SIAMZONE.COM

หนังแอนตี้ ฮีโร่ เรื่องดังเรื่องหนึ่ง เป็นหนังที่ ต้องถือว่าทำออกมาได้เสมอตัว มีแอกชั่น มีเอฟเฟคท์ในแบบที่หนังแอกชั่นทั่วไปมี สำหรับคนที่ชอบหนังแนวนี้ ดูแล้วน่าจะชอบ แต่ส่วนตัวผมแล้ว ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หนังมันเดาได้หมด

เร้ดดูเท่จัง แม้จะหน้าไม่หล่อ(ยิ่งกว่าไม่หล่อ)
เพิ่งไปดูวันนี้ โอเลยนะหนุกดี

ถ้าถามความรู้สึกนะครับ
ประมาณว่าหนังเรื่องนี้ยังคงความรู้สึกที่ผิดหวังไว้ได้เหมือนภาคแรก
คงเป็นเพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบแิิอ็คชั่นล้างผลาญด้วยมั้งครับ
เลยเหมือนว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่
แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวเลยแหละนะครับ

ของเค้าดีจริงๆ

อืม... แรกๆ ก็ว่าจะไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว แต่พอดีเพิ่งรู้ว่า ผกก.คนนี้ที่เคยกำกับ Panฯ (หนังชั้นเทพเรื่องหนึ่ง ของปีที่แล้ว) แต่เอาเข้าจริง ก็สมแล้วกับที่ได้กำกับเรื่องที่ผ่านมาเลย ตัวประหลาดทั้งหลายคล้ายกันจนดูน่าเกลียด ดูไม่ค่อยลงทุนเท่าไร เพราะทีแรกก็สงสัยอยู่แล้วว่าภาคแรกก็ไม่ได้ดังมาก จะมีภาค2 ไปทำไม พอได้สัมผัสแล้วถึงบางอ้อ... ถ้าไม่มี Panฯ สักเรื่อง ภาค2 คงไม่ได้เกิด แต่ถ้ามี Panฯ ก็ควรจะสร้าง hellboy มันอีกสักภาค เอามาหลอกดูดเงินเล่นคนแถวนี้เล่น แล้วก็ได้ผลด้วยครับ..

ชอบนะ เร้ดกวนดี ภาคนี้
ภาคที่ออกแนวเศร้าๆ

หนังดีนี่ครับ ดูได้เรื่อยๆ ตัวประหลาดเยอะดี บางทียังหลงนึกว่า กำลังดู แฮรรี่พอร์ทเตอร์ เวอร์ชั่น เด็กนรกซะอีก เอิ้กๆ....

แต่ก็อย่างว่า หนังแนวนี้ มันสร้างมาซะเกร่อเมือง ดูก็รู้ว่าเป็น CG ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ยังดีที่ ผู้กำกับยังมี จินตนาการสูงส่ง ทาง นิทาน ก่อนนอน...

ที่ทำให้เราโอนเอียงและ อิน ไปกับหนังได้ดี แต่ตัว เฮลบอย กลับ ไม่เห็นแปลกใจอะไร เมื่อรู้ว่า นิทานที่ตัวเองเคยฟัง ในสมัยเด็ก มันคือ ความจริง

ทำให้อารมณ์ด้อยลงไปนิด เอ็บ ก็หลงรักองค์หญิงซะ หึหึ....

สรุปแล้ว หนังดี ครับ ดุได้ไม่เสียดายตังค์แน่นอน...แต่พอหนังจบ กลับลืมไป ว่าเคยดูเรื่องนี้ซะงั้น ไม่เหมือน WANTED เรยที่ยังเก็บเอาไปฝันถึง ลูกกระสุนไซค์โค้ง อิอิ...

เอาไป 8/10 ละกันจ้าาาาาาาา

ทำดีกว่าภาคแรก แต่ดูแล้วก็ยังเื่อื่อยๆ ชนะกันง่ายเหลือเกิน

ทำดีกว่าภาคแรกนะคับ แต่ก็ยังไม่ถึงกับมันส์มาก

แต่เอาไปเทียบกับ hancock นี่มันแปลกๆนะ หนังมันคนละแนวกัน - -a

ให้ 7/10

Hellboy 2 : The Golden Army : ฮีโร่พันธุ์นรก

ฮีโร่แนว Anti-Hero ที่ใช้ความประหลาดขัดแย้งของบุคลิกกับนิสัยตัวเองดำเนินเรื่องนั้นสามารถช่วยให้
คนดูสนใจในด้านของอารมณ์และจิตใจตัวละครได้ดี ซึ่งกับ Hellboy ก็เป็นแบบนั้นครับ

ผกก. Guillermo Del Toro ที่เพิ่งฝากชื่อฝนผลงานรางวัลกับ Pan's Labyrinth ที่เป็นแฟนตาซีสุดบรรเจิด
หลังจากที่ไปล่ารางวัลแล้ว เขาก็กลับมากับหนังตลาดสุดๆกับภาคต่อเรื่องนี้ สิ่งที่น่าชื่นชมคือ
ตัวหนังนั้น ใส่ใจในรายละเอียดที่มากขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆ ในด้านประเด็นความเป็นปีศาจของตัวเอกเอง
ประเด็นของนางเอก Liz Sherman (Selma Blair) ที่..(ขอไม่เล่านะครับ เพราะสปอยจุดใหญ่เลยทีเดียว) คอยเป็นตัวเพิ่มประเด็น
แถมยังจะมีในบทของเอ๊บ (Doug Jones) ที่เพิ่มมากขึ้นที่ไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบเดินไปมา

อย่างที่ได้พูดไปว่าหนังใส่รายละเอียดเล็กน้อยปลีกย่อยรวมกันจนเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและติดตาม
แต่กลับเนื้อหาหลักจริงๆนั้น กลับพื้นมากๆ ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงและ
ยังแถมคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้แบบชิวๆเสียอีก แต่โชคดีที่เนื้อเรื่องก็ยังดำเนิน
เรื่องได้แข็งแรงและประเด็นรองมีความเยี่ยมในตัว
จึงทำให้จุดด้อยของบทภาพยนตร์ไม่แย่เท่าไรนัก และไหนจะความสนุกของเนื้อเรื่องที่เพิ่มมากขึ้น
แฟนตาซีมากขึ้น ฉากแอ็คชั่นที่สะใจกว่า ถึงแม้ฉากสุดท้ายจะไม่เป็นที่สะใจของใครหลายคน
แต่ความบันเทิงที่ได้นั้นมากกว่าภาคแรกที่ให้ครับ

ในด้านบทบาทต่างๆ พัฒนาการด้านตัวละครนั้นเป็นสิ่งที่เด่นชัดและน่าประทับใจมากในภาคนี้
ซึ่งบทของ Liz และ Abe ซึ่งจากภาคแรกเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น แต่กลับมาคราวนี้สามารถโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งโดยเฉพาะ Liz ที่ดูขึ้นพัฒนาราวกับว่า เธอเขาถึงตัวละครนั้นจริงๆ

สรุปแล้วว่า Hellboy 2 : The Golden Army เป็นความบันเทิงที่สมราคาไปด้วยความอลังการ
แม้เนื้อเรื่องจะง่ายดายและพื้นไปนิด แต่รายละเอียดปลีกย่อยและพัฒนาการที่ดูจริงจังขึ้น
จึงทำให้กลายเป็นความบันเทิงที่สนุกขึ้นทันตา แม้จะไม่ยอดเยีย่มดังที่คาดหวังกันไว้
แต่ก็ไม่ได้แย่และเกิดความรู้สึกเสียดายตังค์เลยแม้แต่น้อย

เนื้อเรื่อง เรื่องหลักพื้นและคาดเดาได้ง่าย แต่ประเด็นรองที่มากมายนั้นน่าสนใจและชวนติดตามได้ดีครับ
เอฟเฟกต์ อลังการงานสร้างขึ้น ซึ่งใครที่ประทับใจจินตนาการสุดลึกล้ำจาก Pan's Labyrinth คงอยากไปดูเป็นแน่แท้
การแสดง ดารานำทั้ง 3 คน เล่นได้ดีขึ้น ราวกับว่าเขาถึงตัวละครนั้นและเข้าใจมากขึ้น ส่วนตัวร้ายดูพื้นๆไปนิด
ความบันเทิง ฉากแอ็คชั่น เอฟเฟกต์ และมุขตลกที่สอดแทรกเข้ามานั้น เปรียบเสมือนกับกำไรครับ
คุณภาพ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจพอสมควร แต่ยังเจ๋งเด็ดขาดนัก

มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 7/10
เอฟเฟกต์ 9/10
การแสดง 8/10
ความบันเทิง 8/10
คุณภาพ 7.5/10
คะแนนรวม 39.5/50 ให้เกรด B+ ครับ แต่ส่วนตัวผมให้ B ครับ
ยังหน้ายินดีที่ภาคต่อเรื่องนี้ มีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเก่า จนทำให้อยากติดตามแล้วว่า ผกก.Guillermo Del Toro
จะปิดตำนานเรื่องราวของ "เด็กนรก" ได้น่าสนใจอย่างไร ?

สนุกดีนะ

เราว่า

แต่ไม่ปลื้มตอบจบเท่าไร

แต่ก็สนุกมากมายยยยยยยยย

มันส์ ยกกำลัง 2 เยย

คิคิ

ให้ 9 / 10