เกร็ดน่ารู้จาก Speed Racer
เกร็ดน่ารู้
- เป็นการร่วมงานเขียนบทและกำกับของสองพี่น้อง แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี เป็นครั้งแรกนับแต่ภาพยนตร์ไตรภาคเรื่อง The Matrix
- สองพี่น้องผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี เลือกหยิบการ์ตูนเรื่อง Speed Racer มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ เพราะการ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ทั้งคู่ชื่นชอบมานานแล้ว อีกทั้งในเรื่องยังมีแรงผลักดันด้านครอบครัวที่เข้มแข็ง ซึ่งตรงกับความต้องการของพวกเขา ที่อยากจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัว ที่เหมาะจะให้หลานๆ ชม
- ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Speed Racer ดูโดดเด่นแตกต่างจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ที่ออกฉายทางโทรทัศน์ในช่วงนั้น ทำให้ผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี ติดงอมแงม และพลอยทำให้พวกเขาชื่นชอบภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องอื่นๆ ของญี่ปุ่นอีกด้วย
- เรื่อง Speed Racer ฉบับดั้งเดิมนั้นเป็นหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ของนักเขียนการ์ตูนรุ่นบุกเบิก ทัตซูโอะ โยชิดะ เจ้าของฉายา ไพลอต เอซ และในปี 1967 เป็นแอนิเมชั่นฉายทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่นชื่อ Mach Go Go Go จากนั้นอีก 6 เดือนต่อมา ชาวอเมริกันก็นำมาดัดแปลงเป็นภาษาอังกฤษ และใช้ชื่อว่า Speed Racer
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ความสามารถในการแสดงของนักแสดงแทนในหลายต่อหลายฉาก เช่น การขับรถด้วยความเร็วมากกว่า 400 ไมล์ต่อชั่วโมง
- ในเรื่องนั้น ทุกคนในครอบครัวของพระเอกอย่าง สปีด กิน ดื่ม และหายใจเป็นการแข่งขัน และยังมีนามสกุลว่า เรซเซอร์ ที่แปลว่า นักแข่ง อีกด้วย พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ในละแวกชนบท โดยมีรถแข่ง มาช 5 ที่พวกเขาภาคภูมิใจตั้งอยู่ตรงกลางในห้องนั่งเล่น
- เอมิล เฮิร์ช ผู้รับบท สปีด เองก็เป็นแฟนการ์ตูน Speed Racer ซึ่งเขาเฝ้าชมทุกตอน ขณะรับประทานซีเรียลเป็นอาหารเช้า อีกทั้งเขายังเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์ไตรภาค The Matrix (1999, 2003) ของผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี อีกด้วย
- คริสติน่า ริชชี่ เล่าถึงตอนที่เธอเข้าไปทดสอบหน้ากล้องว่าเธอประหม่าจนพูดไม่ออก เพราะเธอเป็นแฟนตัวยงของผู้กำกับ แอนดี และ แลร์รี วาคาวสกี มายาวนาน จากนั้นเธอก็เห็นว่า พวกเขาสวมรองเท้าคอนเวิร์สสีดำรุ่น ชัก เทย์เลอร์ เหมือนกับเธอโดยบังเอิญ ซึ่งทำให้บรรยากาศดีขึ้นในทันที
- จอห์น กู้ดแมน ผู้รับบทเป็น ป๊อป เรซเซอร์ เติบโตมากับการได้ติดตามชมการ์ตูนเรื่อง Speed Racer ทางโทรทัศน์ เมื่อรู้ข่าวว่าผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี กำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาก็พยายามหาโอกาสเข้ามาร่วมงานด้วยทันที
- แมตธิว ฟ็อกซ์ ซึ่งรับบทเป็นนักแข่ง เรซเซอร์ เอ็กซ์ ผู้ลึกลับ ไม่เคยได้ชมการ์ตูน Speed Racer สมัยเป็นเด็ก เพราะเติบโตมาจากฟาร์มใน ไวโอมิ่ง ที่ไม่มีโทรทัศน์ แต่เขาก็ค้นคว้าเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อนที่จะได้พบกับผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี ซึ่งทำให้เขารู้สึกอยากแสดงเป็น เรซเซอร์ เอ็กซ์ มากยิ่งขึ้น
- พอลลี่ ลิตต์ ได้รับเลือกให้แสดงบทบาทของ สปริตตเติ้ล จากบรรดานักแสดงรุ่นเยาว์ถึง 250 คน ซึ่งเขาได้เข้าฉากในประเทศเยอรมนีตลอดฤดูร้อน และใช้เวลาอยู่กับชิมแพนซีทั้งวัน ซึ่ง พอลลี่ เห็นว่าเป็นเรื่องยอดเยี่ยมมาก
- บท ชิม-ชิม แสดงโดยลิง 2 ตัว ได้แก่ วิลลี่ ลิงอายุ 3 ปี ซึ่งได้ฝึกฝนมากกว่า จึงแสดงเป็นตัวหลัก และ เคนซี่ อายุ 2 ปี แสดงในช่วงพักของวิลลี่ และเป็นตัวแสดงแทน โดยมีผู้ประสานงานเกี่ยวกับสัตว์ของกองถ่าย คือ สเลด เรย์โนล์ด คอยดูแล
- ตามบทแล้ว สปริตเติล และ ชิม-ชิม จะสนิทสนม ไม่ห่างจากกันเลย พอลลี่ ลิตต์ ที่รับบท สปริตเติล จึงต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวันกับลิง วิลลี่ และ เคนซี่ เพื่อให้คุ้นเคยกัน พอลลี่ เล่าว่าเขาเองชอบสัตว์อยู่แล้ว จึงทำงานได้ดี ไม่มีปัญหา พอลลี่ เห็นว่า พวกมันน่ารักและฉลาดมากๆ ทั้งยังมีนิสัยและหน้าตาแตกต่างกันอีกด้วย
- ผู้รับบทเจ้าของ รอยัลตัน อินดัสตรีส์ คือ โรเจอร์ อัลแลม นักแสดงชาวอังกฤษ ซึ่งเคยร่วมงานกับผู้กำกับ แอนดี และ แลร์รี วาคาวสกี มาก่อนจากภาพยนตร์เรื่อง V For Vendetta (2005)
- ฮิโรยูกิ ซานาดะ ผู้รับบท มิสเตอร์มูชิ โตมาโดยได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Mach Go Go Go ในรูปแบบภาษาญี่ปุ่น เขาเล่าว่า ยังคงจำเพลงเปิดตัวได้อยู่
- เป็นภาพยนตร์อเมริกันเรื่องแรกของ เรน โดยรับบทเป็น เทโจ โทโกคาห์น
- หนึ่งในนักแสดงของเรื่องนี้ มีนักแข่งรถอิสระรวมอยู่ด้วย คือ มิลก้า ดูโน ชาวเวเนซูเอล่า รับบทเป็นนักแข่งกรังปรีซ์ชื่อ เคลลี่ เกียร์บ็อกซ์ คาลินคอฟ
- ผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี ตัดสินใจให้ รถแข่ง มาช 5 ของพระเอก มีรูปลักษณ์ย้อนยุค ตามแบบฉบับดั้งเดิมจากในการ์ตูน นั่นคือเป็นคันสีขาวเงางาม มีเครื่องหมายตัว เอ็ม สีแดงเด่นอยู่บนหลังคา เนื่องจากดูเป็นอมตะและไม่เหมือนใคร
- ผู้กำกับ แลร์รี่ และ แอนดี วาคาวสกี ได้ออกแบบรถ มาช 6 เพิ่มเข้ามาในเรื่องด้วย เป็นรถที่ใช้แต่เพียงการแข่งขัน เวิลด์ เรซซิ่ง ลีก เท่านั้น พวกเขาคัดเลือกรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แต่ยังคงไว้ซึ่งสีและรูปร่างของรถ มาช 5 แล้วพวกเขาก็ตั้งชื่อเรียกรถแข่งประเภทนี้ว่า ที 180 เพราะมันสามารถพลิกล้อทั้งหมดได้ถึง 180 องศา และกระโดดข้ามเกาะกลางเพื่อทำให้เกิดหลายๆ จี เพื่อร่นเวลาในการแล่น
- รถ มาช 5 ของ สปีด และรถ ชูตติ้ง สตาร์ ของ เรซเซอร์ เอ็กซ์ นอกจากจะเป็นแบบจำลองแล้ว ยังถูกสร้างขึ้นมาจริงอย่างเต็มสัดส่วนเพื่อใช้ในฉากบางฉาก แต่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปไหนได้เพราะไม่มีการติดตั้งเครื่อง ภาพที่เห็นรถแข่งลอยได้ หรือชนกันอย่างรุนแรงในภาพยนตร์นั้นถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคดิจิตอลทั้งสิ้น
- ในตอนแรกทีมงานอยากจะถ่ายทำฉากแข่งรถโดยใช้รถจริงบนสนามแข่งจริง แต่ตามบท ความเร็วของรถ และฉากประทะกันในเรื่องค่อนข้างหวือหวา จนการสร้างด้วยเทคนิคดิจิตอลนั้นเหมาะสมกว่า
- ผู้กำกับ แลร์รี และ แอนดี วาคาวสกี เป็นผู้สร้างภาพยนตร์แรกที่ใช้กล้อง โซนี่ เอฟ-23 เอชดี ซึ่งยังไม่ได้ออกวางจำหน่ายเป็นทางการในตอนที่เริ่มเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องนี้
- ภาพที่มีสีสันเกินจริงในเรื่องนี้ เรียกว่าภาพ ป๊อปมิสติก หรือ เทคโน-คัลเลอร์
- เครื่องแต่งกายของตัวละครจะมีสีเฉพาะตัว ป๊อป ใช้สีแดง มัม ใช้สีเขียว เรซเซอร์ โดยรวมใช้สีฟ้ากับขาว เพื่อทำให้เครื่องแต่งกายดูเด่นขึ้นมา พวกเขาจึงใช้สีส้ม เทอร์คอยซ์ และชมพูฟูเซียเป็นสีหลักของของในบ้าน และใช้สีแดงเป็นพื้น เรียกกันว่า แดงเรซเซอร์
- เครื่องแต่งกายของตัวละคร สปีด เรซเซอร์ จะดูทันสมัยขึ้นกว่าในการ์ตูน แต่ก็คล้ายคลึง ในการ์ตูนนั้น สปีด จะแต่งตัวเหมือนเดิมในแต่ละตอน คือเสื้อโปโลสีฟ้าคอสีขาว กางเกงสีขาว และถุงมือแข่งรถสีแทน มีผ้าเช็ดหน้าสีแดงและถุงเท้าแดง ตอนที่ ทัตสูโอะ โยชิดะ สร้างสรรค์พระเอกของเรื่อง Mach Go Go Go ในปี 1960 นั้น เขาได้แรงบันดาลใจมาจากรูปลักษณ์ของ เอลวิส เพรสลี่ย์ ในเรื่อง Viva Las Vegas (1964)
- สีสันเสื้อผ้าของตัวละคร ทริกซี่ นั้นเป็นสีชมพูลูกกวาด เข้ากับเฮลิคอปเตอร์สีหวานและบุคลิกภาพของเธอ
- ในการออกแบบเครื่องแต่งกายของ สปริตเติล และ ชิม-ชิม ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย คิม บาร์เร็ตต์ ปรึกษานักออกแบบที่ลอสแองเจลิส พอล แฟรงก์ ซึ่งสัญลักษณ์กราฟฟิกรูปลิงของเขาได้รับความนิยมในวงการเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ พอล เชิญ คิม มาที่โกดังของบริษัท แล้วเธอก็เจอชุดนอนรูปลิงที่เหมาะกับ สปริตเติล จากนั้นพวกเขาก็ออกแบบชุดนอนของลิง ชิม-ชิม ให้คล้ายของ สปริตเติล แต่เปลี่ยนจากรูปลิงเป็นรูปหน้าเด็กผู้ชาย
- สำหรับเครื่องแต่งกายของตัวละคร เรซเซอร์ เอ็กซ์ ยังคงมีหน้ากากเหมือนในการ์ตูน เสื้อผ้าเป็นสูทหนังที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องทะนุถนอมมาก และไม่ดูคล้ายอาชญากร ซึ่งแมตธิว ฟ็อกซ์ ผู้รับบท เรซเซอร์ เอ็กซ์ เล่าว่าใส่แล้วร้อนเร็วมาก เวลาแสดงฉากต่อสู้ เขาจึงต้องถ่ายแค่เทกสั้นๆ
- แมตธิว ฟ็อกซ์ ผู้รับบท เรซเซอร์ เอ็กซ์ ได้ฝึกเทควันโดมาหลายปี และเคยเข้าแข่งมาแล้วด้วย จึงมีประโยชน์ต่อการแสดงฉากต่อสู้ในเรื่อง ขณะที่ เอมิล เฮิร์ช ผู้รับบท สปีด ต้องมาฝึกวิชากังฟูใหม่แต่แรก
- เอมิล เฮิร์ช ผู้รับบท สปีด เล่าว่าเมื่อชมภาพยนตร์ The Matrix (1999, 2003) แล้ว เขาคิดว่าผู้กำกับพี่น้อง แอนดี และ แลร์รี วาคาวสกี คงเป็นคนจริงจังกับชีวิต แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นคนตลก สนุกสนาน และมีจิตใจเป็นเด็ก
- ภาพยนตร์เรื่องนี้เกือบได้กำกับโดย อัลฟองโซ คัวรอน และแสดงนำโดย จอห์นนี เดปป์
- โรส แมกโกเวน เกือบได้รับบท ทริกซี่ แต่ผู้กำกับเห็นว่าเธออายุมากเกินไป
- สก็อตต์ พอร์เตอร์ และ แมตธิว ฟ็อกซ์ เกิดวันเดียวกัน คือวันที่ 14 กรกฎาคม
- ปีเตอร์ เฟอร์นันเดซ ผู้ให้เสียงพากย์ สปีด เรซเซอร์ และ เรซเซอร์ เอ็กซ์ ในการ์ตูน แสดงเป็นผู้ประกาศในการแข่งขันในภาพยนตร์เรื่องนี้
- คีนู รีฟส์ เคยปฏิเสธบท เรซเซอร์ เอ็กซ์
advertisement
วันนี้ในอดีต
- Alexanderเข้าฉายปี 2004 แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
- Puss in Bootsเข้าฉายปี 2011 แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
- ฝนตกขึ้นฟ้าเข้าฉายปี 2011 แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต
เกร็ดภาพยนตร์
- Demonic - ประกาศสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยชื่อ House of Horror เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2011 โดย เจมส์ วาน รับหน้าที่อำนวยการสร้าง อ่านต่อ»
- Child 44 - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ที่ ทอม ฮาร์ดี ผู้รับบท เลโอ และ แกรี โอลด์แมน นักแสดงบท มิกเฮล ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน เรื่องก่อนหน้านี้คือ Tinker Tailor Soldier Spy (2011) Lawless (2012) และ The Dark Knight Rises (2013) อ่านต่อ»