SIAMZONE.COM

National Treasure : Book of Secrets : ปฏิบัติการเดือด ล่าบันทึกลับสุดขอบโลก

Nicolas Cage กลับมาล่าสมบัติเป็นครั้งที่ 2 แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้ต้องยิ่งใหญ่กว่าเก่า สนุกกว่าเก่า และ ดีกว่าเก่า
แต่ช้าก่อนภาคแรกนั้นไม่เป็นที่ปลื้มของนักวิจารณ์นัก และท่าทางก็ดูออกมาว่าภาคล่าสุดนี้ก็ไม่ต่างกันถึงแม้
จะได้ดาราออสการ์ล่าสุดอย่าง Helen Mirren มาช่วยสร้างชื่อให้หนังก็ตาม

หนังภาคต่อนี้เริ่มเรื่องต่อจากภาคแรกโดยไม่ต้องเสียเวลาปูพื้นมากมาย อาศัยสิ่งแวดล้อมรอบข้างเป็นตัวดำเนินการ
เริ่มจากอาศัยชื่อเสียงที่มีเปิดนิทรรศการและงานบรรยายต่างๆ จนกระทั่งมีคนนำหลักฐานมายืนยันว่าบรรพบุรุษ
หรือปู่ทวดของพระเอกนั้นเป็นคนวางแผนฆ่า ประธานธิบดี อับราฮัม ลินคอร์น และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการล่าสมบัติ

เริ่มจากจุดเสียของหนังที่มีให้เห็นและไม่น่าให้อภัยนัก เริ่มตั้งแต่ประเด็นในเรื่องหลายอย่างไม่มีการสานต่อ
และอธิบายให้กระจ่างชัดเจนนัก ยกตัวอย่างที่ทาง FBI มีการสงสัยว่าทำไม Mitch Wilkinson (Ed Harris)
ถึงเก็บเงื่อนงำปริศนาและข้อเท็จจริงมานับเป็นเกือบร้อยๆปี ตรงส่วนนี้ทำให้เกิดอาการขัดๆ
และที่สำคัญคือการดำเนินเรื่องที่ไม่ลื่นไหลนัก ดูขัดๆแปลกๆ ถึงแม้ตัวหนังจะสนุกกับการไล่ล่าแต่ถ้า
ลองตั้งใจดูเนื้อหาแล้ว จะพบว่าปัญหาที่ผมพูดนั้น มีปรากฏให้เห็นพอสมควร

มาที่ส่วนดีของหนังบ้าง ภาคนี้มีพัฒนาการในด้านให้ความบันเทิงกับผู้ชมอย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่มุขตลกของผช. พระเอก
ที่มีแทรกเป็นจังหวะๆ ถึงแม้บางครั้งนั้นดูแล้วแป๊กบ้างแต่ก็ยังโอเค
การไล่ล่าสมบัติ การไขปริศนา ดูแล้วน่าติดตามตลอด ไม่ชวนให้เบื่อแม้แต่น้อย ยิ่งฉากเสี่ยงตายในภาคนี้ที่มากขึ้นยิ่งทำให้สนุกกว่าเดิม
ประเด็นความรักในหนังนั้น มีทั้งคู่เล็กและคู่รุ่นใหญ่ ที่จะพลัดกันเข้ามาทำหน้าที่ ถึงแม้บางช่วงจะดูออกตามสูตรไปสักนิด
แต่ก็ใส่เข้ามาไม่ทำให้หนังยืดเยื้อหรืออืดแต่อย่างใด

บางคนเมื่ออ่านมาถึงจุดนี้อาจจะเริ่มลังเลว่าตกลงหนังดีหรือไม่ ถ้าตั้งใจดูและจับผิดหนังตลอดเวลาหนังก็จะไม่สนุก
แต่ถ้าเราดูตามสบาย สนุกกับการไล่ล่าและไขปริศนา แน่นอนว่านี้คือความบันเทิงที่มากกว่าภาคก่อนและน่าติดตามกว่าเก่า

เนื้อเรื่อง สนุกดีมีสาระและเป็นสื่อที่ทำให้ประวัติศาสตร์ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด แต่ก็ดันมาตกม้าตายตรงเนื้อเรื่องไม่แข็งแรงพอ
ถึงจะมีหลักความจริงของประวัติศาสตร์หนาแน่นพอ
เอฟเฟกต์ อลังการกว่าเดิม ดูสมจริง
การแสดง Nicolas Cage ยังรับบท Benjamin Gates ได้ดีเหมือนเดิม ส่วนคนอื่นๆก็ยังรักษามาตรฐานเดิมไว้
จะมีก็เป็น Helen Mirren ที่แม้จะบทน้อยไปหน่อยแต่ก็แสดงได้ดีไม่มีตก
ความบันเทิง ส่วนนี้เจ๋งที่สุดครับ ความบันเทิงที่มากกว่าเดิม สนุกกว่าเดิม
คุณภาพ ถึงแม้จะออกมาดีกว่าภาคแรก แต่ก็ยังมีจุดด้อยปรากฏมากเหมือนกัน

มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 8/10
เอฟเฟกต์ 8.5/10
การแสดง 7.5/10
ความบันเทิง 8.5/10
คุณภาพ 7/10
คะแนนรวม 39.5/50 ให้เกรด B+ ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ B
ถึงแม้จะทำออกมาได้ดีกว่าภาคแรก แต่เนื้อในของหนังโดยเฉพาะตัวเรื่องนั้นยัง รั่วอยู่ครับ
แต่ถ้าเน้นสนุกและความบันเทิงล้วนๆ เรื่องนี้เหมาะอย่างยิ่งครับ
ยังไงไปใช้สิทธิแล้วมีเวลาว่าง National Treasure : Book of Secrets คือตัวเลือกที่ดีครับผม

เราว่าภาคนี้ มันมีมุขตลก มากกว่าภาคแรกนิดนึงนะ ดูแล้วฮาดีอ่ะ ส่วนเรื่องนี้ คล้ายๆภาคแรกเลย ตรงที่ว่า ชอบทำไรเสี่ยงๆอ่ะ แอบเข้าไปในนู้น แอบทำไรที่มันเสี่ยงจะโดนจับอ่ะนะ ชอบแม่พระเอกมากๆเลย

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น การแก้ปริศนาผมว่าสู้ภาคแรกไม่ค่อยได้ครับ มันดูบังเอิญเกินไป เช่น ตอนราดน้ำแล้วเห็นรูปนกบนหิน พระเอกแก้ปริศนาอยู่ดีๆ ก็คิดว่าต้องราดน้ำลงบนหินเฉยเลย(ไม่ค่อยมีเหตุผล) แล้วก็นางเอกบังเอิญที่ไปราดถูกตรงจุดพอดี (เวอร์ไปครับ) แล้วก็พระเอกตีความปริศนาไม่เคยผิดเลยครับถูกตลอด แต่โดยรวมแล้วก็สนุก คุ้มค่าตั๋วครับ

สุดยอด มากมายครับ มีมุข ด้วยงิงิ ผมสงสัยเหมือนกัน หน้า 47 คืออะไร สงสัยเป็นภาค 3

สนุกครับ บอกได้ว่าหนังดี ทำไม่โอเวอร์ ให้รู้สึกเป็นไปได้อยู่ เนื่อเรื่องปริศนาเยอะดี ดูแล้วสนุกสนานทำให้ไม่ต้องมานั่งจับผิดเลย

สนุกมากๆ

ถึงแม้ว่าจะดูไปได้ 15 นาที

ก็เดาแนวทางของเรื่องออก

แต่รายละเอียดที่น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง

ก็ทำให้เราสนุกไปกับมันได้อย่างดี

ชอบตอนที่ ไรลี่ อยู่ในห้องน้ำจัง

ดูแล้วเป็น มืออาชีพ ดี

ส่วน เกจ และ อาบิเกล ก็รับส่งลูกได้อย่างเป็นธรรมชาติ เข้าขา กันมาก

มีมุขให้ขำได้เรื่อยๆ

***ในหน้า 47 มีอะไร ใครรู้ช่วยตอบด้วย

สนุกมากๆ อยากดูอีก
ผูกเรื่องได้ก่งมาก จนคิดว่า
อาจจะมีอยู่จริงๆ

สนุกมาก ..
ภาคแรก สนุกยังไง
ภาคสอง สนุกอย่างนั้น ..

สนุก ดูแล้ว ไม่เสียดาย เลย ..