มีคนบอกว่าภาพห่วย ไม่พัฒนาซะที---- ผมว่าภาพมันค่อนข้างดีสำหรับหนังไทยเลย หนังระดับนี้ที่คุณเห็น นอกจากสุริโยทัย พระนเรศ องค์บาก คุณเห็นจากไหนอีกในหนังไทย .... ถ้าเอาไปเทียบกับ กราดิเอเตอร์ เซพวิ่ง..ไรอัน ทรานฟอเมอร์ ไรระดับนั้นมันก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว ผมว่าดีมากสำหรับไทยแล้ว ไม่เห็นลายตาตรงไหนด้วย

2. มีคนบอกว่าเนื้อเรื่องห่วย --- ผมดูๆมันก็ใช้ได้ในระดับ หนังต่อสู้ชกๆนะ มันไม่ต้องมีอะไรมาก แล้วหนังแนวนี้ที่คุณว่าดีมีอะไร รัชฮาว หนังเจ๊ทลี รึ ทุกเรื่องเนื้อเรื่องไม่ต่างกันไม่ซับซ้อนและเดาได้เหมือนกันหมด หรือว่าไม่จริง ไม่ว่าจะเป็นใหญ่ฟัดโลก หวงเฟยฟง เฟียเลส ต่างๆๆ อย่าเอาไปเทียบกับหนังฮอลลีวู้ด

แต่ที่ติคือ มันจบเร็วไป มันสามารถใส่ความมัน หรืออะไรต่างๆได้ในภาคนี้อีก ก่อนที่จะเป็นภาค3
สรุป ผมว่าดีมากน่าสนับสนุนและวางเรื่องต่อไปภาค3ค่อนข้างดี ว่าทำไมถึงมีองค์บากและต่อไปเทียนจะเป็นอย่างไร พอใจแล้วสำหรับหนังต่อสู้ชกๆ