เกร็ดน่ารู้จาก Kung Fu Panda

เกร็ดน่ารู้
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้มีผู้กำกับ 2 คน คือ จอห์น สตีเวนสัน ที่เคยร่วมงานกับดรีมเวิร์คส์มาก่อนในเรื่อง Shrek (2001) อีกคนคือ มาร์ก ออสบอร์น ที่เคยสร้างภาพยนตร์สต็อปโมชั่นขนาดสั้นเรื่อง More (1998)
  • เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเต็มรูปแบบเรื่องแรกของผู้กำกับ มาร์ก ออสบอร์น
  • ผู้กำกับ จอห์น สตีเวนสัน ศิลปินและนักวาดภาพเรื่องราว กำลังเตรียมงานกำกับฤดูกาลสุดท้ายของละครโทรทัศน์ค่ายดรีมเวิร์คส์ชื่อ Father of the Pride แล้วก็มีคนมาทาบทามให้เขากำกับเรื่องนี้ ซึ่ง จอห์น ชอบภาพยนตร์กังฟูยุค 70 มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก จึงตอบตกลงรับงาน
  • ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้มี 2 คน คือ โจนาธาน เอเบล และ เกล็นน์ เบอร์เกอร์ พวกเขาทำงานต่อจากโครงเรื่องที่มีมาอยู่แล้ว โดยขัดเกลาบท ตัดบางฉากออก และลำดับเรื่องราวให้ดูดี งานสำคัญของพวกเขาคือทำให้เรื่องที่มีรายละเอียดมากมายนี้มีสารที่จะบอกเล่าที่ชัดเจนขึ้น การเล่าเรื่องราวให้เข้าใจได้เป็นจุดประสงค์หลัก จากนั้นพวกเขาค่อยทำให้เรื่องตลกหรือสนุกขึ้น รวมแล้วพวกเขาใช้เวลาทำงานทั้งหมด 19 เดือน
  • เนื่องจาก แจ็ก แบล็ก ที่พากย์เสียง โป ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักแสดงตลก หลายคนจึงคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีฉากตลกล้อเลียน แต่จริงๆ แล้วไม่มี ผู้กำกับ จอห์น สตีเวนสัน อธิบายว่า เป็นเพราะทุกคนที่ทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ชื่นชอบภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้จริงๆ จึงอยากแสดงความเคารพและให้เกียรติภาพยนตร์เหล่านั้น
  • ผู้กำกับ มาร์ก ออสบอร์น ต้องการให้ตัวละครสัตว์ของเขาเคลื่อนไหวอย่างสมจริง แต่ก็ยังสามารถแสดงท่าทีแบบการ์ตูนได้ เช่น ตกจากที่สูงหลายร้อยฟุตโดยไม่ตาย
  • ผู้กำกับ มาร์ก ออสบอร์น ถ่ายทอดเรื่องความรักในกังฟูของตัวละคร โป โดยได้แรงบันดาลใจจากเพลง Cosmic Shame ของวง Tenacious D ของ แจ็ก แบล็ก ผู้พากย์เสียงเป็น โป ซึ่งเป็นเพลงที่บอกว่าการทำตามหัวใจปรารถนาเป็นเรื่องสำคัญแค่ไหน และยังบอกด้วยว่ากุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสุขที่แท้จริงคือการไล่ตามความฝัน
  • แจ็ก แบล็ก เคยพากย์เสียงแอนนิเมชั่นมาก่อนแล้ว โดยพากย์เป็นตัวละครสมทบ ฉลามเลนนี่ ในเรื่อง Shark Tale (2004) ซึ่งเจฟฟรีย์ คัตเซนเบิร์ก ประธานบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ชื่นชอบเสียงพากย์ของ แจ็ก จึงทาบทามให้เขามาพากย์เสียงเป็น โป ตัวเอกในภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ตอนเป็นเด็ก แจ็ก แบล็ก เคยเรียนคาราเต้และยูโด ทั้งยังเคยได้ถ้วยจากการแข่งขันยูโดด้วย
  • คณะผู้สร้างเปิดทางให้ ดัสติน ฮอฟฟ์แมน ผู้พากย์บท ฉีฟู เสนอแนะความเห็นเกี่ยวกับตัวละครของเขาได้อย่างเต็มที่ และมีสิทธิขอปรับเปลี่ยนทุกอย่างที่ไม่ชอบใจได้ เมื่อ ดัสติน บอกให้พวกเขาแก้ไขจมูก โดยที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไม ผู้สร้างก็แก้โดยทำให้ ฉีฟู ปากกว้างขึ้น และขยายฟันให้ใหญ่ขึ้น
  • ในการพากย์เสียงส่วนใหญ่จะเป็นงานเดี่ยวของผู้พากย์แต่ละคน มีเพียง ดัสติน ฮอฟฟ์แมน ที่พากย์เป็นฉีฟู และ แจ็ก แบล็ก ที่พากย์เป็น โป เท่านั้นที่ได้มีโอกาสบันทึกเสียงด้วยกัน
  • ผู้สร้างออกแบบให้ตัวละคร 5 ตัวที่เรียกรวมๆ ว่า เจ้าตำนานผู้พิชิตทั้งห้า เป็นสัตว์ต่างๆ ที่มีรูปแบบการต่อสู้แบบศิลปะการต่อสู้ ดังที่จะเห็นได้ในภาพยนตร์กังฟูสมัยก่อน ที่ตัวละครที่เป็นคนทำท่าต่อสู้โดยเลียนแบบสัตว์ แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครเหล่านี้เป็นสัตว์ประเภทดังกล่าวจริงๆ ได้แก่ พยัคฆ์ นกกระเรียน อสรพิษ ตั๊กแตน และวานร
  • แองเจลิน่า โจลี่ เล่าว่าในตอนที่เธอได้เห็นภาพตัวละครทุกตัว และยังไม่รู้ว่าตัวเองจะได้พากย์เป็นตัวอะไร เธอก็นึกอยากพากย์เสียงเป็น ไทเกรส เพราะเธอสักรูปเสือตัวใหญ่เอาไว้ที่หลัง และลูกๆ ของเธอก็ชอบดูภาพเสือ
  • เซ็ธ โรเก็น เล่าถึงเรื่องบังเอิญอันแปลกประหลาด ว่าเขาเพิ่งพูดกับใครสักคนไปว่า เขาไม่เคยแสดงเป็นตั๊กแตนเลย แล้วในวันนั้นคณะผู้สร้างก็โทรศัพท์มาเสนอบท แมนทิส ตั๊กแตนจอมต่อยให้เขา
  • เซ็ธ โรเก็น พูดถึงลักษณะภายนอกของ แมนทิส ว่า สูงประมาณหกนิ้ว มีหกขา และหน้าตาเหมือน เซ็ธ หาก แมนทิส มีจมูกใหญ่ขึ้นและสวมแว่นตา ก็จะเหมือน เซ็ธ มากขึ้นอีก
  • สมัยเด็ก เซ็ธ โรเก็น เคยเล่นคาราเต้ เขาฝึกคาราเต้ที่ศูนย์ชุมชนชาวยิวในแวนคูเวอร์อยู่หลายปี ซึ่ง เซ็ธ เองคิดว่ามันเป็นประโยชน์ต่องานพากย์เสียงเป็น แมนทิส ตั๊กแตนจอมต่อย ในภาพยนตร์เรื่องนี้
  • เจมส์ ฮอง ผู้พากย์เสียงเป็น มิสเตอร์พิง คุณพ่อห่านของ โป เป็นลูกชายคนทำบะหมี่ เขาจึงเข้าใจ โป กังฟูแพนด้า ที่เป็นลูกชายคนทำบะหมี่ เพราะครอบครัวของ เจมส์ อยากให้เขาเป็นวิศวกรโยธา และเขายอมเรียนวิชาชีพวิศวกร แต่แล้วก็กลายมาเป็นนักแสดง ในขณะเดียวกัน เจมส์ ก็เข้าใจ มิสเตอร์พิง ซึ่งเป็นพ่อของ โป เป็นอย่างดีด้วย เพราะเขารู้วิธีดำเนินงานร้านบะหมี่ดีอยู่แล้ว
  • ตัวละคร อูเกวย์ ผู้เฒ่าเต่า มีอายุ 1 พันปี
  • ผู้กำกับศิลป์ ทัง เฮง นำความหมายของสีสันจากวัฒนธรรมจีนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เช่น สีทองสำหรับองค์ฮ่องเต้ และสีแดงสำหรับโชคดี เป็นสองสีหลักที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ส่วนฉากหุบเขานั้นเต็มไปด้วยสีเขียว สีของความดี ส่วนโลกของไต้หลุง เสือดาวหิมะจอมโฉดเต็มไปด้วยสีน้ำเงิน สีที่เยือกเย็นเพราะเขาเป็นเสือดาวหิมะ
  • ตัวละครทุกตัวมีรูปร่างสมส่วน ยกเว้น โป ที่เป็นแพนด้าตัวกลมปุ๊กหนัก 260 ปอนด์ นาธาน ลูฟโบร์โรว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคตัวละคร ออกแบบให้ร่างกายอ้วนกลมของ โป สามารถรองรับแรงกระแทก ทำให้เขาสามารถยืดหดแขนขาได้ โดยที่พุงของเขาขยับเคลื่อนไหวไปด้วย
  • การสร้างแอนิเมชั่นสองมิตินั้นจะต้องใช้ภาพที่วาดด้วยมือ และสร้างเป็นแอนิเมชั่นเฟรมต่อเฟรม ด้วยอัตราความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที ดังนั้น ภาพเคลื่อนไหว 2 นาทีจะต้องใช้ภาพวาดด้วยมือถึง 3,000 แผ่น นักวาดภาพ เจมส์ แบ็กซ์เตอร์ สารภาพว่าเขาสร้างแอนิเมชั่นได้วันละ 1 วินาที ดังนั้นเขาจึงต้องให้นักวาดภาพกว่า 10 คนวาดภาพ 3,000 แผ่นนั้นขึ้นมา รวมแล้วใช้เวลานาน 3 เดือน
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเพลงประกอบเป็นเพลงออเคสตรา ฝีมือการประพันธ์ของ ฮานส์ ซิมเมอร์ และ จอห์น พาวเวล
  • ผู้ให้เสียงพากย์ภาษาไทยของภาพยนตร์เรื่องนี้มีดังนี้ ดีเจเชาเชา - ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม พากย์เป็น โป กังฟูแพนด้า, รอง เค้ามูลคดี พากย์เป็น ฉีฟู ปรมาจารย์กังฟู, แคท - แคทรียา อิงลิช พากย์เป็น ไทเกรส พยัคฆ์เสือ, เอ็กซ์ - ปิยะ วิมุกตายน พากย์เป็น ไต้หลุง เสือดาวหิมะจอมโฉด และ ใหม่ - สุคนธวา เกิดนิมิตร พากย์เป็น ไวเปอร์ อสรพิษไฟ

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Kingsman: The Secret Service - แอรอน เทย์เลอร์ จอห์นสัน ปฏิเสธบท แกรี ภายหลังบทนี้แสดงโดย แทรอน เอเจอร์ตัน อ่านต่อ»
  • Fifty Shades of Grey - แองเจลินา โจลี ได้รับข้อเสนอให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เธอปฏิเสธ ภายหลังได้ แซม เทย์เลอร์ จอห์นสัน มารับหน้าที่กำกับ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

My Hero Academia The Movie Heroes Rising My Hero Academia The Movie Heroes Rising เมื่อเหล่านักเรียนชั้นปี 1 ห้อง เอ ได้เดินทางไปเกาะทางตอนใต้ เพื่อเข้ารับการฝึกฝนในโครงการฮีโรรุ่นใหม่ที่จะมาสานต่อหน้า...อ่านต่อ»