เกร็ดน่ารู้จาก WALL-E
เกร็ดน่ารู้
- เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 9 จาก ดิสนีย์ และ พิกซาร์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์ ผู้กำกับและมือเขียนบท แอนดรูว์ สแทนทัน เป็นผู้ทำงานในพิกซาร์ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก เขาเข้าร่วมงานกับพิกซาร์ในปี 1990 ซึ่งสตูดิโอเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ๆ เป็นแอนิเมเตอร์คนที่ 2 และพนักงานคนที่ 9 ของสตูดิโอ
- เมื่อปี 1994 ที่คนทำงานรุ่นบุกเบิกของพิกซาร์ แอนดรูว์ สแทนทัน, จอห์น แลสซีเทอร์, พีต ด็อกเทอร์ และ โจ แรนต์ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และพูดคุยเรื่องภาพยนตร์ที่อาจทำต่อไปในอนาคต ทำให้เกิดความคิดที่จะสร้าง A Bug's Life (1998) Monsters, Inc. (2001) Finding Nemo (2003) และเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
- ผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน ได้อิทธิพลในการสร้างเรื่องนี้ จากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ในยุค 70 เช่น Star Wars (1977) Alien (1979) Blade Runner (1982) และ Close Encounters of the Third Kind (1977)
- ผู้สร้างค้นคว้าข้อมูลก่อนเริ่มงานโดยไปทัศนศึกษาที่โรงงานรีไซเคิล เพื่อสังเกตการทำงานของเครื่องบดขยะขนาดยักษ์ ไปเยี่ยมนักวิทยาศาสตร์ของนาซาที่ห้องทดลอง เจต โพรพัลชัน เข้าร่วมงานประชุมเกี่ยวกับหุ่นยนต์ ซึ่งมีหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิดจากกรมตำรวจในท้องถิ่นมาแสดง และชมภาพยนตร์เงียบและภาพยนตร์วิทยาศาสตร์หลายเรื่อง เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการแสดงสีหน้าท่าทาง
- ผู้ออกแบบงานสร้าง ราล์ฟ แอกเกิลสทัน ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างฉากในเรื่องนี้ มาจากภาพร่างแนวคิดโลกในอนาคต ทูมอร์โรว์แลนด์ ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ซึ่งออกแบบโดย ดิสนีย์ อิเมจิเนียร์ส รวมทั้งภาพวาดโครงการอวกาศหลายชิ้นของนาซาจากยุค 40, 50 และ 60 เช่น ภาพตึกรามบ้านช่องบนดาวอังคาร
- คนทำงานในพิกซาร์เรียก แมลงสาบ ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของ วอลล์-อี ในเรื่องว่า ฮัล ตั้งชื่อตาม ฮัล โรก ผู้อำนวยการสร้างเลื่องชื่อในยุค 20 และเพื่อเป็นการแสดงความคารวะต่อตัวละคร ฮัล 9000 จากเรื่อง 2001: A Space Odyssey (1968)
- ผู้ให้เสียง มาเธอร์ คอมพิวเตอร์ของยานอวกาศ แอกเซียม คือ ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ผู้เปิดตัวในโลกภาพยนตร์ด้วย Alien (1979) หนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน คณะผู้สร้างเลือกเธอให้มาพากย์เสียงบทนี้ เพื่อแสดงความคารวะต่อภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์
- เดิม จิม เรียร์ดอน และ แอนดรูว์ สแทนทัน ผู้เขียนบทร่วมกัน ตั้งใจจะทำให้เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ตลก แต่เมื่อเขียนบทไปเรื่อยๆ พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้เป็นทั้งภาพยนตร์ตลก ภาพยนตร์รัก และภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ด้วย
- ผู้กำกับและผู้เขียนบท แอนดรูว์ สแทนทัน ได้ฟังเพลง Put on Your Sunday Clothes เพลง Out There และเพลง It Only Takes a Moment ในภาพยนตร์ Hello, Dolly! (1969) และเกิดแรงบันดาลใจในการกำหนดบุคลิกของตัวละคร วอลล์-อี ให้เป็นตัวละครที่สนใจเรื่องความรัก
- จุดเริ่มต้นของการออกแบบตัวละคร วอลล์-อี คือดวงตาของเขา ซึ่งผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน ได้แรงบันดาลใจจากการใช้กล้องส่องทางไกลขณะชมการแข่งขันเบสบอล การออกแบบส่วนที่เหลือของ วอลล์-อี คำนึงจากประโยชน์ใช้สอยในการทำงาน ที่ต้องเก็บขยะเข้าไปในตัวเองแล้วอัดให้กลายเป็นก้อน ต้องมีรางเลื่อนสำหรับเคลื่อนไหวขึ้นลงกองขยะ และมีมือไว้ใช้แสดงท่าทาง
- สตีฟ ฮันเตอร์ ที่ปรึกษาแอนิเมเตอร์เล่าว่า ในช่วงแรกพวกเขาออกแบบ วอลล์-อี ให้มีข้อศอก เพื่อจะได้แสดงท่าเคลื่อนไหวได้หลากหลาย แต่ วอลล์-อี ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บขยะเข้าไปในท้อง จึงไม่จำเป็นต้องมีข้อศอก ผู้กำกับการสร้างแอนิเมเตอร์ แองกัส แมกเลน จึงเปลี่ยนมาออกแบบให้เขามีรางเลื่อนรอบด้าน ทำให้เขาเปลี่ยนตำแหน่งการวางแขนได้
- ตัวละคร อีฟ เป็นหุ่นยนต์ที่กระพริบตาได้ และมีชิ้นส่วนที่ขยับได้ 4 ส่วน เธอถูกออกแบบให้ดูเหมือนหุ่นยนต์จากอนาคตที่เรียบง่ายและเลิศหรู จึงเคลื่อนไหวด้วยแรงแม่เหล็กได้อย่างพลิ้วไหว ไม่เงอะงะ ในขณะที่การเคลื่อนไหวของ วอลล์-อี เป็นแบบเก่า ที่มีเครื่องยนต์และฟันเฟือง
- ผู้ออกแบบเสียง เบน เบิร์ต ได้สร้างคลังไฟล์เสียง 2,400 ไฟล์ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดที่เขาเคยรวบรวมสำหรับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งๆ และเรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกของเขา
- เบน เบิร์ต สร้างเสียงแมลงสาบบิน โดยใช้เสียงเปิดปิดกุญแจมือของตำรวจ สร้างเสียง อีฟ บิน ด้วยเสียงเครื่องบินบังคับวิทยุความยาว 10 นิ้ว ที่บินโฉบหัวเขาไป สร้างเสียงลมพายุด้วยการลากถุงผ้าใบขนาดใหญ่ตามทางเดินที่ปูด้วยพรม และสร้างเสียง วอลล์-อี ตอนดันเกียร์สูง ด้วยเสียงตัวกระตุกเครื่องยนต์ของเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ในยุค 30
- ผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน อยากให้เรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องจริงๆ ไม่ใช่ภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่องด้วยภาพ และลดทอนบทพูดลง ดนตรีจึงยิ่งมีบทบาทสำคัญกว่าปกติ เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้แต่งโดย โธมัส นิวแมน
- เพลงปิดภาพยนตร์ Down to Earth เป็นเพลงที่ โธมัส นิวแมน ร่วมแต่งกับ พีเทอร์ เกเบรียล
- ผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน ชื่นชอบดนตรีของ โธมัส นิวแมน ผู้แต่งดนตรีประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้มานานแล้ว และเขายังเป็นแฟนเพลงของ พีเทอร์ เกเบรียล ที่แต่งเพลงปิดท้ายให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ มาตั้งแต่อายุ 12 ปี
- ผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน เล่าเรื่องการสร้างเรื่องนี้ ให้ผู้แต่งดนตรีประกอบ โธมัส นิวแมน ฟังครั้งแรกในคืนการประกาศผลรางวัลอคาเดมี อวอร์ดปี 2004 ขณะกำลังร่วมฉลองให้ภาพยนตร์ Finding Nemo ที่พวกเขาร่วมงานกัน แอนดรูว์ บอก โธมัส ว่าเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Hello, Dolly! (1969) และมารู้ทีหลังว่าผู้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ Hello, Dolly! คือ ไลออนเนล นิวแมน ลุงของ โธมัส เอง
- จิม เรียร์ดอน ขอถอนตัวออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาผู้กำกับแอนิเมชันชุดทางโทรทัศน์ The Simpsons (1989) เพื่อมารับหน้าที่เขียนบทร่วมกับผู้กำกับ แอนดรูว์ สแทนทัน ในภาพยนตร์เรื่องนี้
- ชื่อของตัวละครหลักในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นชื่อจากตัวย่อ วอลล์-อี (WALL-E) ย่อมาจาก นักกำจัดขยะในระดับชั้นโลก (Waste Allocation Load Lifter-Earth-class) ส่วน อีฟ (Eve) ย่อมาจาก นักประเมินพืชพันธุ์จากนอกโลก (Extraterrestial Vegetation Evaluator) และ เอ็ม-โอ (M-O) ย่อมาจาก นักทำลายจุลินทรีย์ (Microbe Obliterator)
- เนื่องจาก สตีฟ จอบส์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทแอปเปิล เป็นผู้บริหารระดับสูงของพิกซาร์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้จึงอ้างถึงผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลหลายครั้ง เช่น ตอนที่ วอลล์-อี เติมพลังงานแสงอาทิตย์จนเต็ม จะมีเสียงบูตอัปแบบเดียวกับเสียงคอมพิวเตอร์แมคอินทอชในปี 1996 วอลล์-อี ชมภาพยนตร์โปรดของเขาทางไอพอด และเสียงของระบบบินอัตโนมัติเป็นเสียงจากแมคอินทอล์ก หรือระบบแปลงอักษรเป็นเสียงพูดของแอปเปิล
- เสียงลมบนโลกในเรื่องนี้ สร้างจากเสียงน้ำตกไนแองการา
- ตัวละคร วอลล์-อีเก็บสะสมสิ่งของจากยุค 60-80 ไว้มากมาย เช่น เทปวิดีโอภาพยนตร์เรื่อง Hello, Dolly! (1969) ของเล่นลูกบาศก์ของรูบิก และเครื่องเล่นวิดีโอเกม อทาริ 2600 พร้อมเกมปิงปอง Pong (1972) แม้เรื่องราวในภาพยนตร์จะเกิดขึ้นหลังจากสิ่งของเหล่านี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาถึง 800 ปี แต่สิ่งของเหล่านี้ยังคงใช้การได้
- ขยะชิ้นสุดท้ายที่ วอลล์-อี จัดการขณะกำลังออกจากชั้นบรรยากาศของโลก คือ ดาวเทียม สปุตนิก 1 ของรัสเซีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 1957 ถือเป็นสิ่งของที่มนุษย์ประดิษฐ์ชิ้นแรกที่อยู่ในวงโคจรของโลก
- ผู้สร้างอุทิศภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แก่ จัสติน ไรต์ แอนิเมเตอร์ของพิกซาร์อายุ 27 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว
- ชื่อยานอวกาศที่มนุษย์อาศัยอยู่ในเรื่องนี้คือ เอกเซียม ซึ่งในวิชาตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ แอกเซียมหมายถึงหลักเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป ไม่มีข้อสงสัย
- ผู้ออกแบบเสียง เบน เบิร์ต บันทึกเสียงจำนวนมากในห้องเก็บของเก่า
- เสียงสวบสาบของแมลงสาบในเรื่อง สร้างจากการนำเสียงแร็กคูนมาทำให้เร็วขึ้น
- ในช่วง 30 นาทีแรกของภาพยนตร์นั้นไม่มีบทพูดเลย
- ชื่อปลอมขณะขนส่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไปยังโรงภาพยนตร์คือชื่อ Sundaye
- ในห้องเครื่องของกัปตันยาน แอกเซียม มีตู้เก็บวัตถุโบราณ ซึ่งมีหมวกนักบินอวกาศสีขาวของนาซา สมัยยุค 80 วางอยู่
advertisement
วันนี้ในอดีต
300: Rise of an Empireเข้าฉายปี 2014 แสดง Eva Green, Rodrigo Santoro, Sullivan Stapleton
สลัดตาเดียวกับเด็ก 200 ตาเข้าฉายปี 2008 แสดง ศรัณยู วงษ์กระจ่าง, เกศริน เอกธวัชกุล, นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ
10,000 B.C.เข้าฉายปี 2008 แสดง Camilla Belle, Steven Strait, Cliff Curtis
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
32 Malasana Street
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1976 เมื่อ ครอบครัวอัลเมโด ย้ายจากบ้านหลังเก่าย่านชนบทเข้ามายังบ้านใหม่ในย่านมาลาซาญา กรุงมาดริด ...อ่านต่อ»