วิจารณ์ Hancock
-
tommy คับ
(เลขที่ 66668)
เมื่อ 29 ธ.ค. 51 09:49
ถ้าเราดูหนังเพื่อความบันเทิง
หนังเรื่องนี้ก็บันเทิงแบบ 9-10 เต็มครับ -
Benz
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 30 ก.ค. 51 17:14
หนังมีการเล่าถึงประเด็นความรักที่ลึกซึ้งดี ผมชอบนะ
-
birdyboy
(เลขที่ 178420)
เมื่อ 21 ก.ค. 51 16:08
กระแสบางกระแสบอกมาว่าหนังห่วย ตอนไปดูก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก
ดูเสร็จแล้วก็รู้สึกว่าหนังไม่ได้ห่วยอย่างที่หลายๆคนบอกเลยนะ แต่ก็ไม่ได้เป็นหนังที่ดีเลิศ แต่ผมชอบมุมมองของหนังที่แตกต่างจากหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วๆไปโดยการที่ให้ตัวละครของHancockเป็นคนจรจัดมีมีพลังพิเศษแบบซุปเปอร์ฮีโร่
แต่เมื่อแผลงฤทธิ์เมื่อไหร่ก็เกิดความเสียหายจนคนเกลียดขี้หน้ามากกว่าชื่นชม จนถึงขนาดต้องมีการวางแผนเปลียนภาพลักษณ์ตัวเอง ผมว่ามุมมองตรงนี้เป็นมุมมองที่มีความเป็นตัวของตัวเองเพราะมีความเสียดสี และน่าขันอยู่มาก อยากเช่นฉากClipในYoutubeที่เราเห็นHancockเงอะๆง่านๆ กางเกงขาดเห็นก้น หรือการที่็Hancockต้องจำใจใส่ชุดรัดหุ่นให้เหมือนกับซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วๆไปเพื่อให้ภาพลักษณ์ดูดี
มันก็เป็นมุมมองที่เสียดสีวัฒนธรรมซุปเปอร์ฮีโร่ที่ต้องการให้ซุปเปอร์ฮีโร่ดูเก่งฉลาดและเพอเฟ็คไปทุกๆอย่าง
แต่หนังเรื่องนี้ต้องการจะมองว่าถ้าซุปเปอร์ฮีโร่เป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตจะเกิดอะไรขึ้น
น่าเสียดายที่หนังไม่เล่นกับมุมมองเสียดสีซุปเปอร์ฮีโร่และการสร้างภาพลักษณ์ให้ถึงขีดสุด เพราะในครึ่งหลังของหนัง หนังกลับพยายามสร้างความซีเรียสและดราม่า ซึ่งมันออกจะขาดๆเกินๆไปซักหน่อย ทำให้ไคลแม็กซ์ของหนังมันยังไม่ถึงขีดสุด
Will Smith ถือว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้ค่อนข้างดีมาก ดูเข้ากับบทบาทซูเปอร์แอนตี็ฮีโร่ตัวนี้ได้ดีทีเดียว
นักแสดงที่ผมอยากยกนิ้วให้คือ Charlize Theron ที่แสดงบทออกมาได้อย่างมีมิติโดยที่ตัวละครของเธอไม่ได้มีมิติอะไรมากมายเลยสักนิด นี่แหละฝีมือนักแสดงที่ได้กล่องมากแล้ว แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่าเธอมาทำอะไรในหนังตลาดที่ไม่ต้องใช้ความสามารถอะไรมากในเรื่องนี้
โดยรวมแล้วก็ถือว่าหนังดูได้เพลินๆ ค่อนข้างตลกขำขัน เสียดสี ในครึ่งแรก แต่ออกรางไปทำดราม่าและซีเรียสที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือในครึ่งหลัง
ไม่ได้ห่วยแตกและไร้สาระโคตรอย่างที่หลายๆคนบอก
ให้ 7.5/10 ครับ -
rattiya
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 18 ก.ค. 51 11:56
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น 1.อ่านบทวิจารณ์ของหนังสือเล่มหนึ่งแล้ว (เครือ animegroup)พูดถึงหนังเรื่องนี้ว่าไม่ได้ให้อะไร รู้สึกไม่ดีสำหรับการวิจารณ์ เลยอยากเขียนเรื่องนี้ให้ใครหลาย ๆ คนอ่าน ในฐานะที่เป็นอดีตคนดูหนังมากๆ คนหนึ่ง(ปัจจุบันดูน้อยเรื่อง)
2.ถ้าคิดแบบคนรักหนังแล้วจะเห็นว่า หนังบอกให้เรามองคนทุกคนเป็นคนดี โดยเฉพาะคนทุกคนย่อมมีเหตุแห่งพฤติกรรม
3.คนเขียนบทภาพยนต์ฉลาดที่จะไม่ระบุที่มาของทั้งตัวเอกและคู่ของเขา ปล่อยให้คนดูเป็นคนคิดเอง(แต่นักวิจารณ์บางคนไม่คิด กลับมองว่าเป็นเรื่องน้ำเน่า) ลองคิดดูว่า พวกเขาเป็นใคร กลุ่มอาดัมกับอีฟซึ่งเมื่ออยู่ร่วมกันแล้วเป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์มนุษย์ หรือเป็นกลุ่มหนูทดลองที่ถูกสร้างขึ้นอย่างการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องกายเวอร์ หรือเป็นกลุ่มมนุษย์ต่างดาวที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมมาเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ โดยรวมแล้ว เขาอาจจะเป็นกลุ่มผู้ปกครอง หรือเป็นต้นกำเนิดของคนธรรมดาในปัจจุบัน หรือทั้งสองอย่างก็ได้ แล้วแต่คนดูจะคิด
4.บทสรุปของหนังแผงแนวคิดปรัชญาในเรื่องความเป็นอยู่และความมีอยู่ของสังคม แต่ละคนมีบทบาทของตนเอง การคงอยู่ของตัวเอกในเรื่องย่อมต้องมีเหตุผล และมารผจญหรือตัวร้ายในตอนท้ายของเรื่องกล่าวคำบางคำที่มีนัยถึงการรู้ตัวตนของ hancock ทำให้เห็นว่า ธรรมะและอธรรมเป็นของที่อยู่คู่กันทุกยุคทุกสมัย โดยตอกย้ำความรู้สึกของผู้ชมผ่านทางการเล่าเรื่องของตัวละคร
5.ตัวหนังไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ถ้าจะพูดว่าไม่ได้ให้อะไร อันนี้ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด -
coco51
(เลขที่ 199967)
เมื่อ 14 ก.ค. 51 09:03
ดูแต่หนังฮีโร่ที่มีตัวร้ายเก่ง แล้วมาสู้ๆกัน
ไม่เบื่อบ้างหรือ -
tIK-alone
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 13 ก.ค. 51 22:36
หนังเรื่องนี้ เหมือนพยายามจะเอา ความเป็นดราม่า เข้ามาในเรื่อง แต่ก็ไม่ได้เป็นดราม่าเหมือนหนังฮีโร่ ทั่วไป เลยทำให้ดูเหมือนกับว่า มันไม่ค่อยจะลงตัวเท่าไหร่
เรื่องนี้ วิล สมิธ เล่นได้ดีอีกแล้ว สีหน้า ท่าทาง ความโศกเศร้าจาก
การกระทำที่หวังดี ผิดหวังกับผลที่ตามมา และรู้สึกแย่กับคนรอบข้าง เขาสามารถถ่ายทอดออกทางสีหน้า และ อารมณ์ที่สุดๆ ไม่ต่างจากหนังก่อนหน้านี้เลย I am legend
เมื่อฮีโร่ท้อแท้ ผิดหวัง จึงยอมอ่อนให้กับเพื่อนใหม่ที่เชื่อมั่นในตัวเขา แม้ภรรยาของเพื่อนคนนี้ จะไม่ชอบขี้หน้าฮีโร่เอามากๆ
มุมกล้องในช่วงเวลาที่ถ่ายตอนที่ Hancock เข้าไปอยู่ในคุก เป็นมุม กล้องที่ทำให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกลึกๆที่ตัวละครของเรื่องพยายามสื่อสารออกมาได้มาก มาก และ มากที่สุด การวาดภาพบนผนัง การนับวันเวลาคอย ความรู้สึกหว่าเหว่ หดหู่ สิ้นหวัง คุณมีอะไรจะเล่าให้พวกเราฟังไหม ?
หนังจัดว่าดี ยอมรับในความสามารถของนักแสดง แต่เรื่องเนื้อเรื่องก็ถือว่าดี ในความพยายามทำในสิ่งที่แปลกใหม่แต่อยู่ในหนังแนวซุเปอร์ฮีโร่ แค่ปรับให้มันกลมกลืนอีกนิด คงแจ่ม!
สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ตลก เศร้า หดหู่ สุขใจ ประทับใจ เสียใจ ท้อแท้ สิ้นหวัง ความรัก เสียสละ ห่วงใย เอาเป็นว่ามีหมดเลยล่ะกัน ยกเว้น มีผีโผล่เข้ามาในฉาก ไม่มี! -
batton
(เลขที่ 163305)
เมื่อ 12 ก.ค. 51 19:27
อยากให้มีภาค2อ่ะ
เนื้อเรื่องมันก็กระชับดี
แต่อยากให้ซักได้ 2 ชม น่าจะดีเลย -
Podsawat
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 ก.ค. 51 11:52
ดู ๆ ไป ก็สนุกดีนะ ไม่ได้คิดมากอยู่แล้ว
อยากไปดูมาดกวน ๆ ของพี่วิล สมิธเขาด้วย
ชอบครับ -
motherF
(เลขที่ 61767)
เมื่อ 11 ก.ค. 51 21:59
ก็เหมือนได้ดูความกวนของ will smith อย่างหนังเรื่องก่อนๆ ของเค้าทั่วไปแหละ เ่ช่น i,robot , bad boy แ่ต่ถ้ามันไม่กวน มันก็ไม่ฮา 5555+
โดยรวมหนังทำดีนะ แต่บางฉากก็ดูโอเว่อร์ ไม่ค่อยสมเหตุสมผล
ให้ 8.5/10 ค่ะ -
Kingbangna
(เลขที่ 170039)
เมื่อ 8 ก.ค. 51 10:29
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ผมให้ 8/10 อ่ะ ชอบบทมากกว่า special effect เพราะชี้ให้เห็นในมุมที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ หรือคนธรรมดา ก็หนีไม่พ้นรัก-โลภ-โกรธ-หลง กันไปได้
แม้ว่ารักกันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ใช่ป่ะ สรุปว่าผมไปดู wanted มาก่อน แต่พอมาดู Hancock ก็ยังคิดว่าดีอ่ะครับ เชียร์ให้ไปดูครับ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- เขาชนไก่เข้าฉายปี 2006 แสดง วศิษฎ์ ผ่องโสภา, ทวีรัตน์ จุลศิริ, อภิพล ตรีเทวะวงษา
- เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเข้าฉายปี 2006 แสดง มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, แอนดี้ เขมภิมุก
- Happy Feetเข้าฉายปี 2006 แสดง Robin Williams, Hugh Jackman, Elijah Wood
เกร็ดภาพยนตร์
เปิดกรุภาพยนตร์
Five Feet Apart เรื่องราวความรักระหว่าง สเตลลา (ฮาลีย์ ลู ริชาร์ดสัน) และ วิล (โคล สเปราส์) หนุ่มสาววัย 17 ที่ตกหลุมรักกัน พวกเขาจีบกัน...อ่านต่อ»