SIAMZONE.COM

ยังไงก็ไม่ประทับใจ แต่ไม่ถึงกับแย่ ถ้าใครดูพรีเดเตอร1-2 แล้วดูเอเลี่ยน1-4 ก็จะไม่ประทับใจAVPทั้ง2ภาคเท่าไรนัก คงรู้สึกกันได้จริงๆแบบไม่ต้องพูดมากมาย ให้7 (ก็ดี)

ผมคิดว่าพล๊อตเรื่องดีนะ แต่เนื้อเรื่องแย่มาก

รู้สึกว่า คำวิจารณ์หนังเรื่องนี้จะค่อนไปทางลบเสียมากกว่า อย่างไรก็แล้วแต่วันนี้ผมก็ยอมเสีย 140 บาท เพื่อที่จะเข้าไปดูอสุรกายที่เคยหลอนผมตอนเด็ก กับนักล่าขวัญใจผม โดยส่วนตัวแล้วก็รู้สึกว่าสนุกดีเหมือนกัน เพราะผมก็เป็นแฟนตัวจริงของเอเลี่ยนกับพรีเดเตอร์มานานแล้ว วันนี้เลยขอโอกาสมาวิจารณ์หนังเรื่องนี้เลยละกันครับ

สำหรับหนังเรื่องนี้ผมว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ ผมจะวิจารณ์ไปทีละอย่าง โดยเริ่มจากชมข้อดีก่อน จากนั้นค่อยติข้อเสียของหนังครับ

ข้อดี
1.งานกราฟิกของเรื่องนี้ถือว่าดีมาก สร้างเจ้าFacehuggerหรือตัวเกาะหน้าได้สมจริงเหมือนเคย ส่วนพวกเอเลี่ยนตัวดำๆรวมถึงเจ้านักเลงโตพรีเดเลี่ยนก็จะใช้หุ่นชดเชยข้อด้อยของกราฟิก ทำให้สมจริงมากๆ ทั้งดูน่ากลัว และน่าขยะแขยงไปในเวลาเดียวกัน

2.พรีเดเตอร์ในภาคนี้ กลับมาโหดดิบเหมือนในหนังเรื่องPredator1-2 ไม่ใช่หุ่นนักมวยปล้ำแบบภาคหนึ่งอีกแล้ว คราวนี้มันกระโดดไต่ไปตามต้นไม้ สิ่งก่อสร้างต่างๆได้อย่างว่องไว และสิ่งที่ผมชอบมากก็คือ ผู้กำกับเปิดตัวเจ้าตัวนี้ด้วยการให้มันเดินลุยน้ำขึ้นมาแล้วค่อยๆปรากฏตัวทีละน้อย พร้อมดนตรีประกอบฉากนี้ ถ้าแฟนหนังพรีเดเตอร์ได้ยินจะต้องหวนระลึกความหลังกันเป็นแถว

3.บรรยากาศในป่า พร้อมด้วยเสียงนกร้องก็เช่นเดียวกัน นั่นก็เป็นบรรยากาศของหนังพรีเดเตอร์ภาค 1 ที่แฟนหนังพรีเดเตอร์ทุกคนย่อมจดจำกันได้ดี

4.อย่างที่ผู้กำกับเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
"เหตุการณ์ไม่ได้เกิดในที่ห่างไกล ไม่ได้เกิดในอวกาศอันอ้างว้าง ในป่าลึกห่างไกลผู้คน หรือทวีปแอนตาร์กติกา แต่มันเกิดขึ้นในเมืองอันอบอุ่นแห่งหนึ่ง คุณลองคิดสิว่าอันไหนจะน่ากลัวกว่ากัน"

และแล้ว...หนังเรื่องนี้ก็ให้คำตอบกับทุกท่าน

5.ฉากการต่อสู้ในหนังเรื่องนี้ดุเดือดเข้มข้นกว่าภาคที่แล้วมาก แม้ว่าบางฉากจะดูเว่อร์ไปก็ตามที อาวุธของพรีเดเตอร์ถูกนำมาใช้มากมาย ขาดอยู่อย่างเดียวคือปืนตาข่าย(net gun)

6.ความเป็นดราม่าในหนัง เราอาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ที่เด่นๆเลยก็คือความรักระหว่างแม่กับลูก ซึ่งหนังแสดงออกมาได้ดีพอสมควร เห็นได้ชัดว่า เด็กหญิงในเรื่องนี้รักแม่ก็จริง แต่เนื่องจากแม่ลูกไม่ค่อยมีโอกาสจะเจอกัน เลยดูเหมือนกันว่า ลูกจะรักพ่อมากกว่า จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นมาก แม่ก็ต้องลุกขึ้นปกป้องลูกอย่างสุดความสามารถ ซึ่งภาพที่เห็นนี้ก็อาจทำให้เรานึกถึงริปลี่ ในเอเลี่ยนภาค 2 ที่แม้จะเป็นหญิงเหล็ก แต่ก็มีความเป็นแม่อยู่ในตัว

ข้อเสีย
1.เลือดเอเลี่ยนในภาคนี้ ดูจะเป็นกรดรุนแรงเหลือเกิน และก็น่าแปลกอย่างยิ่งที่พรีเดเตอร์ ดูไม่ค่อยจะกลัวเลือดกรดของเอเลี่ยนเอาเสียเลย

2.พระเอกในเรื่องนี้(ดัลลัส)แทบไร้บทบาทโดยสิ้นเชิง แม้ว่าจะมาทำเก่งอยู่บ้างตอนท้ายๆเรื่องก็ตาม

3.จงอย่าเชื่อเรื่องย่อของหนัง เพราะเรื่องจริงๆแม้จะมีส่วนคล้ายบ้าง แต่ไม่เหมือนทั้งหมด ทั้งเจ้าพรีเดเลี่ยนก็อยู่ข้างเดียวกับพวกเอเลี่ยน

สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้สนุกน่าติดตามพอสมควร ให้อารมณ์ได้หลากหลายเหลือเกิน ทั้งตื่นเต้น ขยะแขยง สยองขวัญ หดหู่ เศร้า(?) ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ออกจะเครียดๆอยู่บ้าง แต่ถ้าวัดกันด้านการต่อสู้ที่ดุเดือดแล้ว หนังเรื่องนี้สุดยอดมาก แม้ว่าบางฉากจะดูโหดเกินเหตุ จนกระทั่งคุณเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมมันถึงติดเรทR แต่ถ้าทำใจรับได้แล้วคิดเสียว่ามันก็คือ"หนัง" ดูเอาสนุกๆไม่ต้องไปซีเรียสกับบทบาทมันมาก ผมว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ผมชอบที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ

เต็ม10 ผมให้ 9

ดูมาเเล้ว...คือเเบบว่าตอนจบอะมันเหมือนกะเรื่อง ผีชีวะภาค2เลยตอนที่เครื่องบินตกง่ะคล้ายๆกันเลย ให้เเค่7/10 ก้อเเล้วกันนะ

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมเรื่องงานด้านภาพมากเลยครับ ทำได้แจ๋ว มีเอกลักษณ์มาก ช่วยเรื่องบรรยากาศในเรื่องได้พอสมควรเลย ส่วนเรื่องบทไม่มีปัญหาอะไรครับ เพราะดูเอามันอย่างเดียว

เดินเรื่องกระชับได้ครับ เปิดตัวปุ๊บ แอ็กชั่นเลย เยี่ยมครับ

สนุกดีครับ ฉากแอ็คชั่นโหด+เละได้ใจ ดีที่ภาคนี้คนจับปืนสู้เยอะกว่าภาคแรก(แต่ก็ล้มพรีเดเตอร์กับพรีเดเลี่ยนไม่ได้) เนื้อเรื่องรวบรัดดี ในเรื่องยังมีบริษัทWayland Yutaniจากภาคแรกเกี่ยวข้องด้วย(ที่จริงมีบริษัทนี้ในเกมส์AVP2ด้วย แต่เป็นพวกทหารรับจ้างฝ่ายอธรรม)

จริงๆไม่ประทับใจตั้งแต่ภาคแรกแล้ว แต่ก็มีโอกาสได้ดูภาค 2 อีกครั้ง ห่วยกว่าภาคแรกอีก ทั้งนักแสดง เนื้อเรื่องที่ไม่มีอะไร ให้ 6/10

ดูมาแล้วชอบมากๆๆครับ
เอเลี่ยนเท่ห์มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วพีเดเลี่ยนก็โหดได้ใจมากๆ
พร้อมเกลียดพีเดเตอร์ที่โกงตลอดใช้แต่อุปกรณ์ไม่ใช้แรงสู้เหมือนเอเลี่ยน
เนื้อเรื่องก็เฉยๆนะ
แต่เอฟเฟคนี่สุดยอดเลย
ภาค1 ดูยิ่งใหญ่กว่า
ภาค 2 โหดกว่าเพราะใครโผล่มาฆ่าหมด
ให้คะแนน 9.7/10

ที่หายไปคืออยากให้เอเลี่ยนสู้มากว่านี้โดยที่คนไม่ต้องเสือก
ให้มันสู้กันไป
รักเอเลี่ยนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Aliens Vs. Predator : Requiem : สงครามฝูงเอเลี่ยน ปะทะ พรีเดเตอร์ 2

หนังสำหรับความบันเทิงล้วนๆ ไม่ต้องหวังอะไรมาก ยิ่งอัพเกรดตัวเองมาเป็นเรท R เต็มตัว ยิ่งหายห่วงได้เลย ว่าจะโหดเลือดสาด ขนาดไหน แต่เมื่อผมดูจบกลับรู้สึกไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไร ฉากแอ็คชั่นมันก็มีเยอะนะครับ แต่มันดูไม่ยิ่งใหญ่สะใจเท่าไร ยิ่งเนื้อเรื่องด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึง กลวงเลยด้วยซ้ำ

ภาพรวมของหนังออกมาพอได้ครับ แต่ไม่ประทับใจในฉากต่อสู้ที่มุมกล้องนั้นค่อนข้างดูยาก และแยกแยะลำบาก เพราะมุมกล้องมืดมากๆ และจุดสังเกตก็ดันเหมือนกันมากๆอีก จึงทำให้แยกไม่ออก ว่าตกลง ตัวไหนเอเลี่ยน หรือ ตัวไหน พรีเดเตอร์กันแน่ โดยเฉพาะฉากสุดท้ายด้วยแล้วนั้น ขอบอกว่าไปดูกับเพื่อนมาหลายคน มึนกันทุกคนครับ

มาในด้านของเนื้อเรื่องนั้นทั้งกลวงและไร้ความสมเหตุสมผล ถึงแม้เราจะไม่คาดหวังอะไรกับมันมาก แต่เนื้อเรื่องมันออกดูทึ่มเกินจนทำให้เกิดความขัดเคืองใจและสงสัย และก็ทำให้เราอดถามไม่ได้ว่า ทำไมพรีเดเตอร์ต้องมาตัวเดียว ทั้งที่ตัวหนังก็ไม่ได้บอกว่ามันหมดดาวแล้วซะหน่อย

ในด้านเอฟเฟกต์นั้นถือว่ามีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น สมจริงขึ้น

เนื้อเรื่อง กลวง อ่อน บทไม่ค่อยฉลาด และไม่มีอะไรให้ติดตาม นอกจากฉากแอ็คชั่นที่น่าติดตามอย่างเดียว
เอฟเฟกต์ ส่วนนี้ดีที่สุดของหนังแล้วครับ สมจริงขึ้นมาก
การแสดง ส่วนนี้ก็ไม่มีอะไรให้น่าประทับใจนัก นอกจากทุกคนจะเล่นได้โอเค
ความบันเทิง ถ้าเป็นแฟนเดนตายคงจะสนุกมากๆ แต่ถ้าแฟนหนังธรรมดาอาจจะรู้สึกเอียนๆและสับสันกับการแยกแยะว่าตัวไหน เอเลี่ยนหรือพรีเดเตอร์กันแน่
คุณภาพ ภาคแรกดูดีกว่าเยอะครับ ยกเว้นเสียแต่แอ็คชั่นและความมันส์


มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 4/10
เอฟเฟกต์ 8/10
การแสดง 7/10
ความบันเทิง 7/10
คุณภาพ 4/10
คะแนนรวม 30/50 ให้เกรด C+ ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ C ครับ
หนังทำออกมาภาพรวมนั้นดูแย่กว่าภาคแรกเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ความโหดและแอ็คชั่นเจ๋งๆมาช่วย
คงทำให้การดูหนังภาคต่อเรื่องนี้ เป็นเรื่องเซ็งแน่ๆ

วิจารณ์ 2 ภาษาเช่นเคยครับ

อย่างแรก หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ใช้เอฟเฟคต์ดีสุดๆเรื่องหนึ่งของปี 2007 แต่ข้อดีของเรื่องนี้มีอยู่ที่เอฟเฟคอย่างเดียว
ตัวพลอตเรื่องเป็นอะไรที่น่าเบื่อและห่วยแตกมาก ตัวละครถูกนำมาใช้อย่างสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ที่โผล่มาปุปปัปก็ตายไป

จุดด้วยของเรื่องนี้ที่น่าตำหนิที่สุดคือ การฆ่าเด็กอย่างโหดเหี้ยม
อำมหิตและไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้ชม รวมทั้งฉากฆ่าหญิง
มีครรภ์ ซึ่งมันไม่สมควรนำมาฉายมาก

ที่สำคัญ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย จะจบก็จบแบบดื้อๆ คือเหมือน
กับให้มันจบๆไป

โดยส่วนตัว ผมให้คะแนน 3/10

เสียเวลา + เสียเงิน


Eng

This is one of the worst Sci-fi film I've ever seen.
Plot told about Alien and Predator from outer Earth.
Story is very bad bcause the main idea of this film is "Kill". In my conclusion , It WASTE my time and it's very wothless. Please make your decision before watching this film.

I give 3/10.