เกร็ดน่ารู้จาก Death Race

เกร็ดน่ารู้
  • พอล ดับเบิลยู.เอส. แอนเดอร์สัน ดัดแปลงบทเรื่องนี้ โดยอิงจากบทภาพยนตร์ของ โรเบิร์ต ธอม และ ชาร์ลส์ กริฟฟิธ เรื่อง Death Race 2000 (1975)
  • ฉากโรงงานเหล็กตอนเปิดเรื่อง ซึ่งผู้ชมได้เห็นตัวละคร เจนเซน อาเมส ซึ่งรับบทโดย เจสัน สเตแธม ครั้งแรกนั้น ถ่ายทำกันในโรงงานที่กำลังปฏิบัติงานอยู่จริงๆ และเจสันอยู่ท่ามกลางพนักงานโรงงานจริงๆ โดยมีหม้อต้มขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโลหะเหลว ถูกตะแคงเทอยู่ด้านหลัง นอกจากนี้ พวกเขาได้ถ่ายภาพคนงานในชุดกันไฟ ขณะใช้สายยางน้ำแรงดันสูงทำความสะอาดหม้อยักษ์ระหว่างเปลี่ยนกะด้วย
  • รถแข่งของ เจนเซน อาเมส ซึ่งรับบทโดย เจสัน สเตแธม เป็นรถฟอร์ดมัสแตง จีที 2006 ซึ่งรู้จักกันในชื่อเดอะมอนสเตอร์ รถถูกตกแต่งด้วยป้ายจารึกบนหลุมศพที่ทำจากเหล็กหนา 3/4 นิ้ว และปืนขนาดเล็ก 2 กระบอก ที่สามารถยิงกระสุนได้ 3,000 นัดต่อนาที
  • ไทรีส กิบสัน ในบท แมชชีน กัน โจ ขับรถดอดจ์แรม 1500 คว็อดแค็บ โฟวีล ปี 2004 ที่ติดเกราะเสริมอาวุธ และติดตั้งปืนวัลแคน ซึ่งเป็นปืนที่ติดตั้งบนเฮลิคอปเตอร์ ทำให้รถคันนี้วิ่งช้าและหนักกว่ารถคันอื่น
  • ผู้สร้างเปลี่ยนเพลาหลังน้ำหนัก 1,500 ปอนด์ของรถดอดจ์แรมส์ไปเป็นเพลาหนัก 1 ตัน เพื่อให้มันสามารถรับน้ำหนักทั้งหมดของรถได้ เพราะรถคันนี้เพิ่มอุปกรณ์เสริมที่หนักถึง 2,500 ปอนด์เข้าไป มีทั้งเหล็ก ปืน แบตเตอรี่ดินปืน เฉพาะปืนใหญ่ที่ติดอยู่ด้านหลังก็หนักเกือบๆ 800 ปอนด์แล้ว
  • ช่างเครื่องและช่างประกอบรถ ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ในการสร้างรถ 1 คัน จากนั้นพวกเขาใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์ทำแผ่นโลหะขนาดบางๆ ซึ่งเลียนแบบจากแผ่นเกราะขนาดหนา เอาไว้ใช้ป้องกันการโจมตีจากศัตรู
  • เรื่องนี้ใช้รถทั้งสิ้น 34 คัน ได้แก่ มัสแตง 6 คัน ดอดจ์แรม 5 คัน ปอร์เช 4 คัน จากัวร์ 3 คัน บีเอ็มดับเบิลยู 3 คัน และรถ บูอิก 3 คัน รถของนักแสดงหลักมีทั้งสิ้น 11 คัน นอกจากนี้ทีมงานยังได้ติดต่อขอใช้รถของ ฟอร์ด ไครสเลอร์ และ ดอดจ์ และรถจากนิตยสารประกาศขายรถอีกหลายคัน
  • ไม่มีนักแสดงและทีมงานคนใดของเรื่องนี้ ที่เดินออกไปจากกองถ่ายโดยไม่มีรอยช้ำติดเนื้อติดตัวไปด้วย และแทบไม่มีรถคันไหนที่ออกจากสนามแข่งไปโดยมีล้อครบ 4 ล้อเลย หลังจากที่ถูกใช้งานโดยทีมนักแสดงแทนและกองถ่ายย่อยที่ 2
  • การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้กองถ่ายถึง 3 กอง ได้แก่ กองหลัก ซึ่งถ่ายทำส่วนที่เป็นการแสดง โดยมีผู้กำกับ พอล ดับเบิลยู.เอส. แอนเดอร์สัน เป็นคนควบคุม ส่วนกองย่อยที่ 1 จะรับผิดชอบภาพแทรกทั้งหมด เช่น ภาพเท้าที่เหยียบอยู่บนคันเร่ง ภาพของรอบเครื่อง พวงมาลัย เป็นต้น และกองย่อยที่ 2 รับผิดชอบฉากต่อสู้และฉากผาดโผนโดยเฉพาะ กำกับโดย สไปโร ราซาทอส
  • ผู้กำกับ พอล ดับเบิลยู.เอส. แอนเดอร์สัน พยายามถ่ายทำจริงโดยใช้นักแสดงแทนและสลิงให้มากที่สุด จะใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์และวิชวลเอฟเฟกต์เฉพาะกรณีที่การถ่ายทำจริงในกองถ่ายนั้นเป็นไปไม่ได้เท่านั้น
  • นักแสดงแทนจะแสดงฉากที่มีระเบิด ส่วนนักแสดงจริงจะแสดงฉากขับรถและฉากต่อสู้ โดยนักแสดงต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เจสัน สเตแธม ฝึกร่างกายกับ โลแกน ฮูด อดีตสมาชิกหน่วยเนวีซิลอยู่นานหลายเดือน โดย โลแกน เคยเป็นครูฝึกร่างกายให้นักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง 300 (2006) มาก่อน
  • รถคันไหนที่ต้องระเบิด ภายในจะไม่มีคนขับ ผู้สร้างใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์สร้างรถที่ควบคุมด้วยรีโมตขึ้นมา
  • เนื่องจากมีทั้งฉากที่รถวิ่งไปด้วยความเร็ว และฉากรถระเบิดและไฟไหม้ งานนี้จึงมีอันตรายมากมาย เหล่านักแสดงแทนต้องสวมชุดกันไฟที่หนาถึง 3 ชั้นเอาไว้ตลอดเวลา
  • มีการสร้างจุดเติมน้ำมันหรือเปลี่ยนยางรถ คอยเคลื่อนที่ตามกองถ่าย ทีมช่างเครื่องต้องทำงานกันตลอดทั้งคืน เพื่อเตรียมรถให้พร้อมสำหรับการถ่ายทำวันรุ่งขึ้น พวกเขาต้องตรวจตรารถทุกคันเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยแน่นอน เมื่อทำงานจนหมดวัน ก็จะนำรถเหล่านั้นส่งให้กับทีมงานอีกกะหนึ่งนำไปซ่อมแซม

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
  • Life Partners - คริสเตน เบลล์ ถูกวางตัวให้มารับบท ซาชา แต่จำเป็นต้องถอนตัวเพราะตั้งครรภ์ อีวาน ราเชล วูด จึงเป็นนักแสดงคนถัดไปที่จะเข้ามารับบทนี้แทน แต่ อีวาน ก็ตั้งครรภ์เช่นกันจึงต้องถอนตัวออกไปอีกคน ภายหลังบทนี้ก็ได้ เลห์ตัน มีสเตอร์ มาแสดงในที่สุด อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Hunt The Hunt ท่ามกลางทฤษฎีสมคบคิดทางอินเตอร์เน็ตสุดป่าเถื่อน กลุ่มชนชั้นนำรวมตัวกันเป็นครั้งแรกที่คฤหาสน์หลังใหญ่ เพื่อล่ามนุษย์เป็น...อ่านต่อ»