เกร็ดน่ารู้จาก Juno
เกร็ดน่ารู้
- เป็นผลงานจากจินตนาการของ ไดอะโบล โคดี้ นักเขียนนิยายที่ผันตัวมาเขียนบทภาพยนตร์ เนื่องจากมีคนยุให้ทำ เธอจึงศึกษาภาพยนตร์วัยรุ่น และพยายามคิดหาแนวคิดใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำกับภาพยนตร์ที่เคยดูมา ในที่สุดเธอก็สร้างตัวละครชื่อ จูโน่ เด็กสาวคนหนึ่ง ที่ ไดอะโบล มองว่า เหมือนกับตัวเธอเองในตอนเป็นวัยรุ่น
- ผู้อำนวยการสร้าง เมสัน โนวิก ไปอ่านเจอบล็อกที่เขียนโดย ไดอะโบล โคดี้ ในอินเตอร์เน็ต และติดใจอารมณ์ขันของเธอ โดยยกย่องว่าเป็นสำนวนการเขียนแบบผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ร่วมสมัย และเป็นธรรมชาติ เขาจึงติดตามอ่านบล็อกของ ไดอะโบล นาน 6 เดือน จากนั้นจึงโทรหาเธอ ชักชวนให้เธอเขียนบทภาพยนตร์ ซึ่ง ไดอะโบล ในตอนนั้นตอบไปว่า เธอเคยพยายามเขียนบทภาพยนตร์แล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ
- ไดอะโบล โคดี้ ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ เคยเขียนหนังสือชื่อ Candy Girl: A Year in the Life of an Unlikely Stripper มาก่อน ในทีแรกผู้อำนวยการสร้าง เมสัน โนวิก คิดจะดัดแปลงหนังสือของเธอนี้เป็นบทภาพยนตร์ เขาจึงให้ ไดอะโบล เขียนตัวอย่างบทภาพยนตร์ส่งไปให้สตูดิโอดู ไม่กี่เดือนต่อมา ไดอะโบล ส่งบทเรื่อง Juno มาให้ เมสัน ซึ่งบทที่ว่านี้เป็นบทที่ใช้ถ่ายทำได้โดยแทบไม่ต้องแก้ไขอะไร
- ไดอะโบล โคดี้ ปลื้มมากที่ เจสัน รีตแมน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่เธอเขียนบทเรื่องนี้ เพราะเธอชื่นชอบผลงานของเขาจากเรื่อง Thank You for Smoking (2005)
- การคัดตัวผู้มารับบท จูโน่ นั้นค่อนข้างลำบาก เพราะต้อง จูโน่ เป็นบทที่ซับซ้อน ไม่เพียงต้องทำให้ผู้ชมรู้จักตัวละครเท่านั้น แต่ยังต้องทำให้พวกเขาอ้าแขนต้อนรับตัวละครอย่างเต็มใจ ทั้งส่วนดีและส่วนเสียด้วย ในที่สุดผู้กำกับ เจสัน รีตแมน ก็เลือก เอลเลน เพจ ผู้เคยแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่อง Hard Candy (2005) เนื่องจากเขาพอใจความสามารถในการแสดงสีหน้าของเธอ
- เจ เค ซิมม่อนส์ เป็นนักแสดงคนเดียวที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ของผู้กำกับ เจสัน รีตแมน ทั้งสองเรื่อง คือทั้ง Thank You for Smoking (2005) และเรื่องนี้ เนื่องจากเขาเป็นนักแสดงในดวงใจ ที่ เจสัน ออกปากว่าอยากให้แสดงในภาพยนตร์ของเขาทุกเรื่อง ครั้งนี้เขารับบทเป็น แม็ก พ่อของจูโน่ ที่แม้มองภายนอกจะดูห้าวๆ แต่ความจริงเป็นคนน่ารัก ซึ่ง เจสัน บอกว่าตรงกับตัวจริงของ เจ เค
- อัลลิสัน แจนนี่ย์ ผู้รับบทแม่เลี้ยงของ จูโน่ เคยแสดงในภาพยนตร์ของคุณพ่อของผู้กำกับ เจสัน รีตแมน ถึง 2 เรื่อง ได้แก่ Six Day, Seven Nights (1998) และ Private Parts (1997) และเธอรู้สึกชอบภาพยนตร์ Thank You for Smoking (2005) ของ เจสัน รวมทั้งชอบ เจสัน เป็นการส่วนตัว
- ไดอะโบล โคดี้ ชื่นชอบตัวละครแม่เลี้ยงของ จูโน่ ที่ อัลลิสัน แจนนี่ย์ รับบทมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเธอก็เป็นแม่เลี้ยง และมักรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่แม่เลี้ยงในภาพยนตร์มักเป็นตัวร้าย หรือไม่ถูกกับลูกเลี้ยง เธอจึงอยากเขียนบทแม่เลี้ยงดีๆ ที่มีความเป็นแม่ น่ารัก และเป็นคนที่ผู้ชมจะเอาใจช่วย
- การที่ ไมเคิล ซีร่า รับบท พอลลี่ ทำให้เขามีโอกาสแสดงเป็นนักเรียนมัธยมที่ชีวิตจริงไม่ค่อยได้สัมผัส เพราะเขาเรียนมัธยมปลายอยู่ปีเดียวก็ออกมาเรียนทางอินเตอร์เน็ต
- ภาพยนตร์แบ่งเรื่องราวออกเป็นหลายฤดู ทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งสะท้อนการตั้งครรภ์ 3 ช่วงของ จูโน่
- ฉากเปิดเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างสรรค์โดยบริษัท ชาโดว์เพลย์ โดยนำภาพที่วาดด้วยมือมารวมกันแล้วถ่ายด้วยกล้องภาพนิ่งความเร็วชัตเตอร์สูง จากนั้นก็นำมาปะติดปะต่อกันเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยเทคนิคสต็อปโมชั่น ซึ่งบริษัท ชาโดว์เพลย์ นี้ก็เป็นผู้ทำฉากเปิดเรื่องอันน่าจดจำของ Thank You for Smoking (2005) ด้วย ซึ่งงานในครั้งนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากซองบุหรี่โบราณ
- โทรศัพท์รูปแฮมเบอร์เกอร์ที่ปรากฏในเรื่อง เป็นของ ไดอะโบล โคดี้
- ขณะที่ตัวละคร จูโน่ ตามหาคู่รักที่เหมาะจะเป็นพ่อแม่ของเด็กในครรภ์ของเธอ จูโน่ กล่าวว่า เธออยากได้คนที่เท่เหมือนนักออกแบบกราฟฟิก ในชีวิตจริง ทั้งคุณพ่อของ เอลเลน เพจ ที่รับบท จูโน่ และทั้งสามีเก่าของผู้เขียนบท ไดอะโบล โคดี้ เป็นนักออกแบบกราฟฟิกทั้งคู่
- ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวโดยค่าย ฟ็อกซ์ เซิร์ชไลต์ พิคเจอร์ส และทำรายได้ไปได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ได้สูงสุดในบรรดาภาพยนตร์ 5 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัล ออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในปี 2008
- เพลงที่ตัวละคร มาร์ก และ จูโน่ เล่นและร้องด้วยกัน คือเพลง Doll Parts ของวง โฮล ส่วนเพลงที่ พอลลี่ บรีกเกอร์ และ จูโน่ เล่นด้วยกันในตอนจบของภาพยนตร์คือเพลง Anyone Else But You ของวง เดอะ โมลดี้ พีชเชส
- ฉากก่อนที่ตัวละคร จูโน่ ไปพบ มาร์ก นั้น มาร์ก กำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และอ่านบล็อกที่มีอยู่จริงๆ ของ ไดอะโบล โคดี้ ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ บล็อกนั้นมีชื่อว่า The Pussy Ranch
- เดิมภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีชื่อว่า Junebug แต่ก็เปลี่ยนเป็น Juno ในภายหลัง เพื่อไม่ให้ซ้ำกับเรื่อง Junebug ภาพยนตร์ในปี 2005 ของ เอมี่ อดัมส์
- รถที่ จูโน่ ขับในเรื่อง คือรถ โตโยต้า พรีเวีย ที่ผลิตครั้งสุดท้ายในปี 1997 แต่ยังคงใช้กันทั่วไปใน แวนคูเวอร์ ในขณะที่ถ่ายทำภาพยนตร์
- จูโน่ เป็นชื่อเทพธิดาแห่งเด็กแรกเกิดและการแต่งงานของชาวโรมัน
- ตัวละคร เบร็น แม็กกัฟฟ์ แม่เลี้ยงของ จูโน่ มีร้านทำเล็บชื่อ เบร็นส์ เทน ซึ่งอ้างอิงมาจากปืน เบรน เทน ที่ตัวละคร ซอนนี่ คร็อกเกตต์ ซึ่งรับบทโดย ดอน จอห์นสัน ใช้ ในภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง Miami Vice (1984)
- ผู้กำกับ เจสัน รีตแมน เคยตั้งใจให้มีฉากที่ จูโน่ เติมอาหารจนเต็มถาดในตอนต่อแถวเติมอาหารกลางวันที่โรงเรียน เพื่ออุทิศให้กับฉากคล้ายกันนี้ในภาพยนตร์เรื่อง Animal House (1979) ซึ่ง อิวาน รีตแมน พ่อของเขาเป็นคนกำกับ แต่ เจสัน เปลี่ยนใจไม่ใช้ฉากนี้ในภายหลัง เพราะมันทำให้บรรยากาศของเรื่องที่ไม่ตรงกับที่ต้องการ
- ฉากที่ลูกอม ทิกแทก ร่วงลงมาจากตู้ใส่จดหมายของ พอลลี่ นั้น ถ่ายทำโดยใช้ลูกสูบเกี่ยวยึดด้านหนึ่งของกล่องไว้โดยไม่ให้เห็นส่วนที่เกี่ยวในเฟรม
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำ 31 วัน
- หนังสือการ์ตูนเรื่อง Most Fruitful Yuki ที่ปรากฏในเรื่องนั้นไม่มีจริง แต่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนบท ไดอะโบล โคดี้ คิดขึ้นมาเอง
- ข้อความที่เป็นลายมือของ จูโน่ ที่อยู่ในหนังสือรุ่นของ พอลลี่ บลีกเกอร์ นั้น จริงๆ แล้ว ผู้เขียนบท ดิอะโบล โคดี้ เป็นคนเขียน
advertisement
วันนี้ในอดีต
เด็กหอเข้าฉายปี 2006 แสดง จินตหรา สุขพัฒน์, ชาลี ไตรรัตน์, ศิรชัช เจียรถาวร
Constantineเข้าฉายปี 2005 แสดง Keanu Reeves, Rachel Weisz, Shia LaBeouf
Million Dollar Babyเข้าฉายปี 2005 แสดง Clint Eastwood, Hilary Swank, Morgan Freeman
เกร็ดภาพยนตร์
- Tomorrowland - ผู้กำกับ แบรด เบิร์ด เป็นตัวเลือกแรกที่จะให้กำกับ Star Wars: Episode VII - The Force Awakens (2015) แต่ แบรด ปฏิเสธข้อเสนอเพื่อกำกับภาพยนตร์เรื่อง Tomorrowland (2015) โดย แบรด บอกว่าหากคุณมีโอกาสกำกับภาพยนตร์ต้นฉบับก็ควรคว้าโอกาสเอาไว้ อ่านต่อ»
- The Voices - เดิมทีผู้กำกับ มาร์จาน เซทราพี ตั้งใจให้นักแสดงคนอื่นมาพากย์เสียงสัตว์ต่างๆ ในภาพยนตร์ แต่ ไรอัน เรย์โนลด์ส นักแสดงบท เจอร์รี โน้มน้าว มาร์จาน ให้เขาเป็นคนพากย์เสียงสัตว์เอง เพราะตัวละคร เจอร์รี ได้ยินเสียงในหัวตัวเอง เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นเสียงของเขาเองในหลายรูปแบบ ไรอัน ยังบันทึกเสียงของตัวเองเป็นสัตว์หลายชนิดส่งให้ผู้กำกับพิจารณาอีกด้วย อ่านต่อ»