เกร็ดน่ารู้จาก The Forbidden Kingdom

เกร็ดน่ารู้
  • ผู้อำนวยการสร้าง เคซี่ย์ ซิลเวอร์ ตั้งใจไว้ตั้งแต่อ่านบทครั้งแรกแล้วว่าอยากให้ เฉินหลง และ เจ็ต ลี มารับบทนำ
  • ผู้อำนวยการสร้าง เคซี่ย์ ซิลเวอร์ ส่งบทภาพยนตร์ไปให้ เจ็ต ลี ลองอ่าน ก่อนที่จะติดต่อ เฉินหลง เพราะ เจ็ต ลี มีบ้านอยู่ในแคลิฟอร์เนีย เมื่อได้คุยกันสั้นๆ เจ็ต ลี ก็แสดงความสนใจทันที เคซี่ย์ มองว่าการที่ เจ็ต ลี รู้จัก ซุนหงอคง และเข้าใจความสำคัญของตัวละครนี้ในประเทศจีนดี จะเป็นประโยชน์ต่อการนำตัวละครตัวนี้สู่สายตาผู้ชมระดับนานาชาติ
  • นักแสดงคนที่สองที่ตกลงรับแสดง คือ เฉินหลง เพราะ เจ็ต ลี เป็นนักแสดงนอกจาก ดัสติน ฮอฟแมน และ โรเบิร์ต เดอ นีโร ที่เขาอยากจะร่วมแสดงด้วยสักครั้งก่อนเกษียณ
  • เจ็ต ลี กับ เฉินหลง พลาดโอกาสในการร่วมงานกันมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อ 15 ปีก่อนหน้าเรื่องนี้ ครั้งที่สองเมื่อ 8 ปีก่อนหน้า ดังนั้น เฉินหลง จึงไม่ลังเลใจที่จะตกลงรับแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งนี่คือครั้งแรกในการร่วมงานกันของทั้งคู่
  • ไมเคิล แอนการาโน่ เข้ามารับบท เจสัน จากการคัดเลือกของ แนนซี่ ฟอย ผู้คัดเลือกนักแสดงประจำกองถ่าย หลังจากทดสอบบทกับ ร็อบ มินคอฟฟ์ ผู้กำกับ ไมเคิล ก็ถูกส่งไปทดสอบร่างกายเป็นเวลา 3 ชั่วโมงโดยฝึกกังฟูกับเด็กคนอื่นๆ เพื่อดูศักยภาพในการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ หลังจากนั้นเขาก็ไปพบ เฉินหลง ที่กองถ่าย Rush Hour 3 (2007)
  • สำหรับบท หนี่จาง หรือนางพญาผมขาว ป๊อบปิ้ง โอหยาง ผู้เชี่ยวชาญการคัดเลือกนักแสดงเอเชีย มีนักแสดงเอเชียหญิง 3 คนในใจ แต่สุดท้ายบทนี้ก็ตกเป็นของ หลี่ปิงปิง ที่เอาชนะใจผู้อำนวยการสร้าง เคซี่ย์ ซิลเวอร์ และผู้กำกับ ร็อบ มินคอฟฟ์ ด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษที่ไร้ที่ติของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่เหมือนนางพญาผมขาวในจินตนาการแรกเริ่มของพวกเขา เพราะพวกเขาคิดว่านางพญาผมขาวต้องดูแก่กว่านี้
  • ป๊อปปิ้ง โอหยาง ผู้เชี่ยวชาญการคัดเลือกนักแสดงเอเชีย ร่ายยาวรายชื่อนักแสดงที่เธอหมายตาสำหรับบทนางแอ่นทองคำให้ ร็อบ มินคอฟฟ์ ผู้กำกับฟัง แต่ หลิวอี้เฟย โดดเด่นที่สุด หลังจากที่ หลิวอี้เฟย ได้พูดคุยกับ ร็อบ และทดสอบบทร่วมกัน เธอก็ได้รับบทนี้ แม้ความสูงของเธอจะน้อยไปนิดก็ตาม
  • มือเขียนบท จอห์น ฟัสโก้ เคยฝึกกังฟูมาก่อนหน้าจะเขียนบท
  • สำหรับผู้กำกับภาพ ปีเตอร์ เปา ภาพยนตร์เรื่องนี้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาถ่ายภาพให้ในประเทศจีน เขาแบ่งทีมกล้องเป็น 2 ทีม แต่ละทีมมีสมาชิก 50 กว่าคนสำหรับดูแลเรื่องกล้องและแสง ต้องรักษามาตรฐานการทำงานภายในระยะเวลาการถ่ายทำ 17 สัปดาห์ บวกช่วงเตรียมงานอีก 3-5 สัปดาห์
  • ผู้กำกับภาพ ปีเตอร์ เปา พูดถึงแรงบันดาลใจของเขาว่าโทนสีเบาๆ ของ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพสีน้ำของจีน แต่เรื่องนี้มีสีสดใสเข้มข้นเหมือนภาพวาดของแวนโกะห์ เพราะเป็นภาพยนตร์ต่อสู้ผจญภัยที่มีความแฟนตาซี ซึ่งเอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์
  • การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ ปีเตอร์ เปา เป็นคนแรกในเอเชียที่ใช้ระบบกล้องดิจิตอล Panavision Genesis เขาเล่าว่าเลนส์สามารถบันทึกภาพได้นาน 1 ชั่วโมง และสามารถเล่นได้ที่ความเร็ว 48 เฟรมต่อวินาทีในเฟรมจริง พวกเขาถ่ายทำทั้งในทะเลทรายที่มีฝุ่นมาก น้ำตกและช่องเขาที่มีความชื้นมาก และในอากาศร้อนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ทว่าเมื่อนำฟิล์มเนกาทีฟไปผ่านกระบวนการ กลับไม่มีรายงานเรื่องฝุ่นหรือรอยขีดข่วนเลย
  • เจ็ต ลี คือตัวตั้งตัวตีในการชวน หยวนวูปิง มาออกแบบคิวบู๊เรื่องนี้ หยวนวูปิง กับ เจ็ต ลี ร่วมงานกันมาหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดคือภาพยนตร์กังฟูย้อนยุคเรื่อง Fearless (2006)
  • หยวนวูปิง เป็นคนกำกับ เฉินหลง ใน ไอ้หนุ่มหมัดเมา หรือ Drunken Master (1978) และบท ลู่หยาน ของ เฉินหลง ในเรื่องนี้ก็อิงมาจากไอ้หนุ่มหมัดเมา ซึ่งบังเอิญเป็นบทที่พ่อของ หยวนวูปิง เคยแสดง
  • เฉินหลง และ หยวนวูปิง โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และเรียนโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้แห่งเดียวกัน แต่ไม่ได้ร่วมงานกันมานานกว่า 2 ทศวรรษ กระทั่งพบกันอีกครั้งในเรื่องนี้
  • การออกแบบจังหวะของบทต่อสู้สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้วิธีแบบการทำงานแบบฮ่องกง ไม่ได้ใช้วิธีแบบอเมริกัน ทีมนักแสดงแทนจะอธิบายคิวบู๊ก่อนถ่ายทำจริงแค่ 5 นาที นักแสดงที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนอาจต้องใช้เวลาปรับตัวสักระยะ เช่น ไมเคิล แอนการาโน่ ที่กังวลในทีแรก แต่ภายหลังก็ปรับตัวได้
  • ก่อนถ่ายทำฉากต่อสู้แต่ละฉาก หยวนวูปิง กับน้องชายและทีมงานของเขาสองสามคนจะปรึกษากัน โดยคนหนึ่งจะออกความคิด แล้วอีกคนหนึ่งจะวิจารณ์ คนที่เหลือจะเสนอความคิดอื่นๆ สุดท้าย หยวนวูปิง จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะใช้ความคิดของใคร การดัดแปลงบทด้วยความคิดที่สดขนาดนี้ เป็นวิธีที่ฮอลลีวูดไม่เคยทำ
  • แม้เรื่องนี้จะถ่ายทำในสตูดิโอเหิงเตี่ยนเวิร์ลเสียส่วนใหญ่ แต่สำหรับฉากภายนอกหลายฉากก็ถ่ายทำในสถานที่น่าตื่นตาหลายแห่งในประเทศจีน เช่น ทะเลทรายโกบีในตุนหวง แม่น้ำเก้ามังกร น้ำตกที่เสียนจู้ ป่าที่หุบเขาวู่อี่ ป่าไผ่ที่อันจื่อ และสวนพลัมในฟางหยาน
  • สถานที่แรกที่ทีมงานยกกองไปถ่ายทำ คือทะเลทรายโกบี ซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่กว่า 490,000 ตารางไมล์และเกิดพายุทรายบ่อยๆ เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นสถานที่ที่โหดหินที่สุดสำหรับกองถ่ายด้วย
  • หุบเขาวู่อี่ อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน องค์การยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1999 ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากฝึกกังฟูกลางน้ำตกสูง 400 ฟุตของ ไมเคิล แอนการาโน่
  • ป่าไผ่ในอันจื่อที่ใช้ถ่ายทำในเรื่องนี้ เป็นที่ที่ปีเตอร์ เปา เคยมาถ่าย Crouching Tiger Hidden Dragon กับผู้กำกับ อังลี ด้วย
  • ฉากหนึ่งที่ทีมงานใช้สถานที่จริงถ่ายทำก็คือฉากทหารเผาหมู่บ้าน โดยใช้สถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากเหิงเตี่ยน พวกเขาตั้งใจราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาจริงๆ จึงถ่ายได้แค่เทคเดียวเท่านั้น จึงต้องระดมกล้องเท่าที่มี ตัวประกอบร้อยกว่าคน และกระท่อมทั้งหลายให้พร้อม
  • อากาศอันร้อนอบอ้าวในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เป็นบททดสอบความอดทนของนักแสดง อุณหภูมิสูงสุดระหว่างถ่ายทำคือ 42 องศาเซลเซียส หลิวอี้เฟย บ่นว่าตอนที่ถ่ายทำในป่าพลัม อากาศร้อนมาก และเธอต้องใส่แจ๊กเก็ตหนัง ถือผีพาซึ่งมีน้ำหนักมาก ถืออาวุธ ทั้งยังต้องสู้กับแม่ทัพหยกด้วย
  • บทภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากตำนานมหากาพย์ของจีนเรื่อง ไซอิ๋ว หรือ Journey to the West ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมของจีน มีเรื่องราวเกี่ยวกับนักบวช ถังซัมจั๋ง ผู้ออกเดินทางไปยังอินเดียในสมัยราชวงศ์ถัง เพื่อไปอัญเชิญพระคัมภีร์จากองค์พระพุทธเจ้า
  • ตัวละครส่วนใหญ่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีที่มาจากตำนานเกี่ยวกับการผจญภัยของจีน ราชาวานรหรือซุนหงอคง มาจากเรื่อง ไซอิ๋ว มหากาพย์ของจีนในศตวรรษที่ 16 เขียนโดย อู๋เฉิงเอิน ส่วน นางแอ่นทองคำ เป็นชื่อเดียวกับตัวละครที่ เจิ้งเพ่ยเพ่ย แสดง ในภาพยนตร์ของชอว์ บราเธอร์ส เรื่อง Da zui xia (1966) ส่วน นางพญาผมขาว เป็นตัวละครจากนิยายของ เหลียงหยูเซิง ซึ่งเคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วสองครั้งในชื่อเดียวกันนี้
  • บทภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกแก้ไขใหม่ถึงห้าครั้ง มีหลายฉากที่แก้ไขเสร็จระหว่างกำลังถ่ายทำ
  • เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องแรกของ เฉินหลง ที่เขาไม่ได้กำกับคิวบู๊
  • ตัวละคร เจสัน ทำให้ เฉินหลง นึกถึงตัวละครตัวหนึ่งที่เขาเคยแสดง นั่นคือ หยวนเสี้ยวเทียน ตัวละครกังฟูหนุ่มมือใหม่ในเรื่อง Drunken Master (1978)
  • เฉินหลง กล่าวถึงบทคุณลุงเจ้าของโรงรับจำนำที่เขาแสดงว่า เขาพยายามเลียนแบบการพูดและท่าทางการเดินของ มาร์ลอน แบรนโด ใน The Godfather (1972) แต่ใส่ความเป็น เฉินหลง เข้าไป และ เฉินหลง ไม่เคยรู้ว่าคุณลุงเจ้าของโรงรับจำนำคนนี้อายุเท่าไร จึงตีความเอาเองตามที่เห็นสมควร ซึ่งผู้กำกับก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร
  • การเล่นบทคุณลุงเจ้าของโรงรับจำนำ ทำให้ เฉินหลง ต้องแต่งหน้าหลายชั้น ใช้เวลาแต่งหน้าครั้งหนึ่งถึง 7 ชั่วโมง และใช้เวลาในการลบหรือถอดออก 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ เฉินหลง หงุดหงิดจนไม่อยากรับประทานอาหารและไม่อยากคุยกับใครเลย
  • เจ็ต ลี ตื่นเต้นมากที่จะได้แสดงบท ซุนหงอคง เพราะเป็นตัวละครระดับตำนานที่เขาไม่เคยแสดงมาก่อน แต่การแต่งหน้าแต่งตัวที่กินเวลา 5 ชั่วโมงครึ่งทำให้เขาเกือบถอนตัว เนื่องจากเขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถแสดงฉากบู๊ในสภาพเช่นนั้นได้ ผู้กำกับ ร็อบ มินคอฟฟ์ และผู้อำนวยการสร้าง เคซี่ย์ ซิลเวอร์ จึงไปปรึกษากับฝ่ายศิลป์และเครื่องแต่งกายเพื่อปรับภาพลักษณ์ของซุนหงอคงใหม่ ซึ่งทำให้ระยะเวลาการแต่งหน้าลดลงเหลือเพียง 3 ชั่วโมง
  • ซุนหงอคงปรากฏตัวเพียง 20 นาทีในภาพยนตร์ และเพื่อใช้ทรัพยากรอันมีค่าอย่าง เจ็ต ลี ให้คุ้ม ทีมงานจึงให้เขาแสดงอีกบทหนึ่ง นั่นคือ นักบวช ซึ่งกลายเป็นร่างหนึ่งใน 72 ร่างของซุนหงอคง
  • ทั้งบท นักบวชใบ้ และบท ซุนหงอคง เป็นบทในอุดมคติของ เจ็ต ลี เขากล่าวด้วยความปลื้มใจว่าเขาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อลูก
  • ผู้กำกับภาพ ปีเตอร์ เปา เป็นผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวละครหลายตัว รวมถึงนางพญาผมขาวด้วย เพราะเขาเคยเป็นผู้กำกับภาพให้ภาพยนตร์เรื่อง The Bride with White Hair (1993) ที่สร้างจากนวนิยายกำลังภายในชื่อเดียวกัน แรกเริ่มเดิมทีบทนักสู้ฝ่ายร้ายตัวนี้เป็นผู้ชาย แต่เมื่อ ปีเตอร์ เปา เสนอกับทีมงานว่าน่าจะเปลี่ยนบทนี้ให้เป็นนางพญาผมขาวหรือชื่อจริงว่า หนี่จาง แทน ผู้อำนวยการสร้างและมือเขียนบทก็เห็นด้วยทันที
  • สาเหตุที่ หนี่จาง หรือนางพญาผมขาว มีเส้นผมสีขาว เป็นเพราะแรงโทสะเมื่อคราวที่รู้ว่าเธอถูกคนรักทรยศ ดังนั้นเธอจึงมีความแค้นกับผู้ชายทุกคน โดยเฉพาะผู้ชายที่อ่อนแอกว่าและไม่อาจต่อกรกับเธอได้

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • ความสุขของกะทิความสุขของกะทิเข้าฉายปี 2009 แสดง ภัสสร คงมีสุข, สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, จารุวรรณ ปัญโญภาส
  • QuarantineQuarantineเข้าฉายปี 2009 แสดง Jennifer Carpenter, Steve Harris, Jay Hernandez
  • Bal GaneshBal Ganeshเข้าฉายปี 2009 แสดง Asha Bhonsale, Kailash Kher, Usha Mangeshkar

เกร็ดภาพยนตร์

  • Wolves - เดิมทีผู้กำกับและผู้เชียนบท เดวิด เฮย์เตอร์ ตั้งชื่อภาพยนตร์ในบทว่า Slaughter's Road อ่านต่อ»
  • The Water Diviner - รัสเซล โครว์ ผู้กำกับและนักแสดงบท โจชัว อยากให้นักแสดงตลก เจม ยิลมาซ มารับบท เจอมาล ตั้งแต่แรก อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Wonder Woman 1984 Wonder Woman 1984 การกลับมาครั้งนี้จะพา ไดอานา ปรินซ์ (กัล กาด็อต) ไปสู่ช่วงเวลาหลายปีหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคแรกในตอนนี้เจ้า...อ่านต่อ»