เกร็ดน่ารู้จาก Beverly Hills Chihuahua
เกร็ดน่ารู้
- มีสุนัขแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้กว่า 200 ตัว มีทั้งพันธุ์ชิวาวา, โดเบอร์แมน, เยอรมัน เชปเพิร์ด, พุดเดิล, ปั๊ก, ไชนิส เครสเท็ดส์, ลาบราดอร์, เฟรนช์ บุลด็อก, เซนต์ เบอร์นาร์ด, บอร์เดอร์ เทอร์เรีย, ดัชชุน, บอสตัน เทอร์เรีย, ยอร์กกี, บีเกิล, ดัลเมเชียน, บอร์เดอร์ คอลลี, ปอมเมอเรเนียน, บิชอน และปักกิ่ง บางตัวมาจากสถานสงเคราะห์ในลอสแอนเจลิสและเม็กซิโก และบางตัวเคยแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดมาก่อน
- นอกจากจะมีตัวละครเป็นสุนัขแล้ว ยังมีงู นกพิราบ หมาป่าโคโยตี สิงโตภูเขา หนู อีกัวน่า รวมทั้งมนุษย์ด้วย
- ถ่ายทำโดยแสดงให้เห็นภูมิทัศน์สวยๆ ของประเทศเม็กซิโก
- ผู้สร้างเลือกนักแสดงคนและสัตว์ที่จะมาแสดงเป็นเจ้านายและสัตว์เลี้ยงไปพร้อมๆ กัน เพราะต้องการให้ตัวละครทั้งสองเข้ากันได้ และมีนิสัยเหมือนกัน
- มือเขียนบท เจฟฟรีย์ บูเชลล์ เขียนบทตัวละครสุนัข โคลอี ขึ้นมาโดยนึกถึงเสียงของ ดรูว์ แบร์รีมอร์ จากนั้นผู้สร้างก็ทาบทาม ดรูว์ ให้มารับหน้าที่พากย์เสียงบทนี้
- แอนดี การ์เซีย ผู้พากย์เสียงเป็นสุนัขเยอรมัน เชปเพิร์ดชื่อ เดลกาโด ตัดสินใจขอพบ แซมซัน สุนัขที่แสดงเป็น เดลกาโด ก่อน จึงค่อยอ่านบทภาพยนตร์ทีหลัง ผู้สร้างจึงพา แซมซัน มาที่บ้านของเขา แอนดี ถ่ายรูป แซมซัน เล่นด้วยกัน และพยายามทำความเข้าใจนิสัยใจคอและการเคลื่อนไหวของ แซมซัน
- สุนัขกลุ่มใหญ่ได้รับการฝึกให้รับบทเป็นสุนัขข้างถนนในเม็กซิโก สุนัขชิวาวาเนชัน สุนัขสปาเบเวอร์ลีฮิลล์ส และสุนัขตำรวจ
- ไมก์ อเล็กซานเดอร์ เป็นผู้นำทีมครูฝึกที่บางครั้งมีมากถึง 60 คน ซึ่งเดินทางมาจากหลายๆ ที่ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนียใต้ ฟลอริดา มอนตานา นิวเจอร์ซี เวอร์จิเนีย เนวาดา รวมไปถึงประเทศแคนาดา และเม็กซิโก ไมก์แบ่งครูฝึกเป็น 11 คู่หลักๆ แต่ละคู่จะดูแลกลุ่มสัตว์ที่แสดงบทเดียวกัน โดยมีหลักการฝึกสัตว์ที่สำคัญ คือต้องฝึกซ้ำๆ และให้กำลังใจ
- หัวหน้าครูฝึกและผู้ประสานงานฝ่ายสัตว์ ไมก์ อเล็กซานเดอร์ พบ รัสโก สุนัขชิวาวาที่เหมาะกับบท ปาปี จากสถานสงเคราะห์ โดยเห็นภาพทางอินเตอร์เน็ตก่อน จึงรีบขับรถไปที่สถานสงเคราะห์ และยอมนอนค้างในที่จอดรถ เพื่อให้ได้ตัว รัสโก มาในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น จากนั้น คริสตี มิเอเล และ แพตทริเชีย พีเบิลส์ ก็เข้ามาทำหน้าที่เป็นครูฝึกให้ รัสโก
- สุนัขที่มารับบทเป็น โคลอี เป็นชิวาวาหัวกวางอายุ 4 ปี ชื่อ แองเจิล และยังมีสุนัขที่คล้าย แองเจิล เป็นตัวแสดงแทนอีก 4 ตัว ตัวแสดงแทนเหล่านี้ได้รับการฝึกให้ทำพฤติกรรมอันเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ว่ายน้ำหรือวิ่ง
- สุนัขที่มารับบทเป็น เดลกาโด เป็นสุนัขพันธุ์เยอรมัน เชปเพิร์ดอายุ 4 ปี ชื่อ แซมซัน ซึ่งบทบาทนี้ต้องอาศัยพละกำลังมหาศาลและต้องวิ่งบ่อย จึงมีสุนัขที่มาแสดงแทนเวลา แซมซัน เหนื่อยอีกหลายตัว มี 2 ตัวมาจากสถานสงเคราะห์ในลอสแอนเจลิส ตัวหนึ่งมาจากเยอรมนี และอีกตัวหนึ่งมาจากผู้ฝึกสุนัขตำรวจในลอสแอนเจลิส โดยมี เรย์ บีล และ จิม ดิว ทำหน้าที่เป็นครูฝึกให้สุนัขกลุ่มนี้
- แผนกผู้ฝึกสัตว์เดินทางไปเซอร์เบีย รัสเซีย โครเอเชีย ฮังการี และอิตาลี เพื่อตามหาสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมน 4 ตัวมารับบท เดียโบล ตัวร้ายของเรื่อง กระทั่งได้ อารัด สุนัขโดเบอร์แมน พินเชอร์วัย 2 ปีจากฮังการี ซึ่งเดิมทำหน้าที่คุ้มภัยเจ้านายมาเป็นนักแสดงหลักของบทนี้ โดยมี แจ็กกี แคปทัน และ โจ แม็กคาร์เตอร์ ทำหน้าที่เป็นครูฝึกสุนัขทุกตัวที่รับบท เดียโบล
- ผู้สร้างนำสุนัขพันธุ์ชิวาวาเกือบ 50 ตัวที่มีรูปร่างลักษณะที่แตกต่างกัน จากทั้งอเมริกาและเม็กซิโก มารับบทเป็นฝูงชิวาวาป่าที่อาศัยอยู่เป็นกลุ่มในนครลึกลับแห่งเตชิชิ
- ตัวละครสุนัขข้างถนนเม็กซิกันในเรื่อง เป็นสุนัขข้างถนนเม็กซิกันจริงๆ จำนวน 40 ตัว ซึ่งผู้สร้างภาพยนตร์ยืมตัวมาจากสถานสงเคราะห์บนภูเขานอกเม็กซิโกซิตี้ ที่ซึ่งมีสุนัขข้างถนนทั้งหลายอาศัยอยู่กว่า 200 ตัว
- ผู้สร้างสร้างฟาร์มสุนัขขึ้นในเปอร์โตวัลลาร์ตาและเม็กซิโกซิตี้ ในประเทศเม็กซิโก เพื่อใช้เป็นที่พักและที่ฝึกของสุนัข ซึ่งมีทั้งลานวิ่งออกกำลังกาย สถานที่สำหรับเตรียมและเก็บอาหาร บ้านสุนัขสำหรับสุนัขแต่ละตัว สถานที่สำหรับอาบน้ำสุนัข และพื้นที่โล่งแจ้ง
- หลังจากปิดกล้อง นักแสดงสัตว์ที่มาจากสถานสงเคราะห์หลายตัวได้ย้ายบ้านไปใช้ชีวิตอยู่กับครูฝึกสัตว์ของกองถ่ายหรือนักแสดง หรือทีมงานแผนกอื่นๆ เช่น แองเจิล ที่รับบท โคลอี ได้ไปอยู่กับครอบครัวของหัวหน้าครูฝึก ไมก์ อเล็กซานเดอร์ และ รัสโก ที่รับบท ปาปี ได้อาศัยอยู่ที่บ้านไร่ขนาด 7 เอเคอร์นอกเมืองลอสแอนเจลิสของ คริสตี มิเอเล ครูฝึกของ รัสโก เอง
- ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย มารีสเตลา เฟอร์นานเดซ ออกแบบเสื้อผ้าของสุนัข โคลอี ซึ่งพากย์เสียงโดย ดรูว์ แบร์รีมอร์ ตามอย่างเสื้อผ้ายี่ห้อชาแนลและวาเลนติโน และให้ช่างฝีมือตัดเย็บเสื้อผ้าของ โคลอี ด้วยมือ รวมแล้วมีทั้งหมด 17 ชุด โดยใช้เนื้อผ้าเบาสบาย ทำจากธรรมชาติ สวมและถอดออกได้ง่าย และทำให้ดูผอมเพรียว ส่วนสร้อยเพชรที่ โคลอี สวมเกือบตลอดทั้งเรื่อง ออกแบบภายในเวลา 3 สัปดาห์ โดยออกแบบให้ทั้งดูดีและเอื้อต่อการถ่ายทำ
- ที่ปรึกษาฝ่ายวิชวลเอฟเฟกต์ ไมเคิล เจ. แม็กอลิสเตอร์ มีหน้าที่ทำให้ภาพการแสดงของสุนัขจริงดูเหมือนขยับปากพูดได้ และสร้างสัตว์เสมือนจริงด้วยคอมพิวเตอร์ นั่นคือตัวละครหนู มานูเอล และอีกัวน่า ชิโก รวมไปถึงสุนัขคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแสดงแทนในฉากผาดโผนด้วย
- ฉากที่สุนัข เดลกาโด ต้องคาบสุนัข โคลอี แล้ววิ่งนั้น ผู้สร้างให้สุนัขที่แสดงเป็น เดลกาโด คาบถุงถั่วที่มีขนาดและรูปร่างพอๆ กับ โคลอี ไว้แทน เพื่อให้ลักษณะปากและคอดูเหมือนกำลังคาบอะไรบางอย่างที่หนักหลายปอนด์ไว้จริงๆ จากนั้นแผนกวิชวลเอฟเฟกต์จะนำภาพ โคลอี มาตัดต่อแทนที่ถุงถั่วนั้น
- เนื่องจากผู้สร้างไม่สามารถฝึกหนูและอีกัวน่าจริงๆ ให้ทำอะไรได้มากนัก พวกเขาจึงสร้างตัวละครหนู มานูเอล และอีกัวน่า ชิโก ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิก แต่ขณะถ่ายทำก็ยังต้องนำตุ๊กตายางลาเท็กซ์รูปหนูและอีกัวน่ามาเสียบไม้แล้วขยับไปมา เพื่อให้มีข้อมูลอ้างอิงเรื่องแสง ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์
- จอร์จ โลเปซ ผู้พากย์เสียง ปาปี เล่าว่าการที่สุนัขชิวาวา รัสโก ได้มารับบทเป็น ปาปี นั้น ทำให้ รัสโก ไม่ถูกสถานสงเคราะห์จับไปฆ่า
advertisement
วันนี้ในอดีต
Lone Survivorเข้าฉายปี 2014
แสดง Mark Wahlberg, Taylor Kitsch, Emile Hirsch
The School of Rockเข้าฉายปี 2004
แสดง Jack Black, Mike White, Joan Cusack
มหัศจรรย์...พันธุ์รักเข้าฉายปี 2004
แสดง ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, รัฐพร วัฒนสมบัติ, สุชาญา ไกรสุวรรณ
เกร็ดภาพยนตร์
- Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
- Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»
