วิจารณ์ ฝัน-หวาน-อาย-จูบ
-
>.MicK3Y.<
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 20:41
ชอบเรื่องฝันอะนะ ที่ชอบเพราะนักร้อง
แต่ถ้าดูโดยรวมสำหรับเราเราว่าไม่ดีเลย -
hangkung
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 18:43
นึกว่าจะเป็นหนังที่น่าดูเหมือนรักแห่งสยามแต่สุดท้ายก็ผิดหวัง โดยที่
- จูบ เป็นเรื่องราวที่ไร้แก่นสารสิ้นดี เนื้อหาไม่ได้เรื่องได้ราว ให้คะแนน -2/10
- อาย เป็นหนังโรแมนติกสำหรับคนที่อายที่จะบอกรักกับคนที่คุณรัก แต่เนื้อหาก็พอโอเค ให้ 6/10.
- หวาน ดูรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ให้ 5/10
- ฝัน เป็นการขายนักแสดงวงออกัส เรื่องราวผสมผสานกับการ์ตูนแอนิเมชั่น เราว่าก็สนุกไปอีกแบบสำหรับคนที่ชอบแนวแฟนตาซี+มิวสิคัล อันนี้ให้ 6/10
แต่โดยรวมแล้วถือว่าแย่ในระดับหนึ่ง ให้คะแนน 5/10 ถึงว่าเมื่อวานไปดูหนังคนถึงน้อยจังเลย -
barank
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 17:17
ชอบแค่เรื่องที่สาม (หวาน) เรื่องเดียว
เรื่องสุดท้าย ถ้าแฟนไม่ห้ามไว้ ผมลุกออกจากโรงแน่นอน!!! -
to_harm_never
(เลขที่ 171189)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 16:28
ไปดูตั้งแต่วันคริสมาสต์เลยครับ
จูบ -- ขอโทษครับ นี่มันภาพยนตร์นะครับ ไม่ใช่ซิทคอม เนื้อเรื่อง/บท/นักแสดง อ่อนกว่า เป็นต่อ อีกครับ
อาย -- เออ ค่อยดูเป็นหนังรักหน่อย บรรยากาศเป็น romance สมชื่อเรื่อง (4 Romances) ดูดีที่สุดแล้วครับเรื่องนี้
หวาน -- เฮ้ย นี่มันหนัง schiz นี่หว่า !!! ตอนจบอาจมีมุมมองของ romance อยู่บ้าง แต่ก็ เอ่อ ชาคริต อ่ะนะ จาให้เล่นเป็นตัวอะไร เขาก็ยังคงเป็น ชาคริต
ฝัน -- มะเดี่ยว เอาเงินคืนมา
สรุป เรื่องนี้ให้ 4/10 ก็เกินพอแล้วครับ คะแนนนี้ได้มาจากเรื่อง อาย และ ผกก. บัณฑิต เท่านั้นครับ -
55555555555555555555
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 13:21
ผิดหวังอย่างแรง! ยังกะดูการ์ตูนแอนิเมชันค่ะ เห้ออออออ :(:(
แต่โอเรื่องอายนะ ตองน่ารักมากค่ะ!!
. -
tur
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 11:38
ตัวหนังดูให้แปลกจากหนังสี่เรื่องทั่วๆไป โดยเรียงจากเรื่องท้ายมาหน้า
แต่การทำให้เก๋แบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้หนังดูดีขึ้น
และรู้สึกว่าหนังจะเรียงความยาวของหนังด้วยโดยเรื่องแรกจะยาวประมาณ 15 นาที เรื่องที่สองจะยาวมากกว่าเรื่องที่ 1,เรื่องที่สามจะยาวกว่าเรื่องที่ 2 และเรื่องที่ 4 จะยาวที่สุด
จูบ-โดยส่วนตัวถือว่าโอเคในระดับนึง หนังกัด จิก การกระทำของวัยรุ่นชายไทย แต่รวมๆแล้วก็ระดับนึง B
อาย-ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หนังพยายามจูงใจว่าเป็นเรื่องลี้ลับ แต่ในที่สุดก็รักกัน(เลี่ยนมาก)ผมว่าถ้าจบแบบให้พระเอกอายต่อไปคงไม่เลว(ความเห็นส่วนตัว อย่าคิดมาก) C
หวาน-ดูๆแล้วคล้าย Eternal sunshine แต่ตรงข้ามกัน (พระเอกพยายามจะจำเองราวต่างๆให้ได้) บทค่อนข้างดีใช้ได้ ส่วนใหญ่แล้วจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเวลาได้ดี B+
ฝัน-เราเคยเห็นหนังแนวนี้มาแล้ว(ที่เอาการ์ตูนมาผสมคนจริง)
ในขุนกระบี่ แต่ก็ไม่ดูดีขึ้นเลย หนังได้อิทธิพลละครเวทีมาพอสมควร และเวลาที่มากกว่าคนอื่น(จนมากไป)ทำให้หนังดูยืดเยื้อมากกกก แต่ขอชมว่ามีจุดดีในเรื่องจินตนาการพอสมควร ซึ่งสิ่งนี้ไม่ค่อยอุ้มตัวหนังให้รอดได้ C+
สรุปแล้วรู้สึกผิดหวังกับบางรื่อง แต่การดูหนังย่อมมีผิดหวังบ้างเป็นธรรมดา
B C B+ C+ = B -
jude
(เลขที่ 45057)
เมื่อ 28 ธ.ค. 51 01:38
ฝัน หวาน อาย จูบ
เป็นหนังที่แสดงถึงความรักในวัยต่างๆ
ฝัน แทน ความรักของเด็กมัธยมต้น เป็นความรักแบบปัปปี้เลิฟ และ ความคิดแบบเด็กๆ ที่มีไอดอลอยู่ในหัวใจ และหวังว่าจะได้พบกับขวัญใจของตัวเองสักครั้งในชีวิต เรื่องนี้แสดงความฝันลมๆแล้งๆ บ้าๆ บอๆ ของเด็กในวัยนี้ ที่ดูแล้วสับสน จับต้นชนปลายไมถูก เหมือนความฝันคนเรา ที่บางทีบางเรื่องก็ดูสับสนวุ่นวาย จับต้นชนปลายไม่ถูก ประเด็นในหนังเรื่องนี้ดูเพ้อฝันเกินไป จนจับต้องไม่ได้ จนแม้แต่เด็กวัยมัธยมต้น มาดู ก็อาจไม่รู้ถึงสิ่งที่หนังต้องการสื่อออกมา เนื่องจากบทที่เขียนออกมาไม่ดีและเน้นการ์ตูน แฟนตาซีมากเกินไป ทั้งที่พอเปลี่ยนมาในฉากที่ตัวละครกลับมาเป็นคนจริงๆ กลับดูมีชีวิต สีสัน ดีกว่าเป็นการ์ตูนมาก
หวาน แทนความรักของ ผู้ใหญ่วัยทำงาน ซึ่งมีเรื่องของครอบครัว และการงานมาเกี่ยวข้อง ด้วยเงื่อนของเวลาทำให้ความรักจืดจางไป อีกทั้ง โชคร้ายของนางเอกของเรื่อง ที่เกิดในวันที่29 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันอธิกสุรทิน 4 ปีจะมีวันเกิดสักครั้งท่ำให้คู่รักหลงลืมวันเกิดได้ง่าย อีกทั้ง ตัวฝ่ายชายคือราเชนทร์เป็นคนที่บ้างาน เพราะคิดว่าเงินทองที่หามาได้จะสามารถบันดาลความสุขให้กับครอบครัว แต่พอเกิดเรื่องช็อคความรู้สึกกับหวานตอนอายุ40 ปี ทำให้เวลาของหวานเดินย้อนกลับ กว่าที่ราเชนทร์จะรู้ก็คือตอนที่ราเชนทร์อายุ60 ปี ขณะที่เวลาของหวานย้อนกลับไปที่20 ปี คือตอนที่เจอราเชนทร์ครั่งแรก ซึ่งถ้าพระเอกทำให้นางเอกระลึกความทรงจำตอนเจอกันครั้งแรกได้ เขาจะได้ความทรงจำของภรรยากลับคืนมา พร้อมกับเวลาของหวานที่กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง
เรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ชาคริต เล่นได้ดีที่สุดในชีวิต อีกทั้งบทที่ทรงพลัง ถ้าไม่เพราะข้อจำกัดของเวลา เรื่องนี้สามารถทำเป็นหนังยาวเรื่องหนึ่ง ซึ่งประทับใจไม่แพ้happy birthday นุ้ก สุทธิดา เล่นได้เยี่ยมเช่นกัน สามารถรับส่งบทกับชาคริตได้อย่างสุดยอด ยิ่งฉากสุดท้าย ถ้าตามประเด็นของหนังเรื่องนี้ได้ทัน ทำให้เกิดความสงสารในชะตากรรมของคนทั้งคู่ ต้องยกความดีให้กับคุณ ปรัชญา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นงานพิสูจน์ฝีมือว่าคุณไม่ใช่ผู้กำกับแต่หนังแอ็คชั่น แต่หนังชีวิต ที่มีปรัชญาดีๆ แบบนี้ คุณกำกับได้ประทับใจและดีกว่าหนังแอ็คชั่นทุกเรือ่งที่คุณเคยกำกับเลย
อาย เป็นตัวแทนของรักในวัยจบปริญญา และเริ่มทำงาน เป็นตัวแทนของความรักที่มีความแตกต่างของชนชั้นเข้ามาเกี่ยว ตัวแสดงนำทั้งสองยังเล่นได้ไม่ถึงกับดีมาก ยังขาดพลังรับส่งระหว่างกัน จึงถูกขโมยซีนโดยตัวประกอบคือ มุก ที่ออกมากี่ฉากก็เด่นและน่ารัก ทุกฉาก จนแทบแย่งเป็นพระเอกไปเลย ถึงแม้บทหนังจะเขียนออกมาดูทะแม่งๆ โดยเฉพาะภาษา แต่ก็ถือเป็นหนังรักที่น่ารัก และประทับใจพอใช้ได้ ถือว่าผู้กำกับคือคุณบัณฑิตสอบผ่าน
จูบ เป็นตัวแทนของรักในวัยรุ่น มัธยมปลาย เป็นความรักแบบฉาบฉวย ให้ความสำคัญกับความสวยหล่อภายนอก และ ความบริสุทธิ์ของร่างกายมากกว่าความจริงใจ บทเหมือนถูกเขียนออกมาลวกๆ และ ระยะเวลาก็สั้นเกินไปจนจับประเด็นไม่ได้ เหมือนเป็นหนังที่ทำออกมาเพื่อเสริมให้ครบ4ตอน ทั่งที่ดูเหมือนมิวสิควีดีโอ หรือ หนังโฆษณามากกว่า
สรุป ถือเป็นหนังรัก ที่สอบผ่าน แม้ จะกระท่อนกระแท่นอยู่สองเรื่อง คือ ฝัน และจูบ ที่ถือ ว่าสอบตก แต่ค่าเฉลี่ยของหนังเรื่อง นี้ก็ถือว่าไม่เสียดายเงิน โดยเฉพาะเรื่อง หวาน
ให้คะแนน 8 เต็ม 10 ครับ -
artpla
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 27 ธ.ค. 51 21:56
ผมว่าหวานกับอายก็ okนะ แต่จูบนี่ทำให้ผิดหวังแล้วฝันยิ่งทำให้ผิดหวังสุดๆ เรื่องนี้ผมให้แค่ 6 ครับ
-
J@y_Wyler
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 27 ธ.ค. 51 19:19
ฝัน หวาน อาย จูบ : 4 Romance
หลังจากที่การนำหนังสั้นหลายๆเรื่อง รวมนักแสดงดีๆ กับเนื้อเรื่องสนุกๆ กำลังมาแรง
จึงไม่แปลกที่จะมีโปรเจกต์นี้เกิดตามขึ้นมาอย่างทันที และเบื้องหลังทีมงานก็เด็ดๆทั้งนั้น แถมยังมาแปลกด้วยการ
นำ ผกก. แนวอื่นมาถ่ายทอดบรรยากาศรัก ซึ่งผลออกมาเป็นอย่างไรนั้น ผมขอวิจารณ์เป็นตอนละกันครับ (เช่นเดียวกับ 4 แพร่ง)
1. จูบ ( ผกก. ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล )
ผลงานของ ผกก. ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ที่เรียกได้ว่าหายไปนานพอสมควร ซึ่งผลงานอย่าง โลกทั้งใบให้นายคนเดียว
นั้นถือว่าเป็นผลงานอยู่ในขั้นเยี่ยมเลยทีเดียวในสมัยนั้น กลับมาคราวนี้ เขาได้โจทย์ที่ค่อนข้างง่าย
และไม่ต้องมากความ กับเรื่องประเด็นหลักๆของวัยรุ่น นั้นคือการจูบ ซึ่งตอนโปรโมต
นี้ถือเป็นตอนหนึงที่เรียกความสนใจจากผู้ชมไปไม่น้อย ด้วยนักแสดงอย่าง มาริโอ เมาเร้อ
และนางเอกใหม่อย่าง อภิศรา ทัตติ ซึ่งตัวนางเอกนั้นเล่นได้น่ารักและธรรมชาติมาก ต่างกับมาริโอ้
ที่งานนี้แม้เขาจะดูชินกับการเล่นหนังขึ้น แต่ยังไงเสียก็ยังแข็งอยู่ดี ส่วนตัวประกอบอื่นๆ นั้นไม่น่าจดจำครับ
ด้วยความที่บทมันสั้น แถมเวลาดำเนินเรื่องก็น้อยที่สุด จึงทำให้เรื่องนี้ขาดมากมาย
เหมือนกับยังไม่อิ่มก็ตัดจบไปเสียแล้ว แต่ยังดีที่ยังมีความสนุกน่ารักอยู่บ้าง จึงรอดตัวไปอย่างหวุดหวิดครับ
คะแนนสำหรับเรื่อง จูบ B- ( สำหรับเรื่องราวที่เรียบง่าย แต่ก็ยังน่าสนใจ )
2. อาย ( ผกก. บัณฑิต ทองดี )
ผลงานก่อนหน้านี้ : มนุษย์เหล็กไหล , เฮี้ ยน
จากผลงานก่อนหน้านี้ บางคนอาจจะใจเสียว่า มาแนวนี้จะรอดจริงหรือ เรื่องนี้ผมบอกเลยว่าผมประทับใจที่สุดอันดับ 2
เรื่องราวของ ตอง ( กัญญา รัตนเพชร์ ) ลูกสาวของเจ้าของเกาะ ที่พ่อเธอส่งมาเพื่อมาวางแผนสร้างรีสอร์ทส่วนตัว
โดยที่คนนำทัวร์ของเธอไม่ใช่ใคร แต่เป็นแฟนที่ห่างเหินไปนานอย่าง ทุเรียน ( ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ) ที่เป็นคน
คอยนำเธอสำรวจพื้นที่ ทั้งสองเจอกัน แต่ดูเหมือนไม่ถูกกันด้วยหลายประการ ซึ่งคงต้องติดตามในภาพยนตร์เอง
ตอนนี้ได้เปรียบตรงที่ ได้โลเกชั่นสวยงาม บรรยากาศเป็นใจ และนักแสดงที่เก่งพอสมควรโดยเฉพาะนางเอก
ที่เล่นได้น่ารัก ธรรมชาติ และกวน ได้ใจมาก ส่วนพระเอกแม้จะเล่นดู ทึ่ม และ ขัดตา จนบางครั้ง
เกินที่จะทนไหว แต่ฉากแสดงอารมณ์ เขาไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆครับ
ง่าย ๆ ว่าตอนนี้ดูแล้วอิ่ม แม้จะไม่อร่อยเท่าที่ควรนัก ด้วยบทสนทนาที่ดูน่าเบื่อ เฉยเกินเยียวยา
จนบางครั้งเรายังต้องคิดเลยว่า ยังมีคนแบบนี้อยู่อีกหรือ ?
คะแนนสำหรับตอน อาย B ( อบอุ่น แม้บทสนทนาจะเห่ยแต่ก็ยังทำให้รู้สึกดีครับ )
3. หวาน ( ผกก. ปรัชญา ปิ่นแก้ว )
ผลงานก่อนหน้านี้ : องค์บาก , ต้มยำกุ้ง , ช็อคโกแลต
ผลงานแอ็คชั่นล้วนๆ ถือว่าเป็นการรับโจทย์ที่ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียว สำหรับ ผกก. ปรัชญา ปิ่นแก้ว
แต่ผลลัพธ์กลับเป็นตอนที่ดีที่สุดครับ ด้วยบทที่เกลามาอย่างดี นักแสดงฝีมือ
ชาคริต แย้มนาม และ สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ทั้งสองคนฝากการแสดงที่น่าจดจำที่สุดในหนัง
เรียกได้ว่า ถ้าค่าตั๋วเรื่องนี้ 140 บาท ผมแบ่งให้เรื่องนี้ 80 บาท อย่างไม่ต้องลังเลใจเลย
สำหรับตอนนี้ ถือเป็นดราม่าที่ค่อนข้างหนัก และมีความเป็นผู้ใหญ่สูงกว่าตอนอื่น
เปิดด้วยเรื่องราวของ ผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าที่ ทางการงาน และ ต้องดูแลครอบครัว
กับผู้หญิง ที่ต้องการจะอยู่กับคนรักให้มากที่สุด เรื่องราวเปิดมาให้น่าสนใจด้วย
การนำเหตุการณ์ หนึ่งแล้วเล่าย้อนไปตอนต้นซึ่งน่าสนใจไม่น้อย จนกระทั่งวันหนึง
นางเอกเกิดอาการความจำย้อนกลับ ที่เธอจะจำได้แต่เรื่องอดีต นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เขาต้องหันมาสนใจเธอจริงจังเสียที ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ถ้าใครที่ชอบหนังเคล้าน้ำตา เรื่องนี้มีโอกาสสูงที่บ่อน้ำตาคุณจะแตกออกมา
จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นตอนที่ประทับใจที่สุดได้ก็ไม่ผิดเลยครับ
คะแนนสำหรับเรื่อง หวาน A- ( บทเกลามาดี ประเด็นแรงและชัดเจนมากในตอนสุดท้ายบวกด้วยการแสดงที่น่าจำจำและเด่นทั้งคู่ )
4. ฝัน ( ผกก. ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล )
ผลงานก่อนหน้านี้ : รักแห่งสยาม , 13 เกมสยอง
จะเป็นอย่างไรถ้า ผกก. ที่น่าเชื่อถือที่สุด กลับเป็นคนที่พลาดเสียเอง ?
เหลือเชื่อครับ ที่หลังจากเราชมไป 3 ตอน เราเริ่มรู้สึกอิ่มเอม และ ได้แต่หวังว่าตอนสุดท้ายมันคงต้องเป็น
ปิดท้ายที่น่าจดจำ และยอดเยี่ยม แถม ผกก. ก็มีผลงานเจ๋ง ๆ มามาก แต่แล้วทั้งหมดกลับถูกทำลายไปหมดสิ้น
ด้วยความตลก จินตนาการ และ เอนิเมชั่น !! ใช่ครับ เรื่องนี้หลุด Concept หนังรักไปอย่างไม่เหลือเค้าแม้แต่น้อย
แถมยังเป็นการทำลายหนังทั้งเรื่อง ให้ภาพรวมแย่กว่าเดิม เนื้อเรื่องก็ดูเล่นๆ ไม่จริงจัง
ซึ่งต่างจาก 3 ตอนก่อนหน้านี้ แถมยังคนละอารมณ์โดยแท้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ
ว่าการที่นำแบนด์วง August และประเด็นความฝันมา ต้องการจะสื่ออะไรกับประเด็น ความรัก ?
5 นาทีแรกยังรู้สึกโอเคและพอรับชมได้ แต่เมื่อหลุดออกไปเป็นการ์ตูน CG และ จินตนาการสุดเลิศล้ำ ?
รับไม่ได้จริงๆครับ ทำลายหนังกันอย่างแรง ผมเกือบจะลุกออกจากโรงหนังหลายครั้ง แต่ก็ต้องทนดูเพื่อ
อาจจะมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่ ปาไปครึ่งเรื่อง ค่อนเรื่อง ก็ยังคงสนุกสนานกันต่อไป จนมากระทั่งตอนจบ
ที่อาจจะเรียกความโรแมนติก ได้บ้าง แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ความรู้สึกของคนดูที่มีกับเรื่องนี้
มันหมดสิ้นเลยทีเดียว เรียกได้ว่าพอจบ ผมเดินออกจากโรงแบบหัวเสียเลย ไม่เข้าใจ ได้แต่นึกคำนี้ในใจ
ตอนแรกผมนึกว่า อาจจะอคติคนเดียว แต่ที่ไหนได้ คนที่ไปชมเมื่อออกมาจากโรง ต่างได้แต่บ่น ว่าออกจะเพ้อเจ้อ และหลุดโลกมากๆ
ผิดหวังที่สุด เสียดาย 3 ตอนก่อนหน้าที่ทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งกลับต้องมาโดนฉุดเพราะเรื่องนี้เรื่องเดียว
คะแนนสำหรับ ฝัน C- (ให้สำหรับ ฉากตอนร้องเพลงในจินตนาการที่ทำออกมาดีอยู่
บ้าง แต่ไม่ให้อภัยเลยที่ผิดคอนเซปท์ แถมเนื้อเรื่องก็ไม่เจ๋งอีก)
B- B A- C- เห็นได้ว่าถูกฉุดอย่างแรง ผมเสียดายกับตอนหวานที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ต้องมาเสียอรรถรสเพราะตอนสุดท้าย
ถ้าแก้ตอน จูบ ให้ยาวขึ้นคงจะได้เห็นนักแสดงวัยรุ่นทำอะไรน่ารักขึ้น และน่าจะขายได้มากกว่านี้แน่
ฝัน หวาน อาย จูบ เป็นหนังที่ทำลายอารมณ์คนดูอย่างแรง ถ้าตัดให้เหลือแค่ 3 เรื่อง
คงจะทำให้ผมประทับใจได้มากกว่านี้อีก
เนื้อเรื่อง กรณีศึกษาเลยว่า ถ้าผิด Concept เมื่อไร ไม่ว่าหนังจะดีขนาดไหน ก็สามารถเขวได้เช่นกัน
เอฟเฟกต์ CG การ์ตูนก็ไม่ได้อยู่ในขั้น ตื่นตาเลย เรียกได้ว่าธรรมดา
ถ้าจะชม ขอชมเรื่อง อาย ที่โลเกชั่นสวยงาม ช่วยขับอารมณ์ได้ในระดับหนึ่ง
การแสดง ชาคริต แย้มนาม , สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา , กัญญา รัตนเพชร์ , อภิญญา สกุลเจริญสุข และ อภิศรา ทัตติ
เล่นได้ธรรมชาติมาก ส่วน มาริโอ้ เมาเร้อ และ ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ อยู่ในขั้นพอใช้
ส่วนทีเหลือ หากเอาตรง ๆ เป็นได้แค่ไม้ประดับ
ความบันเทิง น่ารัก ประทับใจ ซึ้ง และ แย่ ครับ หากเรียงตามตอน
คุณภาพ ภาพรวมอยู่ในขั้นธรรมดา เป็นเพราะอะไรคงจะไม่ต้องบรรยายกันแล้ว
มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 7.5/10
เอฟเฟกต์ 6.5/10
การแสดง 7.5/10
ความบันเทิง 7.5/10
คุณภาพ 7/10
คะแนนรวม 36/50 ให้เกรด B- ครับ แต่ส่วนตัวผมให้ B- เช่นกันครับ
สั้น ๆ ง่าย ๆ ผิดหวังและน่าเสียดายครับ ถ้าจะบอกว่า ท่าดีทีเหลว ก็ไม่ผิดครับ
ร่วมแสดงความคิดเห็นที่
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=754619 -
BoonchOOm
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 27 ธ.ค. 51 14:20
ชอบตอน หวาน ที่สุด อาจจะเพราะได้นักแสดงมืออาชีพ อย่างชาคริต แย้มนาม ส่วน อาย อาจจะเป็น เพราะมุขที่ใช้ใน หนัง กลบ หมด จึงรู้สึก เหมือนให้ความรู้สึกเขินมากกว่า ส่วน จูบ กับ ฝัน ผิดหวัง โดยเฉพาะจูบ เอาไปทำเทศกาลหนังสั้นจะดีกว่าน่ะ ฝันไม่น่าทำเป็น การ์ตูน สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ ชาคริต กับ นุ๊ก สุทธิดาได้ เครดิตไปเต็มๆๆ มาริโอ้ แข็งไงก็แข็งอย่างนั้นไปเป็นนายแบบเหอะ อย่ามาเล่นหนัง เลย แข็ง มันทั้ง 3เรื่อง เลย รักแห่งสยามให้อภัยเพราะเรื่องแรก ส่วนเรื่องที่สอง ที่สาม ก็ แข็ง อีก
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- รักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
- Harry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
- ตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม