วิจารณ์ สียามา

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 2 มิ.ย. 52 17:20

    ดูเวอร์ไปนิดครับ รถยนต์ในสมัยโบราณ เฮอะ เฮอะ ส่วนการต่อสู้ถือว่าแบเบาะมากครับดูแล้วไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลยเหมือนกับใช้ดาบแตะกันแล้วก็ตายยังไงยังงั้น

  • เมื่อ 19 ก.พ. 51 08:21

    หนังห่วยมาก CGก็ไม่เหมือน นักแสดงก็ตีบทไม่แตกโดยเฉพาะ
    พระเอกนางเอก แสดงได้ห่วยมากๆอย่าไปดูเลยครับ หนังจับฉ่าย

  • เมื่อ 15 ก.พ. 51 22:46

    หนังสนุกมากๆครับ แฟนตาซีสวยงาม ชุดอลังการ แถมยังได้ข้อคิดดีๆเรื่องรักชาติด้วยนะ ชอบๆ

  • เมื่อ 11 ก.พ. 51 19:57

    จ่ายตังค์ซื้อสี...ยามา
    สียี่ห้อนี้มันยังไงๆ ก็ไม่รู้...

    เปิดตัวมานกกาบิน... บินแปลกๆ ถึงจะพยายามลอก CG มามากแล้ว

    แต่ที่แย่ที่สุด คือปัญหาที่ CG ช่วยแก้ไขไม่ได้ และไม่เคยทำได้... นั่นคือการลำดับเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ มีเหตุผลที่สมควร และการตัดต่อที่ละเอียดอ่อน... สามเรื่องนี้แหละที่ทำไม่ได้ และทำให้สียี่ห้อนี้ นอกจากจะไม่ปิดรอยแตกลายงาแล้ว ยังม่มัน..เงา... และไม่สามารถปกปิดพื้นผิวหยาบๆ ของอาคารได้อีกด้วย

    แย่เนอะ...

    สำหรับผมแล้ว นี่คือคำถามที่สียามาควรจะต้องตอบผู้ดู...

    1. ทำไม 3 คนนั่นถึงไม่ตกใจที่ย้อนเวลามาได้...และ 3 คนนั่น มีความรู้สึกอย่างไรที่ได้ย้อนเวลา หนังตัดส่วนของการทำใจในแบบมนุษย์ปกติธรรมดาออกไป ... อันที่จริงก็เข้าใจเรื่องการตัดส่วนที่ไม่ทำให้เนื้อเรื่องเสียหายออกไป แล้วคาดหวังว่าคนดูจะมีคำตอบของตัวเอง เหมือนเรื่องคิงคองภาคล่าสุด ที่มีคนสงสัยว่า ทำให้มันสลบแล้วลากมาที่เมืองได้ยังไง ตัวใหญ่ซะขนาดนั้น แต่สียามา...มีเยอะเกินไป ซึ่งจะเขียนต่อเป็นข้อที่ 2 แต่เพียงแค่ข้อแรก ก็รู้สึกเหมือนว่า 3 คนนี้อยากรบเสียเต็มประดาและขุดอุโมงค์กาลเวลาเข้ามาอย่างงั้นแหละ...

    2. ปรายเป็นใคร ตอนท้ายบอกว่าอยู่แถวนั้น มาบ่อย... เดาว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่ทักษะการใช้อาวุธแบบนี้เนี่ย...แหม... แต่ก็เอา ไม่ได้สำคัญเท่าความสงสัยที่ว่า ทำไมในตอนท้าย ปรายจึงเลือกกลับกับกลุ่ม 3 คน ทั้งๆ ที่จุดที่ตัวเองมา ก็จอดรถเอาไว้เหมือนกัน แถมตอนนั้นเดินตามพระมาเสียอีก... แสดงว่ามันอยู่ไกลและเข้าไปในแดนข้าศึกหรืออย่างไร ทำไม 3 คนนั่น ถึงไม่เลือกกลับทิศเดียวกับที่ปรายมา และยิ่งไปกว่านั้น ปราย กับ 3 คนนั่น มาจากยุคเดียวกันแน่หรือ ถึงกลับทางเดียวกันได้ ถ้าคนที่เหมาะสมจะมาช่วยสียามามาจากคนละยุคสมัยล่ะ (ขออภัยที่คุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องเยอะ ใครอยากไปดูก็ยังไม่ควรอ่านนะ....) การกลับไปยุคเดียวกับ 3 คนที่มาทีหลัง อาจกลายเป็นการกลับไปก่อนช่วงเวลาที่มาสียามาก็ได้นะ... แน่นอนว่า หนังละตรงนี้ไว้ให้เข้าใจว่า ทั้งสองกลุ่มมาจากช่วงเวลาเดียวกัน

    3. หุบเขาสูงที่ขึ้นไปตั้งระเบิดนั้น... อยู่ตรงไหนของแผนที่กันแน่ เพราะนกกาบินจากที่พักพม่ามาถึงหมู่บ้าน ก็ผ่านช่องเขานั่น... จำเรื่องนเรศวรได้ไหม เรื่องนั้นก็มี location คล้ายๆ อย่างนั้นเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำคือ ถล่มช่องเขา เพื่อตัดกำลังศัตรู และทำให้ศัตรูเดินทางได้ช้าลง... แต่สิ่งที่สียามาทำคือ สู้กับพม่าก่อน แล้วตอนท้ายปล่อยควายไปไล่ศัตรู (เฉลยเนื้อหาอีกแระ... ขออภัยอีกครั้งสำหรับคนที่ยังไม่ได้ดูและไม่เชื่อคำเตือนในข้อ 2) หลังจากนั้นค่อยระเบิดช่องเขาที่พม่าวิ่งหนีไป... สรุปว่า สียามาอยากสู้ แล้วเก็บเรื่องระเบิดช่องเขาไว้เป็นแผนสุดท้าย แทนที่จะระเบิดช่องเขา แล้วค่อยสู้กับกองทัพพม่าที่เหลืออย่างนั้นหรือ... นี่ผมโง่ หรือ สียามาไม่ฉลาดกันแน่

    4. ยังเกี่ยวกับผาคู่สู้สุดท้ายอีกนิดนึง... ดูๆ แล้วมันสูงมากไม่ใช่เหรอ... แล้วตอนควายไล่ศัตรูเนี่ย มันนานมากเลยเหรอ.... ควายวิ่งไล่คนไปถึงช่องเขา กะคนวิ่งตามควายขึ้นไปอยู่บนหน้าผาเหนือช่องเขาเพื่อจะระเบิดให้หินถล่มใส่พม่าเนี่ย เร็วเท่ากันเลยนะ แถมหลังจากปลอยควายแล้วเนี่ย... ก็เห็นยังสู้กันอีกพักนึงนี่นา... กดลิฟต์ขึ้นเขายังไม่เร็วเท่านี้เลยนะ... ก็เห็นตอนติดตั้งก็ปีนเชือกขึ้นไป ซึ่งดูยังไงๆ ก็เป็นการปีนจากช่องเขา (ซึ่งตอนนี้ควายเพียบ) แล้วนี่ตกลงขึ้นไปทางไหนละเนี่ย เผลอแป๊บเดียวขึ้นไปถึงบนสุดซะละ... อ้อ แน่นอนล่ะ... หนังละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจกันเอง (ซึ่งผมไม่เข้าใจ)

    5. ธนูคู่ของนางเอกหายไปไหน... ตอนกลางเรื่องก็เห็นใช้อยู่ หลังจากนั้นเธอก็ทิ้ง แล้วไปช่วยเด็กที่โดนฟัน (ขออภัยนี่คือเรื่องจริง มีเด็กผู้หญิงโดนฟันให้เห็นจะๆ ในเรื่องนี้... แต่อย่ามาอคติกับคำว่า "ฟัน" นี้นะ...ขอร้อง) หลังจากนั้น ก็เห็นเธอใช้อีก แต่ยิงทีละ 1 เท่านั้น... ก็เลย อ้าว... มันก็อันเดิมนีนา แต่ยิงทีละสองเนี่ย มันเปลืองใช่ไหม... เลยยิงทีละหนึ่งซะเลย นี่ไม่นับถึงกลุ่มแมว 9 ชีวิตคนนึงที่ใช้ธนูนะ... คนนั้นยิงทีละ 1 ปกติดีอยู่หรอก แต่ศัตรูที่ยืนดูธนูแล้วโดนยิงในระยะใกล้ (ในบางฉาก) เนี่ย... มันแปลกดีนะ จำได้ว่าฉากแบบนี้ ไม่มีทางได้เห็นใน "หลอดออฟเดอะริง" ที่โอแรนโด้เล่นหรอก ธนูมีไว้สู้ระยะไกล และจะใช้ในระยะประชิดแบบสมเหตุสมผลเท่านั้น การวิ่งเข้าไปยิงระยะใกล้กับศัตรูเนี่ย... มันแหม่งๆ นะ

    6. เหรียญบาทสะท้อนแสงได้ ทั้งๆ ที่อยู่ในผ้า ทำได้ไงอ่ะ จริงๆ แล้วรู้สึกดีมากๆ กับการเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แม้หนังจะดูจงใจมากเกิน ด้วยการมอบของมีคมให้เป็นทีระลึก แล้วต้องแก้เคล็ดด้วยการให้เงิน แถมพระเอกยังเตรียมเงินไว้พร้อมแล้วเสียอีก หยั่งกะรู้ว่าจะได้หอก.... ถ้าจะให้เหรียญเป็นทีระลึกกะพ่อเฒ่าเนี่ย... ให้ไปเร้ยยยย ไม่ต้องใช้หอกมานำเรื่องก็ได้ ... อ้อ กลับมาเรื่องเหรียญสะท้อนแสงเนี่ย... ถ้าสะท้อนได้ขนาดนั้นน่ะ... เหรียญน่าจะตกลงพื้นแล้วไม่ใช่เหรอ? (หรือพ่อเฒ่าจะหัวเหนียว)

    7. ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ไม่ใช่หรือ... หนังพยายามจะทำอะไรกับความเป็นจริงในข้อนี้ การอยู่หรือการตายของคนในอดีตล้วนมีผลต่อคนปัจจุบัน (ไปดู Back to The Future หรือ Sound of Thunder ดิ) เว้นแต่ว่าเป็นแผนที่พระเจ้าเตรียมไว้แล้ว เหมือนอย่างหนังฝรั่งบางเรื่อง... คนทั้ง 4 ควรอยู่ในฐานะพยานของประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่มีคนเล่าถึง หรือประวัติศาสตร์ทีเป็นตำนานซึ่งไม่มีใครพิสูจน์ได้ (ในกรณีที่ไม่อยากให้สียามาต้องอ้างอิงประวัติศาสตร์มากเกินไป) แต่นั่นคงไม่ถูกใจผู้กำกับ เพราะมีคนเล่นมุขนี้ไปหมดแล้ว... ผมยังรู้สึกว่า ถ้าชาวสียามาจะชนะ ก็ต้องเพราะคนของสียามา หรือจะแพ้ ก็เพราะประวัติศาสตร์ระบุไว้แล้วว่าต้องแพ้... การมีส่วนร่วมในประวัติศาตร์ การเข้าไปสู้รบ ฯลฯ เนี่ย ทำได้นะ... แต่จะรู้ได้ไงอ่ะ ว่าจะไม่ทำให้ตระกูลไหนในพม่าหายไป หรือตระกูลไหนในไทยโผล่ขึ้นมาในอนาคต... ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก นี่มันแค่หนัง ใครๆ ก็คงคิดอย่างนี้ใช่ไหมล่ะ

    8. สุดท้ายแระ จริงๆ แล้วยังแหม่งๆ อีกหลายจุด แต่มันคงยาวเกินไป... ผู้เยี่ยมยุทธทั้งสอง ตัดสินใจทำอัตตวิบากกรรม ซึ่งแปลได้สวยงามกว่าว่า อุทิศชีวิต หรือ เสียสละ... แต่เล่นโดดลงจากผาเพื่อจัดการกับระเบิดเนี่ยนะ โอกาสพลาดมันเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็ไอ้ตอนเอาถังขึ้นไปตั้งไว้น่ะ ไม่ได้ใช้เชือกหรอกเหรอ.... แล้วมันหายไปไหนแล้วล่ะ หรือพอใช้เสร็จแล้วก็เลยเอาไปถักเสื้อเกราะกันหมดแล้ว.... แย่จัง...

    รวมๆ แล้วเป็นหนังไทยที่งาน Production ดีนะครับ แต่เนื้อเรื่องขาดความน่าเชื่อถือว่าจะเป็นไปได้อยู่หลายจุด... ก็ถ้าอยากให้หนังมีจุดบอดเรื่องความเป็นไปได้ขนาดนี้ ก็ทำหนังแฟนตาซีอภินิหารซะเลยไม่ดีกว่าเหรอ... จะได้ดูเหมือนเกมมากกว่าไง... ผมว่าคนทำเรื่องนี้ก็คงมีมุมมองของตัวละครในเกมแฟนตาซีคอมพิวเตอร์อยู่แล้วนี่นา... ความเป็นไทยในสียามา จึงได้ออกมาทางเสื้อผ้าอลังการขนาดนั้น...

    อ้อ จริงๆ แล้วเรื่องนี้สนุกนะครับ... แต่ไม่มากพอ ผมดูเรื่องนี้เพราะอยากเสียตังค์ให้คนทำหนัง ก็เท่านั้น นี่ก็ทำใจไว้เยอะแล้วเหมือนกัน คงต้องปรับปรุงสูตรกันอีกเยอะจนกว่าสียีห้อนี้จะมันเงา แวววาวสะท้อนแสง และมั่นใจได้ว่า เมื่อสำผัสแล้วจะไม่หลุดติดมือออกมาด้วยแหละ... ความเห็นผมเป็นอย่างนี้แหละ อย่าว่ากันนะ... สี..ยามา

  • เมื่อ 11 ก.พ. 51 10:18

    หนังดีอะ...เนื้อหาดีมากๆ คนไทยน่าจะไปดูกันเยอะๆนะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องการเล่าเรื่องหรอกค่ะ เนื้อหาดีก็โอเคแล้ว

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 7 ก.พ. 51 16:05

    เพิ่งได้ไปดูมาค่ะ หนังโอเคเลยทีเดียว มีครบทุกรส ทั้ง ตลก แอ๊คชั่น ดราม่า แถมยังปลุกใจให้เรารักประเทศชาติมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ค่ะ

  • เมื่อ 2 ก.พ. 51 11:05

    ให้ตายสิ ภาพรวมผมขอชม และขอโหวตให้ 9 คะแนนเลยทีเดียว ตอนแรกนึกว่าหนังประมาณบางระจัน ที่มีประวัติศาสตร์อย่างเดียว แต่เมื่อดูแล้วหนังกลับกลายเป็นการผสมผสานกับคนยุคปัจจุบันที่เข้าไปในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นั้น ทำให้หนังน่าดูขึ้นเยอะมากขึ้นทีเดียว เนื้อเรื่องก็สื่อเพื่อให้ผู้ชมได้เข้าใจว่าคนไทยสมัยก่อนได้รักษาดินแดนสยามนี้ไว้เพื่อให้เราทุกคนได้อยู่ในผืนแผ่นดินนี้จนปัจจุบัน มีฉากหนึ่งทำให้ผมร้องไห้เลยทีเดียว ส่วนภาพการต่อสู้ก็ทำได้ดีขึ้นกว่าหลาย ๆ เรื่อง ด้าน CG ยังไม่แนบเนียนเท่าที่ควร และอย่าไปคิดมากในเรื่องการเจาะเวลา เพราะหนังไม่ได้เน้นอ้างอิงเรื่องจริงจากประวัติศาสตร์ แต่เป็นการสร้างหนังสงครามขึ้นมาเรื่องหนึ่ง เพื่อให้คนไทยรักและเกิดความสามัคคีในแผ่นดินสยามที่บรรพบุรุษได้รักษามาให้คนไทยตราบนานเท่านานจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งถ้าหนังออกมาแบบประวัติศาสตร์ทั้งหมดจะทำให้หนังน่าเบื่อเกินไป ส่วนตัวแล้วชอบมาก ๆ อยากให้ไปดูกัน

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 2 ก.พ. 51 00:11

    ทีแรกนึกว่าเป็นหนัง สงครามสมัยก่อนที่จะมีอะไรๆ ซ้ำๆ เก่าๆ
    ก็ดูโดยไม่คาดหวังอะไร ครับ
    แต่กลับ ... มีเซอร์ไพร์ +++ ไม่ขอพูดสปอย

    สนุกดีครับเนื้อหากันเอง เวอร์ไปหน่อยก็โอเค
    หนังคนไทยทำนี่ครับ สนับสนุนหน่อย หนังต่างประเทศไม่ดี
    มีเยอะแยะออก

    ให้ 6 หล่ะกันครับ สำหรับดูขำๆ ไร้สาระฮาๆ *-*

  • เมื่อ 1 ก.พ. 51 23:27

    ผมว่าที่มีเรื่องเจาะเวลากลับไปอดีตนี่ เอาใจคนดูหนังวิทยาศาสตร์ด้วยแหละครับ เพราะคนพวกนี้ไม่ค่อยชอบดูหนังประวัติศาสตร์เท่าไหร่ เค้าเลยโยงเรื่องให้มันเข้าหากัน เหมือนเจาะเวลาหาจิ๋นซี อะ ผมชอบนะครับ หนังสนุกดี ดูแบบเพลินๆน่ะ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 1 ก.พ. 51 08:30

    ไม่น่ามีเรื่องเจาะเวลากลับไปในอดีต เพราะเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์น่าสนใจอยู่แล้ว
    ชุดประกอบฉากดี ดนตรีประกอบใช้ได้ แต่มีเรื่องเจาะเวลาเข้ามาทำให้
    หนังไม่ขลัง ไม่ตื่นเต้นระทึกเท่าที่ควรและไม่ค่อยได้แสดงให้ถึงพิชัยยุทธในด้านเชิงรบ
    แต่นายกองตัวเอกที่เป็นตัวร้ายเล่นได้ OK ดีมากถูกใจ

มีทั้งหมด 11 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • AlexanderAlexanderเข้าฉายปี 2004 แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
  • Puss in BootsPuss in Bootsเข้าฉายปี 2011 แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
  • ฝนตกขึ้นฟ้าฝนตกขึ้นฟ้าเข้าฉายปี 2011 แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Woman in Black 2: Angel of Death - เอเดรียน รอว์ลินส์ ผู้สวมบท ดอกเตอร์ โรดส์ เคยรับบท อาร์เธอร์ คิปป์ส ใน The Woman in Black (1989) อ่านต่อ»
  • Project Almanac - ตอนแรกภาพยนตร์ชื่อนี้ใช้ชื่อว่า Welcome to Yesterday ก่อนผู้กำกับ ดีน อิสราเอลิต เปลี่ยนชื่อเป็น Project Almanac อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Lion King The Lion King ผจญภัยสู่ทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกาที่ซึ่งราชาได้ถือกำเนิด ซิมบา (โดนัลด์ โกลเวอร์) มีราชามูฟาซา (เจมส์ เอิร์ล โจนส์) บิด...อ่านต่อ»