SIAMZONE.COM

********
ขอสักนิดนะครับ คือได้อ่านเจอข้อติมานิดนึง คือการวิจารณ์ของผมไม่ได้เน้นที่คุณภาพหรือความบันเทิงโดดๆ แต่เน้นที่ว่า มันเป็นอย่างไร อย่าง Doomsday มันส์จริงครับ แต่มันไม่มีอะไรเลย ส่วน No Country for Old Men คุณภาพยอดมากๆ แต่ความบันเทิง เข้าหาคนดูยาก ผมต้องการที่จะบอกว่า อ่านวิจารณ์และคะแนนควบคู่กันไปนะครับ เพราะเห็นชอบดูอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วก็ตีความผิดไป

ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านวิจารณ์นะครับ
********

Vantage Point : เสี้ยววินาทีสังหาร

หนังออกมาแนว Action แต่เน้นย้ำตรง Thriller ซะส่วนใหญ่ และเป็นหนังที่ให้ความเป็น Thriller ได้อย่างยอดเยี่ยม เราสามารถนั่งชมเรื่องนี้ และลุ้นไปกับมันได้จนกระทั่งจบ แถมช่วงสุดท้าย เราลุ้นสุดๆจนแถบลืมหายใจ กับฉากไล่ล่าบนถนนที่ออกมาสไตล์ Jason Bourne เลยทีเดียว

หนังเปิดเรื่องแบบหนังแนวการเมืองด้วยประเด็นสังหารประธานธิบดี แต่มันจะแปลกตรงไหนที่เล่าแบบตรงๆ หนังพยายามให้เรามีส่วนรวมและคอยนั่งดูว่า การกระทำได้เกี่ยวเนื่องกับใครบ้าง โดยจะเล่าเรื่องผ่าน 8 คน 8 มุมมอง ในเวลาเดียวกัน แต่จะให้คนละ 15 นาที เมื่อหมดส่วนของตนเองแล้ว ภาพก็จะย้อนไป แล้วกลับมาตอนเที่ยงใหม่ แต่จะเป็นอีกคนนึงแทน ซึ่งจากที่ผมดูปฏิกริยาคนในโรง รู้สึกตื่นเต้นบ้าง งงบ้าง มาไม้ไหนเนี่ย บางคนก็เริ่มจะบ่นล่วงหน้าเลย แต่พอเริ่มเข้าประเด็นแล้วนั้น มันเริ่มน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งแน่นอนว่า พอเริ่มเข้าประเด็น Vantage Point ก็ทำหน้าที่ความเป็น Action Thriller ได้ดีเยี่ยม ไม่น่าแปลกเลยที่ทำไมในอเมริกาฮิตแบบเงียบๆ คือค่อยๆฮิตจนปัจจุบันทำเงินเกือบ 70 ล้านแล้ว

ที่สำคัญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำให้ Dennis Quaid กลับมามีหนังฮิตแบบแสดงนำอีกครั้ง หลังจากตัวเอง เงียบเหงาจากการที่หนังไม่ค่อยทำเงินเท่าที่ควร โชคดีที่ได้หนังขายความบันเทิงแบบมีสไตล์อย่างเรื่องนี้ช่วยเอาไว้

ย้อนกลับไปถึงเนื้อเรื่องอีกนิดโดยส่วนตัวแล้วการเล่าเรื่องแบบนี้มันก็แปลกใหม่ดี แถมยังผสมสไตล์แอ็คชั่นไล่ล่าแบบ 24 อีกด้วย
แต่มันก็มีข้อเสียคือ เราต้องมานั่งดูเหตุการณ์ซ้ำๆย้ำๆ อย่างน้อยระเบิดเราก็เจออันเดิมหลายครั้งเลยครับ ซึ่งบางคนอาจจะสับสนและงงได้ แต่อย่างน้อยก็น่าดีใจครับ ที่ยังเสนอความแหวกแนวออกมาได้ และยังคงความบันเทิงได้ดีเยี่ยม พูดง่ายๆเลยว่าเรื่องนี้ ความบันเทิงแบบมีชั้นเชิงไม่ใช่หนังแอ็คชั่นไล่ล่าดาดๆทั่วไปแน่นอนครับ ส่วนประเด็นการเมืองในหนังที่ใส่เข้ามา ถึงแม้จะไม่ได้เลิศเลอ แต่ก็เป็นเหมือนเครื่องเทศที่ปรุงแต่งหนังให้เข้าที่ครับ

สรุปแล้ว Vantage Point จะต้องทำให้แฟน Jason Bourne ประทับใจได้ในระดับหนึ่ง และทำให้คอหนังแอ็คชั่นที่ต้องการความแปลกใหม่และความลุ้นระทึกไปในตัว Vantage Point คือเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ

เนื้อเรื่อง แปลกใหม่ น่าสนใจถึงแม้จะยังออกแนวเดิมบ้าง หรือเล่าเรื่องแบบแปลกๆบ้างในช่วงต้นๆ เอฟเฟกต์ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นครับ ส่วนนี้ ระเบิดขับรถไล่ล่า เราก็เห็นในหนังทั่วไปอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าทำได้ดี การแสดง Dennis Quaid และอีกหลายๆคน เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดกันไม่ได้เลย ต่างคนต่างส่งการแสดงให้กันเข้าถึงอารมณ์ได้เลยครับถึงแม้ว่าจะใช้นักแสดงมาเล่นไม่คุ้มกับความสามารถนัก ความบันเทิง เรื่องนี้สุดยอดครับ สนุก ลุ้น น่าติดตาม แต่ช่วงแรกค่อนข้างอืด และสร้างความสับสนเหมือนกับเหตุการณ์ในหนังเลย คุณภาพ อยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจครับ แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบ

มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 7.5/10
เอฟเฟกต์ 8/10
การแสดง 8/10
ความบันเทิง 9.5/10
คุณภาพ 7/10
คะแนนรวม 40/50 ให้เกรด B+ ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ B+ เช่นกันครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ความบันเทิงแบบมีชั้นเชิงซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีที่ว่า อย่างน้อยหนังมันให้มากกว่าค่าตั๋วที่เราเสียไป